ทำไมถูกเรียกว่า ‘สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง’ มีคำว่าเกมมิ่งต่อท้ายแล้วมันต่างกับสมาร์ทโฟนทั่วไปยังไง ลองมาดูได้จาก Lenovo Legion Phone Duel 2 เกมมิ่งโฟนพันธุ์ดุ เอาใจสายสตรีมโดยแท้ เป็นภาคต่อที่ปรับปรุงทั้งฟีเจอร์ทั้งสเปกใหม่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,990 บาทเท่านั้น
อย่างที่เกริ่นไป ‘สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง’ ต่างกับ ‘สมาร์ทโฟนทั่วไป’ ยังไง ? ในรีวิวนี้อาจให้คำตอบได้ เมื่อก่อนหากมีคนถามแบบนี้ ก็จะจตอบอย่างมั่นใจเลยว่า อ่อ ก็แพงกว่าไง ฮ่า ฮ่า แต่หลังได้ลองตัว Legion Phone Duel 2 จาก Lenovo ที่เปิดราคาเริ่มต้นที่ 2 หมื่นกลาง ๆ เท่านั้น (จากปกติจะเป็น 3 หมื่นขึ้นไป) ในราคานี้กลับไปฟีเจอร์เกมมิ่ง “ที่ใช้งานได้จริง” มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น Twin Turbo-Fan Cooling พัดลมระบายความร้อนคู่ใสตัว กับ Virtual Octa-Trigger ปุ่มกด Macro แบบสัมผัส ที่มีให้ใช้หลายปุ่มเหลือเกิน และสุดท้ายกล้องหน้าแบบ Pop-Up ซึ่งติดตั้งอย่างข้างเครื่อง ใช้ถ่ายสตรีมมิ่งได้สบาย ๆ และยังมีลูกเล่นซ่อนอีกมายมาย ทั้งหมดนี้คือ Lenovo Legion Phone Duel 2 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งงานดีอีกรุ่น (หลังจากนี้ขอเรียกว่า ‘เกมมิ่งโฟน’) ที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในที่นี้ได้รู้จักแน่นอน
รายละเอียดสเปก
หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2460 x 1080) รองรับ Refresh Rate 144 Hz ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888 5G
ชิปกราฟฟิก : Qualcomm Adreno 660
แรม : 12/16GB LPDDR5
รอม : 256/512GB แบบ UFS 3.1
กล้องหลัง : [64 MP + 16 MP] แบ่งเป็นเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล F/1.9 กับเลนส์มุมกว้าง 16 ล้านพิกเซล F/2.2
กล้องหน้า : 44 ล้านพิกเซล F/2.0
การเชื่อมต่อ : USB-C x 2 (มีสองช่อง 3.1 กับ 2.0) และมีหัวแปลง USB-C เป็นช่องหูฟัง 3.5 mm
เน็ตเวิร์ค : WiFi 6 + Bluetooth 5.2
แบตฯ : Li-Ion 5,500 mAh รองรับ Fast Charge 65W (ต่อสองช่องเป็น 90W)
ขนาดตัวเครื่อง : 176 x 78.5 x 9.9 mm
น้ำหนัก : 259g
ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ZUI 12.5
แกะกล่อง
+++
+++
กล่องสมกับเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งจริง ๆ อลังการมาก
ส่วนภายในก็กล่องก็มีอุปกรณ์มากมาย ทั้งตัวเครื่อง Lenovo Legion Phone Duel 2 , เคสใส่ , หัวแปลง USB-C to 3.5 mm , ชุดคู่มือ , เข็มถอดซิม , หัวชาร์จทที่มาพร้อมช่องเสียบ USB-C คู่ และ สาย USB-C x 2
ตัวหัวชาร์จไฟพร้อมสาย USB-C แบบคู่
งานออกแบบ
+++
+++
หากไม่พลิกหน้าจอมา คงแทบไม่คิดว่านี่คือสมาร์ทโฟน Legion Phone Duel 2 ยังคงมีดีไซน์เคยกับรุ่นก่อนหน้า อย่างการนำกล้องมาไว้ตรงกลาง และยังรวมไปถึงส่วนชิปประมวลผล ก็ถูกนำมาไว้ตรงกลางเช่นกัน เหตุผลก็เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถถือจับตัวเครื่องได้โดยไม่ร้อนมือนั้นเอง ดีไซน์โดยรวมถือว่าสวยงามและดุดันสมฐานะเกมมิ่งโฟน อย่างตรงกลางที่มีโลโก้ Legion หลังเครื่อง จะสะท้องแสงเป็นสีรุ้งด้วย
กระนั้นขนาดตัวเครื่อง นับว่าใหญ่และหนักกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปไม่น้อย โดยตัวเครื่องก็มีขนาดอยู่ที่ 176 x 78.5 x 9.9 มม. น้ำหนักก็อยู่ที่ 259 กรัม นับว่าหนักใช่เล่นอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็อาจเป็นเพราะตัวพัดลมระบายความร้อน ที่ถูกยัดไว้ในตัวเครื่องถึง 2 ตัวนั้นเอง
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2460 x 1080) ให้สีสันได้สวยสดมากทีเดียว ทั้งยังมีค่า Delta E < 0.5 และรองรับ Refresh Rate 144 Hz ด้วย
ลองดูความหนาจากมุมมองด้านข้างของตัวเครื่องได้เลย จุดนี้ก็จะสังเกตเห็นช่องเสียบ USB-C อีกตัวที่ระหว่างกลางด้วย ซึ่งการนำช่อง USB-C มาไว้ตรงนี้ ก็มีสองเหตุผลด้วยกันคือ หนึ่ง ใช้เสียบชาร์จไฟเข้าระหว่างเล่นเกมได้ถนัดขึ้น (ไม่มีสายขวางตรงบริเวณถือจับ) และสอง ใช้สำหรับชาร์จไฟแบบ Dual หรือเสียบสายชาร์จ USB-C สองสายพร้อมกันนั้นเอง
ซึ่งก็จะช่วยให้สามารถชาร์จไฟเข้าได้มากถึง 90W ซึ่งทาง Lenovo ก็เครมเลยว่า สามารถชาร์จเต็ม 100% ในได้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น จากที่ลองดูแล้ว ก็พบว่าชาร์จได้ไวจริง ๆ แต่ก็ต้องทิ้งเครื่องไว้เลย เพราะสายมันจะรุงรังไม่น้อย แต่ถ้าต้องการเล่นไปด้วยชาร์จไปด้วย ก็ยังทำได้โดยการเสียบสาย USB-C เส้นเดียว แล้วแต่ผู้ใช้เลยว่าจะเลือกแบบไหน
ส่องตัวพัดลมระบายความร้อนแบบชัด ๆ ซึ่งจะมีอีกตัวที่มีขนาดเล็กกว่า ซ่อนอยู่ใกล้ ๆ กัน รวมเป็น 2 พัดลม หรือเรียกหล่อ ๆ ว่า Twin Turbo-Fan Cooling System ระหว่างใช้งาน ก็จะมีไฟ LED สว่างขึ้นตามภาพด้วย และสามารถปรับเป็นสีอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งก็ช่วยเพิ่มบารมีให้กับตัว Legion Phone Duel 2 มากขึ้นไปอีก ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวรอดูได้ในหัวข้อถัดไป
ลองใส่เคสใสที่แถมว่า ใส่แล้วดูมีราศีขึ้นมาไม่น้อยเลย (แต่ก็แอบถอดยากพอควร)
ฟีเจอร์เกมมิ่ง
พูดถึงเกมมิ่งโฟน ก็ต้องนึกถึงฟีเจอร์ด้านเกมมิ่งต่าง ๆ ที่มีด้วย สำหรับตัว Legion Phone Duel 2 ก็มาพร้อมฟีเจอร์เกมมิ่งมากมาย ในที่นี่ก็จะคัดตัวที่สำคัญ ๆ มาให้ดูกัน เริ่มจาก
Virtual Octa-Trigger ปุ่มกดสัมผัสเสมือนจริง 8 ปุ่ม ช่วยยกระดับการเล่นเกมในสมาร์ทโฟนให้สนุกจุใจมากขึ้น ซึ่งก็มากขึ้นจริง ๆ พอมีหลายปุ่ม ก็ช่วยทำให้เล่นเกมได้เปรียบหรือสนุกขึ้นเยอะเลย เสมือนกำลังเล่นเกมในเครื่อง Console พกพายังไงยังงั้นเลย ทว่าปุ่มสัมผัสก็ยังเป็นปุ่มสัมผัส Feeling ในการกดยังไงก็ไม่เท่ากับการกดปุ่มจริง ๆ อีกทั้ง 8 ปุ่มดังกล่าว ได้ใช้จริง ๆ ก็แค่ 4 ปุ่มเท่านั้น อย่างปุ่ม R1 กับ L1 ที่อยู่บนขอบตัวเครื่อง และอีก 2 ปุ่มในหน้าจอนี้เอง
การตั้งค่าใช้งานก็ทำได้ง่าย สามารถลากตัวปุ่มเสมือนเหล่านี้ ไปลงในส่วนไอคอนควบคุมตัวเกม เลือกตามที่คิดว่าถนัดได้เลย
ตัวอย่างการใช้งาน อนึ่งตัวเครื่องยังมี Dual HaptiX มอเตอร์คู่ในตัวด้วย สามารถสั่นตามจังหวะของเกมได้ด้วย ให้อารมณ์เหมือนกำลังใช้การสั่นของจอย PS4/PS5 หรือ XBox One กันเลย
+++
+++
+++
ต่อไปคือส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ‘โหมด Rampage’ หรือการ Overclock เร่งความเร็วชิปประมวลผลของตัวเครื่องให้มากกว่าเกมได้ ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น (แต่ปกติก็ลื่นไหลอยู่แล้ว) ซึ่งทันทีที่เปิด ตัวเครื่องก็จะเร่งรอบพัดลมระบายความร้อนจนสุดโดยอัตโนมัติทันที (กลายเป็นไฟ LED สีแดงทันใด) ช่วยให้ระบายความร้อนได้ที่มาหลังจากนี้ได้ดี
ส่วนเรื่องการระบายความร้อนนั้น นอกจากตัวพัดลมคู่ Twin Turbo-Fan Cooling แล้ว ภายในก็ยังมี Vaper Chamber ช่วยดูดความร้อนขนาดใหญ่อีกด้วย ในส่วนนี้เอง Lenovo เผยว่า มีการออกแบบส่วนชิปประมวลผลภายในเป็น Advanced Technology Architecture (ATA 2.0) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานเครื่องในโหมดแนวนอน (landscape) โดยเฉพาะ และช่วยสนับสนุนการระบายความร้อนจากทั้ง Vaper Chamber และ พัดลม Twin Turbo-Fan นั้นเอง
สุดท้ายคือตัวกล้องหน้าแบบ Pop-Up ซึ่งสามารถเรียกเปิดปิดจากตัวเครื่องได้อย่างอิสระ โดยหากจะใช้กล้องหน้า ตัวกล้องก็จะเด้งออกมาตามภาพเลย อนึ่งหากเผลอไปจับเครื่องตรงส่วนที่จะมีกล้องออกมาพอดี บอกเลยว่าแรงดันของตัวกล้อง Pop-Up ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เหมือนกัน อาจมีสะดุ้งจนเผลอทำเครื่องหลุดมือได้เลย ฉะนั้นควรระวัง
และเมื่อใช้กล้องหน้าแบบ Pop Up นี้ขณะเล่นเกม ก็จะเข้าสู่ Stream Mode หรือโหมดสตรีมการเล่นเกมแบบเห็นหน้าตัวผู้ใช้เองด้วย ซึ่งก่อนเรียกใช้ มันจะให้เลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการแชร์ระหว่าง Youtube กับ Twitch ก่อนเลย พร้อมกับเปิดหน้ากล้องที่มีความละเอียดถึง 44 ล้านพิกเซลทันที
+++
+++
เมื่อเปิดใช้งาน Stream Mode แล้ว ก็สามารถตั้งแต่การทำสตรีมเพิ่มเติมอีกได้ ไม่ใช่เพียงแค่ถ่ายหน้าเฉย ๆ เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ก็มีทั้ง การใส่ Avatar แทนหน้าจริง กับใส่ AR ปรับเก๋ ๆ ได้อีกด้วย
Gaming Test
ขุมพลังหลักของตัว Legion Phone Duel 2 คือ ชิปประมวลผล Snapdragon 888 ที่ได้สถาปัตยกรรม ATA 2.0 ช่วยเสริมประสิทธิภาพ พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนด้วย ส่วนจะเล่นได้ลื่นไหลขนาดไหน ลองดูจาก 2 คลิป 2 เกมนี้ได้เลย
Call of Duty: Mobile
Genshin Impact
กล้องหลัก
ลองเทสกล้องหลังแบบพอหอมปากหอมคอ ที่มาพร้อมกล้อง 2 ตัว แบ่งเป็น [64 MP + 16 MP] เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล F/1.9 กับเลนส์มุมกว้าง 16 ล้านพิกเซล F/2.2 ซึ่งก็พอถ่ายภาพกลางคืนได้ดีเหมือนกัน
ตัวอย่างภาพถ่าย
+++
+++
ภาพจากกล้องหน้า 44 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์กว้างพิเศษ 84 องศา
สรุป
แทนที่จะเรียกว่าสมาร์ทโฟน เรียกว่า ‘เครื่องเล่นเกมคอนโซลพกพา’ ก็ยังได้ Lenovo Legion Phone Duel 2 นับเป็นเกมมิ่งโฟนที่จัดเต็มทั้งดีไซน์และฟีเจอร์ ให้เป็นเกมมิ่งสมชื่อเลย อย่างฟีเจอร์ Virtual Octa-Trigger ก็ใช้งานสนุกมาก ทำให้เกมเล่นง่ายขึ้นเอยะ ทว่าถ้าจะเปิดใช้งานมากกว่า 4 ปุ่ม อาจต้องใช้ความคุ้นเคยอยู่หน่อย ส่วนตัวกล้อง Pop Up ก็ใช้งานได้สนุก ใครเป็นสายสตรีมที่ชอบถ่ายหน้าตัวเองขณะเล่นไปด้วย อาจชอบฟีเจอร์สำหรับการสตรีมต่าง ๆ ที่มากับตัวเครื่องนี้ก็ได้
ส่วนดีไซน์ ดูภายนอกก็รู้ได้ทันทีว่า นี้คือเกมมิ่งโฟนอย่างแน่นอน สีสันและงานออกแบบสะดุดตามาก ๆ แต่กระนั้นก็แลกมากับความหนา และน้ำหนักที่ถือนาน ๆ ก็เมื่อยใช่เล่นเช่นกัน (เป็นรอยนิ้วมือง่ายมากด้วยสำหรับสีดำ) ด้านหน้าจอก็แสดงผลได้สวยสดและใหญ่เต็มตาดี แต่ก็เสียดายที่บางอย่างยังไม่สุด เช่นกระจกเคลือบจอเป็น Corning Gorilla Glass 5 ไม่ใช่รุ่น Victus ตัว Top และยังไม่มีมาตรฐานสีเด่น ๆ ที่จัดเต็มนัก (มี Delta E < 0.5) แต่ก็เข้าใจได้ว่า เดียวราคาจะบานปลาย
ด้านประสิทธิภาพหรือการเล่นเกม ตัวชิป Snapdragon 888 ก็ทำหน้าที่ได้สมกับที่เป็นชิปประมวลผลระดับ Top ลื่นไหลมาก ๆ แต่กระนั้นความร้อนก็มีใช่เล่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนเปิดโหมด Rampage เร่งความเร็วตัวเครื่อง จะมีความร้อนมากเป็นพิเศษพอควร ส่วนตอนไม่เปิดโหมดนี้ ก็จำเป็นต้องเปิดใช้งานตัวพัดลมด้วย เล่นแบบไม่เปิดพัดลมบอกเลยว่า ร้อนมาก ๆ ๆ ควรเปิดพัดลมแบบรอบหมุนขั้นสุดไปเลยดีกว่า
สถดท้ายนี้ราคาของ Lenovo Legion Phone Duel 2 ก็เริ่มต้นที่ 24,990 บาท สำหรับรุ่น [12GB/256GB] และ 29,990 บาท สำหรับรุ่น [16GB/512GB] หาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตามนี้ ADVICE, AIS, BaNANA, Blue Shop, JD CENTRAL, JIB, Inter COM, IT CITY, NOTEBOOKSHOP, TEE PHONE และ V-Tech Computer
