[Review] แต่เดิมโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง มีจุดอ่อนที่เลี่ยงไม่ได้คือ ‘ขนาด’ โดยมีทั้งน้ำหนักและความหนา เพื่อแลกกับความแรง หรือสเปกที่เล่นเกมได้ลื่นไหลเป็นพิเศษ ทว่าปี 2024 เราได้เห็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่บางเบาระดับ Ultrabook แต่สเปกแรงจนเครื่อง Desktop PC ยังอาย
รีวิวนี้พบกับ HP Omen Transcend 14-fb0080TX โน้ตบุ๊กเกมมิ่งสุดบางเบา แต่มาพร้อมซีพียู Intel Core Ultra 9 185H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ตัว Top สุด และหน้าจอ OLED ความละเอียด 2.8k ขนาด 14 นิ้ว รองรับ 120 Hz พร้อมด้วย DCI-P3 ระดับ 100% ครบจบทั้งหน้าจอ และสเปกที่แรงเกินขนาดไปไกล ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพได้ดีแค่ไหน แบตฯ อึดจริงหรือไม่ และมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ
รายละเอียดสเปก HP Omen Transcend 14-fb0080TX
- CPU : Intel Core Ultra 9 185H
- Graphic Card : NVIDIA GeForce RTX 4070 8GB GDDR6 70 Watt TGP
- RAM : 32 GB LPDDR5X 7467 MHz (On Board)
- Storage : 1TB PCIe 4.0 NVMe
- Display : 14.0 inch (2880×1800) 2.8K , 120Hz , 100% DCI-P3
- Keyboard : Backlit Chiclet Keyboard 1-Zone RGB
- Wifi/Bluetooth : Wi-Fi 7 , Bluetooth 5.4
- Weight : 1.63 kg
- Battery Type : 6 Cell Li-Polymer 71Wh
- Keyboard : HyperX Pudding 4-zone RGB backlit
- Operating System : Windows 11 Home
Unbox All
รีวิวครั้งนี้ นอกจาก Omen Transcend 14 แล้ว ทาง HP ส่งตัวเกมมิ่งเกียร์ให้ใช้งานร่วมกันด้วยอย่าง HyperX Alloy Rise กับ HyperX Cloud Mini
ตัวกล่อง HP Omen Transcend 14 มาแบบเรียบ ๆ ส่วนภายในก็มีตัวเครื่องโน้ตบุ๊ก กับชุดไฟเลี้ยงขนาดย่อมหนึ่งชุด
ส่วนตัวกล่อง HyperX Alloy Rise ก็ยังคงสไตล์ HyperX เหมือนเคย (สมัยที่ Kingston ยังเป็นเจ้าของ) ส่วนภายในกล่องก็มีตัวคียบอร์ด สายเชื่อมต่อ USB-A to USB-C และที่ดึง Keycap
บางเบาเกมมิ่ง
HP Omen Transcend 14 จะเรียกว่าเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งในคราบ Ultrabook ก็ยังได้ คือดีไซน์มันบางเบามาก ๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.63 กก. กับความบางเพียง 17.9 มม. เท่านั้น ซึ่งถือเป็นขนาดที่เล็กมากสำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ด้านวัสดุก็ใช้ MG-AI alloys Chassis หรือโลหะผสม ให้ทั้งความแข็งแรงและความเบา
HP OMEN Transcend 14
ตัวเครื่องมาพร้อมจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ให้ความคมชัดได้ระดับ 2.8K พร้อมรองรับ 120 Hz กับ DCI-P3 ระดับ 100% คือเป็นจอที่ใช้ได้ทั้งความบันเทิง เกมมิ่ง ไปจนถึง Creator ทั้งหมดได้ในร่างเดียว
ตัวคียบอร์ดเป็นแมคคานิคอลส่งตรงจาก HyperX ให้สัมผัสการกดได้ลึกและกดมันมือยิ่งกว่าเคย พร้อมด้วยไฟ RGB แบบ Lattice-less sky print สุดงาม
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อ เริ่มจากขอบด้านหลังตัวเครื่องที่มีช่อง HDMI 2.1 กับช่องต่อไฟเลี้ยง 140W แบบ USB Type-C ส่วนด้านข้างก็มีช่อง USB-A 3.1 ให้สองช่อง อีกฝั่งก็มีพอร์ต USB Type-C กับช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm พอร์ตเชื่อมต่อให้มาแบบพอดี ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย
HP Omen Transcend 14 มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบใหม่อย่าง Tempest Cooling Go แทนที่ท่อ Heat pipe แบบเดิม ใช้การไหลเวียนอากาศเข้าเพื่อสร้างโซนที่มีแรงดัน โดยใช้ห้องไอน้ำสำหรับการระบายความร้อนโดยตรงผ่านช่องระบายอากาศด้านหลัง ซึ่งจะเย็นแค่ไหน เดี๋ยวมาดูในรีวิวนี้กัน
จับคู่เกมมิ่งเกียร์
รวมชุด HP Omen Transcend 14 x HyperX Alloy Rise x HyperX Cloud Mini
HyperX Alloy Rise
เริ่มจาก HyperX Alloy Rise คีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มาพร้อมฟีเจอร์ Custom คือสามารถ Hot-Swap หรือถอดเปลี่ยนคีย์สวิตช์ได้ ถอดหน้าท็อปเพลตเพื่อเปลี่ยนกรอบใหม่ก็ได้ และไฟ RGB รอบตัว (ยันด้านข้าง) เอาใจสายเกมมิ่งโดยแท้ ซึ่งมีเซนเซอร์วัดแสงแวดล้อมที่จะคอยปรับความสว่างให้โดยอัตโนมัติให้ด้วย หรือปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ก็ได้ ตัวคีย์บอร์ดก็มาพร้อมสวิตช์แบบ Linear หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า HyperX Linear Switch ที่ผ่านการ Lube หรือใส่น้ำยาหล่อลื่นไว้แล้ว กับมีคีย์แคป HyperX PBT พร้อมด้วยความไวการส่งสัญญาณที่ตอบสนองได้ไวขั้นสุดถึง 8k
ป้ายสัญลักษณ์ด้านข้าง ถอดเปลี่ยนได้ด้วยแรงแม่เหล็ก
หน้าท็อปเพลตหรือกรอบตัวคียบอร์ดก็ถอดเปลี่ยนด้วยแรงแม่เหล็กเช่นกัน ปรับแต่งตัวคียบอร์ดให้มีความสวยเฉพาะตัวได้
HyperX Cloud Mini
ถัดจากคียบอร์ดก็มี HyperX Cloud Mini ชุดหูฟังแบบมีสายขนาดย่อม เหมาะกับเกมเมอร์รุ่นเยาว์ที่มีอายุ 8-12 ปี หรือผู้ใหญ่จะเอาไปใช้เองก็ได้ (ถ้าใส่แล้วไม่อึดอัดอ่ะนะ) ส่วนฟีเจอร์เด็ดก็มีทั้งการควบคุมระดับเสียงให้ต่ำกว่า 85dB ผ่านไดรเวอร์ 30 มม. ไมโครโฟนพับเก็บได้ที่ทนทานพร้อมฟีเจอร์ flip-to-mute ทำให้ปิดเสียงไมโครโฟนได้ทันที
OMEN Gaming Hub
ซอฟต์แวร์ OMEN Gaming Hub ในตัว HP Omen Transcend 14 เรียกได้ว่าเป็น ‘ศูนย์กลาง’ การปรับแต่งทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเครื่องเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งหน้าบอกสถานะการทำงานโดยรวม เช่น อุณหภูมิ การใช้ CPU/GPU/RAM กับการปรับแต่งแสงสี RGB ของคียบอร์ด และซอฟต์แวร์ช่วย Clear ไฟล์ขยะก็ยังมี
ในตัว OMEN Gaming Hub ก็มีส่วนควบคุมกล้อง Webcam และ Microphone ด้วย ส่วนนี้จะเห็นเลยว่า มีการใช้ AI เข้ามาช่วยตัดฉากหรือตัดเสียงรบกวนภายนอกให้ด้วย เรียกได้ว่าครบจบทั้งการสตรีมมิ่งหรือประชุมออนไลน์ เป็นโน้ตบุ๊ก Hybrid โดยแท้
ทดสอบประสิทธิภาพ
สเปกหลักของ สเปก HP Omen Transcend 14-fb0080TX คือมีซีพียู Intel Core Ultra 9 185H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 และแรม LPDDR5X ขนาด 32GB ความเร็ว 7467 MHz จัดเป็นสเปกที่แรงเกินขนาดไปพอควรเลย
รายละเอียดซีพียู Intel Core Ultra 9 185H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070
ทดสอบความแรงด้วย Cinebench 2024 ก็ได้คะแนน GPU ไปถึง 7910 pts กับ CPU แบบ Muti Core ที่ 802 pts และ Single Core ที่ 106 pts
ต่อด้วย Cinebench R23 ก็ได้คะแนน CPU แบบ Muti Core ที่ 14031 pts และ Single Core ที่ 1838 pts
คะแนน PC Mark 10 ได้ไป 6845 คะแนน
ส่วน 3D Mark ทั้ง Fire Strike Utra กับ Time Spy Extreme และ CPU Profile ก็ได้ตามนี้ โดยรวมบอกเลยว่า ‘แรง’ แต่ด้วยซีพียู Ultra Core ก็อาจเทียบกับซีพียู Intel Core เจน 14 ตัว Top จริง ๆ ไม่ได้ แลกกับความบางนั้นเอง
ระยะเวลาใช้งานแบตฯ
ตัวแบตฯ สามารถอยู่ได้เกิน 10 ชั่วโมง แต่จำเป็นต้องใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบบขั้นสุดจริง ๆ ทั้งการใช้โหมด Eco โหมดการ์ดจอออนบอร์ด ปิดไฟ RGB ถึงจะได้อายุการใช้งานแบตฯ ระดับนี้ ถ้าเป็นสุดทุกอย่าง ก็พบว่าอยู่ได้ราว ๆ 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น
การระบายความร้อน
จุดนี้บอกเลยว่าเกินคาด ตัวเครื่องมาพร้อม Tempest Cooling Go ระบบระบายความร้อนด้วยแรงลม ซึ่งมาแทนที่ท่อ Heat pipe แบบเดิม ส่วนประสิทธิภาพที่ได้คือ ช่วยคุมไม่ให้อุณหภูมิเกิน 85 – 90 องศาตอนใช้งานแบบ 100% ได้ อาจมีพุ่งเกิน 100 องศาไปบ้าง แต่โดยเฉลี่ยก็ราว ๆ 80 องศาเท่านั้น
ลองเทสอีกรอบ คราวนี้พบอุณหภูมิซีพียูโดยเฉลี่ยเพียง 75 – 80 องศา จัดว่าระบายความร้อนได้ดีทีเดียว
Gaming Test
ยังคงอยู่กับเกม Cyberpunk 2077 เช่นเคย ลองมาดูกันว่าตัวเครื่อง HP Omen Transcend 14 รุ่น RTX 4070 นี้ จะดันเกมนี้ในความละเอียด 2K พร้อมเปิด Ray Tracing ไหวไหม
ลองปรับภาพ 2K แบบ Ultra พร้อม Ray Tracing แบบ Medium กับ Frame generation ก็ได้ค่าเฟรมเรตราว ๆ 40 fps
ลองปรับภาพ 2K แบบ Ultra พร้อม Ray Tracing แบบ Low กับ Frame generation ก็ได้ค่าเฟรมเรตพุ่งขึ้นมาราว ๆ 50 fps เลย
ลองดู Gameplay และค่า fps แบบ Realtime กันได้ สังเกตได้ว่าอุณหภูมิซีพียูแทบไม่เกิน 80 องศาเลย
สรุป
ด้านดีไซน์กับฟีเจอร์ จัดว่าสมกับที่เป็นซีรีส์ HP Omen แล้ว ฉะนั้นรีวิวนี้มี 3 จุดใหญ่ ๆ ที่อยากพิสูจน์ในตัว HP Omen Transcend 14 เป็นพิเศษเลยคือ “แบตฯ” จากที่ลองรีวิวก็พบเลยว่าตัวแบตฯ สามารถอยู่ได้เกิน 10 ชั่วโมง แต่จำเป็นต้องใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบบขั้นสุดจริง ๆ ถ้ายอมลดความละเอียดจอเป็น FHD ด้วย อาจอยู่ได้นานกว่านี้แน่นอน ฉะนั้นตัวเครื่องจะมี 2 บทบาท หากใช้งานนอกสถานที่ ก็เป็นโน้ตบุ๊กบางเบาที่เด่นมาก ๆ รุ่นหนึ่ง ถ้าใช้งานที่บ้าน มีปลั๊กไฟพร้อม ก็เป็นสุดยอดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งประสิทธิภาพสูง เรียกได้ว่าเหมาะทั้งเกมมิ่งและ Creator ใช้งานแบบ Hybrid ได้ในเครื่องเดียว
จุดที่สองคือ “ความร้อน” จุดนี้บอกเลยว่าเกินคาด ตัวเครื่องมาพร้อม Tempest Cooling Go ระบบระบายความร้อนด้วยแรงลม ซึ่งมาแทนที่ท่อ Heat pipe แบบเดิม ใช้การไหลเวียนอากาศเข้าเพื่อสร้างโซนที่มีแรงดัน โดยใช้ห้องไอน้ำสำหรับการระบายความร้อนโดยตรงผ่านช่องระบายอากาศด้านหลัง ผลคือช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม หากเปิดใช้งานแบบเต็มที่ ก็ทำให้อุณหภูมิตัวเครื่องลดต่ำกว่า 50 องศามาแล้ว ส่วนตอนเล่นเกม ก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 75 – 80 องศาเท่านั้น
ส่วนสุดท้ายคือ “ประสิทธิภาพ” บางเบาแบบนี้ สเปกแรงระดับนี้ คุณภาพหรือไม่ คำตอบคือ Yes แรงจริง ทดสอบหมดทั้ง 3D Mark , PC Mark , Cinebench 2024 และอีกมากมาย ที่เป็นโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพโดยเฉพาะ ผลคือสามารถได้คะแนนสูงทั้งหมดเลย
ท้ายนี้ HP Omen Transcend 14 รุ่น 14-fb0080TX ที่มาพร้อมทั้ง Intel Core Ultra 9 185H กับ NVIDIA GeForce RTX 4070 เปิดราคาอยู่ที่ 79,990 บาท มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศไทย