ภาพรวม MSI Prestige 14 A10RB ( CPU : Intel Core – i7 10510U RAM : 16 GB GPU : Nvidia MX 250)
MSI นอกจากจะมีจุดเด่นที่ Gaming Notebook แล้ว ตัว Prestige ถือเป็นซีรีย์หนึ่งที่ออกมาสำหรับสายทำงานโดยเฉพาะ น้ำหนักเบา ดีไซร์สวย ตัวที่ได้มารีวิวนี้เป็นสีขาว ทำให้ดูโดดเด่นมาก หากอยู่ท่ามกลาง Notebook ที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำและสีเทา
Prestige 14 ออกแบบมาสำหรับสาย Creator โดยเฉพาะ (แต่อาจไม่เหมาะสำหรับทำกราฟฟิคหนัก ๆ อันนี้ต้องบอกไว้ก่อน เพราะ GPU ที่ใส่มาให้นั้นเป็น MX 250 แต่สามารถ Custom ได้สูงสุดที่ 1650 Max-Q) แต่ MSI มีซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการทรัพยากรในเครื่อง เราสามารถเลือกได้ว่า โปรแกรมใด จะใช้ CPU เท่าไหร่ พร้อมสามารถปรับแต่งค่าอื่น ๆ เพิ่มเติมได้
ไปดูสเปคกันก่อนเลย
Design
- สีขาว สวยสด เสริมบุคลิกภาพผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
- ตัวเครื่องส่วนจอด้านล่างจะถูกยกขึ้นเล็กน้อยประมาณ 5 องศาเวลาเปิดใช้งานปกติ ซึ่งช่วยในการดูดอากาศจากด้นล่างเข้าตัวเครื่อง
- ด้านหลังเป็นช่องสำหรับดูดลม ดีไซร์คล้ายคลื่น equalizer เสียง สวยไม่ใช่เล่น
- ด้านหลังของจอมีโลโก้มังกรเงิน MSI สีเงินตามสไตล์ของ Prestige ติดเครื่อง ไม่เป็นรอยนูน
- มีกล้องอยู่ด้านบนของขอบจอ ขนาด 30 fps ความละเอียด 720P
- น้ำหนักเพียง 1.29 kg รวม Adaptor จะอยู่ประมาณเกือบ ๆ 2 kg
- ขอบจอบางแบบ Thin – bezel
—————————————–
Screen
- หน้าจอ 14 นิ้ว ขนาด FHD (Full HD)
- เป็น IPS Level โดยข้อดีของ IPS คือ ประหยัดไฟ มี White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความเที่ยงตรงของสีที่สูงกว่า และสมจริงมากว่า มีการตอบสนอง Response time ที่รวดเร็ว และให้ความละเอียดสูง
—————————————–
Keyboard & Touchpad
- ตัวคีย์บอร์ดเป็น Backlight สีขาว สามารถปรับความความสว่างได้ 3 ระดับ
- คีย์บอร์ด เวลากดใช้งาน ให้ความรู้สึกว่ากดง่าย ไม่ใช้แรงกดเยอะ แต่ใช้งานแรก ๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ชิน ปุ่มกดดูไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่
- ระยะห่างของปุ่มแต่ละปุ่มได้มาตรฐานตามลักษณะการพิมพ์ทั่วไป
- Touchpad ให้มาเป็นแบบขนาดใหญ่ เหมะสำหรับทำงานได้หลากหลาย เวลาใช้งานให้ความรู้สึกนุ่มลื่น สมกับที่ MSI เคลมไว้ว่าเป็น Softtouch
- ที่ปุ่ม Touchpad มีปุ่มสแกนนิ้วมือ เอาไว้ใช้ร่วมกับ Windows Hello
—————————————-
Connector
- ด้านขวาของตัวเครื่อง มีช่องเสียบ USB2.0 สองช่อง (สามารถเสียบตัวแปลงสาย LAN ได้เพราะตัวนี้ไมมีช่องเสียบ LAN มาให้)
- ถัดมาช่องเสียบหูฟัง 3.5
- ด้านซ้ายขอตัวเองเครื่อง มี USB Type-C Thunderbolt™3 จำนวน 2 พอร์ต ใช้งาน USB และเป็นปุ่มเสียบชาร์จแบบ PD หรือ Fast Charge
————————————-
Speaker
- ลำโพง เป็นลำโพงปกติ มี 2 ตัว ด้านซ้ายและขวาด้านใต้ของตัวเครื่อง ใช้เทคนิคยิงเสียงลงพื้นเพื่อให้เสียงสะท้อนกลับมาหาผู้ใช้งาน
- เมื่อลองทดสอบ เสียงค่อนข้างจะออกไปทาง Mono ตามสไตล์ของ Notebook เบาบาง
——————————————
Battery
- จากการทดสอบใช้งา สามารถใช้งานทั่ว ๆ (เข้าเว็บ พิมพ์งาน ไปได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง )
- ชาร์จ 5 นาที ใช้ได้ครึ่งชั่วโมง
——————————————-
Performance
- ตัว CPUเป็น Intel Core – i7 10510u หรือIntel Gen10 สำหรับ Notebook โดยเฉพาะ จำนวนคอร์ 4/8 นับว่าให้ประสิทธิภาพทำงานที่หลากหลาย เพียงพอต่อการทำงานทุกรูปแบบ
- ตัว GPU เป็นชิปแยกในรุ่น Nvidia MX250 ให้ประสิทธิภาพพอ ๆ กับการ์ดจอ Desktop อย่าง 1030 แต่ประหยัดไฟมากกว่า ไม่แนะนำให้เอาไปเล่นเกมหนัก ๆ เพราะอาจจะดันได้ไม่สุด แต่หากนำไปทำงานกราฟฟิคทั่ว ๆ ไป จะให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอ
——————————————-
ผลทดสอบ CINEBEBCH R20 ได้คะแนนที่ 1324 cb
——————————————-
ผลทดสอบ PCMARK 10 ได้คะแนน 4485 เป็นที่ยอมรับแล้วว่า สามารถทำงานทั่ว ๆ ไปได้เป็นอย่างดี
ผลทดสอบ 3D MARK ได้คะแนนที่ 1235 ซึ่งก็เพียงพอสำหรับใช้งานกราฟฟิคทั่ว ๆ ไป แต่อย่างที่บอกว่า MX 250 นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมสักเท่าไหร่
——————————————–
———————————————
สรุป MSI Prestige 14 หากใครจะซื้อมาทำงาน เหมาะสำหรับพกพาไปทำงานได้สะดวก มีน้ำหนักรวม Adaptor อยู่ที่ประมาณ 2.0 kg สามารถใช้งานได้ 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่ที่รูปแบบการใช้งานด้วย
ดีไซร์ตัวเครื่องเป็นสีขาว โดดเด่น หากถือไปพรีเซ้นต์งานหรือพบลูกค้า จะเป็นเครื่องที่ช่วยเสริมบุคคลิภาพของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อม ซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ให้เรา Monitor การใช้ทรัพยากรในเครื่อง ปรับเพิ่มหรือลดจำนวนคอร์สำหรับการใช้งานโปรแกรมสายด้านกราฟฟิกต่าง ๆ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ราคาเริ่มต้น Prestige 14 อยู่ 36,900 โดยจะสเปคตามที่ระบุไว้ข้างต้น ก็เรียกได้ว่าไม่แพงมากสำหรับ Notebook Ultrathin สักรุ่น
ข้อดี
- ดีไซร์สีขาวสวย เสริมบุคคลิกภาพของผู้ใช้งาน
- น้ำหนักเบาเพียง 1.29 กิโลกรัม เหมาะสำหรับพกพาเป็นอย่างยิ่ง
- มีไฟคีย์บอร์ดปรับระดับความสว่างได้
- มาพร้อม Windows10 แท้ในตัว
- มีซอฟต์แวร์ Creator Center สำหรับปรับรูปแบบการใช้ทรัพยากรในตัวเครื่อง
- ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 36,900 ได้ Intel Gen RAM 16 GB และ MX 250 ถือว่าไม่แรงเกินไป
ข้อสังเกต
- แบตใช้งานได้ 5 – 6 ชั่วโมง ถ้าได้มากกว่านี้อีกนิดจะดีมาก ๆ
- ไม่สามารถนำไปใช้งานเล่นเกมหนัก ๆ ได้
- ด้วยความที่เป็นสีขาว ตัวเครื่องอาจจะค่อนข้างเปื้อนง่าย ต้องดูแลรักษามากกว่า Notebook สีอื่น ๆ