ในโลกที่ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เราก็จะได้เห็นโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปเช่นกัน และนี่คือโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่องที่ Commart อยากแนะนำจริง ๆ นั่นคือ Lenovo Yoga Pro 7i 14IMH9
จากความครบเครื่องในด้านประสิทธิภาพจากทั้ง CPU GPU และ NPU ที่จะมาช่วยประมวลผลด้าน AI ทำให้สามารถใช้งานในแบบฉบับ AI PC ได้อย่างเต็มตัว
ใครที่ชอบทำงานข้างนอกบ้าน อยากได้โน้ตบุ๊กที่พกพาง่าย แต่บางอารมณ์ ก็อยากเล่นเกมแบบนิด ๆ หน่อยแก้เบื่อ เครื่องนี้ตอบโจทย์ได้ทุกอย่างครับ ส่วนตัวเครื่องหน้าตาจะเป็นยัง สเปคแรงขนาดไหน เล่นเกมอะไรได้บ้าง มาดูกันครับ
ไปดูสเปคเครื่องกันก่อน
- Display : ขนาด 14.5 นิ้ว OLED ความละเอียดระดับ 2.8K (2880×1800) OLED 120Hz 100% DCI-P3 รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision® และ DisplayHDR™ 500 No touch screen
- CPU : Intel® Core™ Ultra 7 155H 4.8 GHz (16 Cores / 22 Threads) 6 P-Core , 8 E-Core และ 2 LP E-cores
- VGA : Intel® Arc™ graphics และตัวเลือกการ์ดจอแยก
- RAM : 32GB LPDDR5x 7467MHz (Onboard)
- SSD : 1TB M.2 SSD PCIe 4.0 NVMe
- Web Camera : FHD 1080p 5MP + IR with E-shutter
- Wireless : Wi-Fi 6E , Bluetooth 5.3
- Port : x1 USB-A (USB 3.2 Gen 1) , x1 USB-C รองรับ Thunderbolt™ 4 , 1x USB4 Gen 3 Type C ( 40Gbps ) , HDMI 2.1 และ Audio Combo Jack
- Weight : 1.59 KG
- Battery : 73Wh
- OS : Windows 11 Home
ดีไซน์และการออกแบบ
สัมผัสแรกที่ได้จับ Lenovo Yoga Pro 7i 14IMH9 มันรู้สึกได้ถึงความหรูหราที่ออกมาจากตัวเครื่อง เพราะให้วัสดุตัวเครื่องมาเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน และยังได้ความเบา ช่วยให้พกพาสะดวก น้ำหนักเพียง 1.59 กิโลกรัม ทำให้เราพกไปทำงานครีเอทีฟต่าง ๆ ได้สบาย
ผิวสัมผัสรอบตัวเครื่อง ให้มาเป็นแบบด้าน ช่วยลดรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วน ทำให้ตัวเครื่อง ดูใหม่อยู่เสมอ บานพับที่แข็งแรง ทนทาน กางได้กว้าง 180 องศา ช่วยให้สลับหน้าจอเพื่อพรีเซ้นต์ได้ง่ายมากขึ้น
ขอบจอบางเฉียบทั้งสี่ด้าน ช่วยเพิ่มพื้นที่การแสดงผลได้มากกว่าเดิม ให้ประสบการณ์การรับชมแบบจุก ๆ เพราะ อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90% ทำให้ได้ภาพที่ใหญ่เต็มตาในขนาดเครื่องที่กะทัดรัด
ทนทานระดับ MIL-STD 810H ด้วยผิวสัมผัสอะลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการอโนไดซ์มาเป็นอย่างดี ตัวเครื่องบางเพียง 16.6 มิลลิเมตร ช่วยให้ใส่ในกระเป๋าได้สะดวกขึ้น สีของตัวเครื่องคือ Tidal teal เป็นสีฟ้าอมเขียว ที่มีลักษณะคล้ายกับสีของน้ำทะเลในช่วงน้ำขึ้น (tidal) ให้ความรู้สึกสดใสผ่อนคลาย สดชื่น มีชีวิตชีวา และทันสมัย
หน้าจอสีสวยสด ชัดตาแตก
เมื่อเปิดฝาเครื่องขึ้นมา เราจะพบกับหน้าจอ OLED ขนาด 14.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 2.8K บางตรง ๆ ว่า มันให้สีสันสวยงามราวกับภาพวาด สีสันสดใส รายละเอียดต่าง ๆ คมชัดเป๊ะ ไม่ว่าจะทำงานกราฟิก ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม
นอกจากนี้ ยังรองรับรีเฟรชเรทสูงถึง 120 Hz หมดห่วงหากต้องใช้เล่นเกม รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision® เพิ่มความสมจริงให้ภาพยนตร์และวิดีโอ และ DisplayHDR™ 500 ให้คอนทราสต์และรายละเอียดสมจริง
กล้องเว็บแคมขนาด 5MP IR มาพร้อมคุณสมบัติการจัดภาพอยู่กลาง และความละเอียดสูง เสริมด้วยไมโครโฟน 4 จุด พร้อมระบบช่วยตัดเสียงรบกวน เพื่อการสนทนา การประชุมงานที่ราบรื่น
คีย์บอร์ด และ ทัชแพช
คีย์บอร์ดของ Lenovo Yoga Pro 7i 14IMH9 มีการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพ พิมพ์ด้วยความเร็วและความแม่นยำที่มากขึ้นบนนวัตกรรมคีย์บอร์ดที่มีระยะการกดเพียง 1.5 มม. และยังออกแบบให้ตอบสนองเร็วทันใจ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป การพิมพ์งานเอกสาร หรือแม้กระทั่งการเขียนโค้ดโปรแกรม
และด้วยขนาดไซส์ตัวเครื่อง 14.5 นิ้ว เป็นขนาดเครื่องที่กะทัดรัด ก็เป็นธรรมดาที่จะไม่มีปุ่ม Numpad มาให้
ส่วนทัชแพดมีขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานแบบ Multi-touch และ Precision Touchpad ทำให้ควบคุมเคอร์เซอร์และใช้งาน Gesture ได้อย่างแม่นยำครับ แต่ก็ยังไม่เหมาะสำหรับเอาไว้เล่นเกมนะ ใครจะเล่นเกม เน้นใช้กับเมาส์ดีกว่าครับ
ลำโพง
ลำโพงให้มามากถึง 4 จุด แบ่งเป็น 2 วูฟเฟอร์สำหรับเสียงต่ำ และลำโพงเสียงกลาง – แหลมอีก 2 จุด ให้เสียงสเตอริโอ พร้อมด้วยระบบเสียง Dolby Atmos® เพื่อช่วยเพิ่มมิติเสียงให้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสถานการณ์จริง ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม
แต่ถ้าหากเล่นเกม FPS เรารู้อยู่กันอยู่แล้วนะว่า ลำโพงไม่ได้คมขนาดให้เรารู้สึกถึงระยะที่ลึกได้ขนาดนั้น แม้ลำโพงที่ให้มาจะดี แต่ถ้า FPS แล้ว เน้นใช้หูฟังจะเหมาะกว่าครับ
พอร์ต
พอร์ตที่ให้มา ก็นับว่าเพียงพอการใช้งานในปัจจุบันครับ ด้วย USB – C 1 พอร์ตที่ รองรับ Thunderbolt™ 4 รองรับการใช้งาน Power devilery รองรับ DisplayPort 1.4 ต่อ Hub ต่าง ๆ ได้สบาย และยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงสุด 40Gbps
พร้อมทั้งยังมี พอร์ต USB – C และ USB 3.2 Gen 1 Type – A มาให้อีกอย่างละ 1 พอร์ต รองรับการใช้งาน เมาส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดรฟ์ และ External Hard Disk ครับ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่สำหรับสายครีเอเตอร์จัด ๆ ข้อสังเกตของรุ่นนี้คือ จะไม่มีพอร์ตสำหรับเสียบการ์ด SD ต่าง ๆ นะครับ โดยจะต้องใช้ผ่าน HUB เอาเนอะ
การอัปเกรด
สำหรับการอัปเกรด นั้นทำได้ไม่เยอะมากครับ ด้วยแรมที่ให้มาแบบ On-board ข้อดีคือให้ความเสถียรมากกว่า จึงอาจจะอัปเกรดแค่เพียงแค่ความจุของ Storage เท่านั้นครับ แต่แรมขนาด 32 GB แถมบัสก็โหดมากถึง 7467MHz ส่วนตัวคิดว่ามันเพียงพอใช้งานได้ยาว ๆ แล้วล่ะ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
พยายามหาข้อมูลความจุของแบตเตอรี่นะ แต่ยังไม่เจอว่ามีความจุเท่าไหร่ครับ ส่วน Adaptor ที่ให้มา ไฟแรงมากถึง 140 วัตต์ แน่นอนว่า พอมีชิปการ์ดจอแยก ก็ต้องมีไฟแรงเป็นธรรมดา
แต่ขนาดของ Adaptor ก็ถือว่าไม่ใหญ่มากนะ พกพาได้กำลังดี น้ำหนักประมาณ 0.4 กิโลกรัม เวลาในการชาร์จจาก 10 – 80 ใช้ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
แรงขั้นสุดด้วยนวัตกรรมจาก Intel
โดย Intel® Core™ Ultra 7 155H ขุมพลังขั้นสุดสำหรับโน้ตบุ๊ก เป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Intel ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมไฮบริดที่ผสานรวมคอร์ประสิทธิภาพสูง (P-cores) และคอร์ประหยัดพลังงาน (E-cores) เข้าด้วยกัน เพื่อให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ Intel® Core™ Ultra 7 ยังให้ประสิทธิภาพสูงทั้งด้านการประมวลผล และด้านการทำงานร่วมกับระบบ AI ด้วย Intel® AI Boost
ตัวเครื่องยังผ่านการรับรองตามมาตรฐาน Intel® Evo™ Platform รองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่าง ๆ ได้ราบรื่น ตอบโจทย์การใช้งานซอฟต์แวร์สายครีเอทีฟ สายงานสร้างสรรค์ที่นำเทคโนโลยี AI มาร่วมทำงานได้แบบไม่มีสะดุด และยังมีเทคโนโลยี Intel® Thread Director ที่จัดสรรงานให้กับแต่ละ Core ได้อย่างเหมาะสม ทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันเป็นไปอย่างราบรื่น
ซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพ Lenovo Vantage
Lenovo Vantage เป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมสำหรับการจัดการและปรับแต่งโน้ตบุ๊กของ Lenovo ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสถานะระบบ ปรับแต่งการตั้งค่า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ดูแลรักษาความปลอดภัย และเข้าถึงบริการและการสนับสนุนได้ง่าย ๆ
หลัก ๆ คือ ใช้ตรวจสอบสถานะและอัปเดตระบบ ทั้งตรวจสอบสถานะของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในเครื่อง ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้งไดรเวอร์และ BIOS เวอร์ชันล่าสุด และยังใช้ตรวจสอบการรับประกันและข้อมูลการบริการ
ซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะถูกติดตั้งมากับตัวเครื่องเลย เพียงแค่เราเปิดใช้งาน ก็จะมีหน้าของการตั้งค่าต่าง ๆ ให้ ใช้งานง่ายกว่าการปรับตั้งค่าผ่านตัว Windows 11 เยอะเลย ไปลองใช้กันดูครับ
ประสิทธิภาพตัวเครื่อง
CPU & GPU – Z
Cinebench R24
Crystaldiskmark
Batterymon
PC Mark
3D Mark
สรุป
จากการทดสอบและใช้งาน ต้องยอมรับว่า เป็นเครื่องที่สามารถพกพาไปงานข้างนอกได้แบบหรูหรา ด้วยพลังของชิป Intel® Core™ Ultra 7 155H ทำให้รับมือกับงานต่าง ๆ ได้ราบรื่น
และด้วยหน้าจอขนาด OLED ความละเอียด 2.8 K นั่งทำกราฟิก ทำตัดต่อได้สบาย ๆ นะ หน้าจอให้ยังค่าสีที่สมจริง ด้วย DCI-P3 ระดับ 100 % ครอบคลุมช่วงสีที่กว้างกว่า sRGB ซึ่งเป็นมาตรฐานสีที่ใช้กันทั่วไปในจอภาพคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถแสดงสีสันได้สดใสและสมจริงมากขึ้น เหมาะสำหรับสายครีเอเตอร์ ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก และการตัดต่อ สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดี
- หน้าจอ OLED 2.8 K 100 % DCI-P3
- วัสดุอลูมิเนียม แข็งแรง ทนทาน
- ตัวเครื่องสี Tidal teal เป็นสีฟ้าอมเขียว หรูหรา สบายตา
- ขอบจอบางเฉียบทั้ง 4 ด้าน
- ลำโพง 4 จุด ด้านหน้า และใต้เครื่องอีก 2 ให้เสียงที่สมจริง
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ตสำหรับ SD Card
- แบตอยู่ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ต้องวางแผนการใช้งานครับ
สามารถสั่งซื้อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางตัวแทนจำหน่ายเลอโนโวอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือสามารถดูในเว็บไซต์ ของ Lenovo โดยตรง เพื่อ Custom Spec เพิ่มเติมได้