[Review] จนถึงตอนนี้ ก็กล้าพูดได้ว่า ‘เครื่องพิมพ์ยังจำเป็น’ และจำเป็นมาก ๆ ด้วย สำหรับงานเอกสารหรือการนำเสนอ เพราะใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นดิจิตอลเสมอไป ฉะนั้นการจะเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ดี ๆ สักตัว ก็ควรมีโจทย์ในใจ มีตัวเลือกที่ชัดเจน โดยอย่างไรแล้วเครื่องพิมพ์ คือสิ่งที่จะต้องอยู่คู่กับเราหรือออฟฟิศไปอีกนาน
แล้วเครื่องพิมพ์แบบไหนถึงตอบโจทย์ ? สำหรับใครที่เน้นใช้งานทั่วไป แต่ขอคุณภาพในงบไม่แรงมาก รีวิวนี้ก็ขอเสนอ Epson EcoTank L3250 เครื่องพิมพ์แบบ EcoTank หรือติดแทงค์ตามพิมพ์นิยม ที่ชูเรื่องการใช้งานที่เสถียร เติมหมึกง่าย และใช้งานได้ยาว ๆ ในงบที่เหมาะสม แต่สำหรับตัว L3250 ไม่ได้มีดีแค่นี้ เพราะมันคือเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ที่ครบจบทั้งพิมพ์ สแกน และ Copy ในตัวเดียว พร้อมรองรับการควบคุมแบบไร้สาย ที่สั่งการง่าย ๆ ผ่านแอปฯ และ Wi-Fi หรือจะใช้มือถือเครื่องเดียว (แบบไม่ต้องมีเราเตอร์) ก็ยังได้ สุดท้ายรองรับงานพิมพ์ระดับ 5760 x 1440 dpi พิมพ์แบบไร้ขอบได้ถึงขนาด 4R กับมีเทคโนโลยี Heat Free ช่วยให้พิมพ์ความเร็วสูง คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ในงบเพียง 4 พันบาทเท่านั้น (4,590 บาท) ซึ่งจะใช้ง่ายได้คุ้มค่าแค่ไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ
ฟีเจอร์เด่น Epson EcoTank L3250
- เทคโนโลยี Heat Free จากเอปสัน : ให้งานพิมพ์ความเร็วสูง คุ้มค่า ประหยัดพลังงาน ด้วยเทคโนโลยี Heat Free ของเอปสัน ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนในการฉีดพ่นหมึก
- ประหยัดพื้นที่ใช้สอย เติมหมึกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ : เครื่องพิมพ์แท็งค์แท้ ขนาดกะทัดรัด ขวดหมึกดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การเติมหมึกเป็นเรื่องง่าย ไม่หกเลอะเทอะ ไม่เติมหมึกผิดสี
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Wi-Fi Direct : พิมพ์งานสะดวกสบายแบบไร้สาย ด้วยการพิมพ์ร่วมกันในเครือข่ายและการพิมพ์ผ่านมือถือที่ง่ายดายและคล่องตัว ให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ถึง 8 เครื่องพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้เราเตอร์
- รองรับ Epson Connect : พิมพ์เอกสารแบบไร้สายของคุณได้ทุกที่ทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่หลากหลายของเอปสัน
- Epson iPrint : เพิ่มความสะดวกในการสั่งพิมพ์และสแกนแบบไร้สายโดยตรงจากอุปกรณ์ หรือบริการออนไลน์ Cloud Storage
- Epson Email Print : สามารถสั่งพิมพ์ผ่านเครื่องพิมพ์เอปสันที่รองรับ Email Print บนอุปกรณ์ของคุณได้
- Remote Print Driver : สามารถสั่งพิมพ์ได้ทุกที่ในโลก ด้วยระบบ Remote Print Driver ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
- Epson Smart Panel : เปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้เป็นอุปกรณ์ควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยแอปพลิเคชัน Epson Smart Panel สามารถควบคุมเครื่องพิมพ์จากสมาร์ทโฟนได้ง่าย ทั้งการพิมพ์ ทำสำเนา สแกน หรือเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อแก้ไขปัญหาได้โดยตรงผ่านแอป
- พิมพ์เร็ว คุณภาพน่าประทับใจ : เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank L3250 ให้งานพิมพ์คุณภาพสูง ด้วยความละเอียดในการพิมพ์สูงสุด 5,760 dpi เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ด้วยความเร็วในการพิมพ์สูงถึง 10 รูปภาพต่อนาที สำหรับการพิมพ์ขาวดำ และ 5 รูปภาพต่อนาที สำหรับการพิมพ์สี นอกจากนี้เครื่องพิมพ์เอปสัน EcoTank ยังสามารถพิมพ์แบบไร้ขอบได้สูงสุดถึง 4R
- อุ่นใจในการใช้งานกับการรับประกันของเอปสัน : การรับประกันครอบคลุมถึง 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ครอบคลุมถึงหัวพิมพ์ คุ้มค่า ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน รองรับงานพิมพ์ปริมาณสูง
แกะกล่อง
ตัวกล่อง Epson EcoTank L3250 ส่วนภายในก็มาพร้อม Epson T00V (003) Ink Bottle หรือชุดหมึกเติมแบบขวดทั้ง 4 สี ให้ผู้ใช้เติมเข้าตัวเครื่องด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ โดยมีราคาต่อขวดเพียง 250 บาทเท่านั้น
งานออกแบบ
ขนาดตัวเครื่อง Epson EcoTank L3250 ก็อยู่ที่ 375 x 347 x 179 มม. กับน้ำหนัก 3.9 กก. จัดว่ากำลังดีในฐานะเครื่องพิมพ์แบบ All-in-One หรือมัลติฟังก์ชั่น ที่รวมทั้งพิมพ์กับสแกนในตัวเดียว ไม่หนักหรือใหญ่จนเคลื่อนย้ายลำบาก ส่วนดีไซน์ก็ออกเรียบ ๆ ไม่หวือหวามาก ดูสมกับเป็นอุปกรณ์ประจำสำนักงานดี
ส่วนใช้งาน
ในส่วนการใช้งานนั้น ขอเริ่มจากแผงปุ่มควมคุมตัวเครื่องก่อนเลย โดยตัวเครื่อง Epson EcoTank L3250 มีราคาไม่แรงมาก ก็ทำให้ไม่มีหน้าจอบอกสถานะตามไปด้วย (ไว้ไปดูผ่านแอปฯ เอา) ดังนั้นจึงมีเฉพาะปุ่มควบคุมเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยหลัก ๆ ก็มีปุ่ม Power เด่นขนาดใหญ่ ถัดมาก็ปุ่มควบคุมการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ปุ่มสั่งพิมพ์ข้อมูลตัวเครื่อง (เช่น สถานะการทำงาน หรือรหัส Wi-Fi ของตัวเครื่อง) ถัดมาอีกคือปุ่ม Copy แบบสีหรือขาวดำ
ในส่วนช่องใส่กระดาษ ตามสเปกคือใส่กระดาษ A4 ทั่วไปได้ถึง 100 แผ่น Ouput หรือถาดรองกระดาษก็รองรับได้อีก 30 แผ่น ส่วนกระดาษแข็งหรือ Glossy Photo Paper ก็ใส่ได้ประมาณ 20 แผ่น และ Ouput ได้เต็ม ๆ อีก 20 แผ่น
หน้าตัวเครื่องสามารถเปิดฝาด้านหน้า เพื่อดูการทำงานของหัวพิมพ์ขณะใช้งานได้ หรือเช็คสถานะเครื่องพิมพ์ด้วยตาก็ทำได้ง่ายอีกเช่นกัน
ส่วนสแกน เผยใช้ระบบ CIS พร้อมมีความละเอียดที่ 1200 x 2400 dpi ในพื้นที่สแกนที่ 216 x 297 mm ซึ่งใช้เวลาสแกนโดยเฉลี่ยที่ 11 วินาที (ขาวดำ) และ 28 วินาที (28 วินาที)
ส่วนบริเวณเชื่อมต่อไฟเลี้ยงและสาย USB อยู่ด้านหลัก ในตำแหน่งใกล้ ๆ กันเลย
การเติมหมึก
ตามที่ว่าไว้ในส่วนแกะกล่อง Epson EcoTank L3250 มาพร้อม Epson T00V (003) Ink Bottle หรือชุดหมึกเติมแบบขวดทั้ง 4 สี ที่เปิดให้ผู้ใช้ สามารถเติมหมึกตัวเองได้อย่างง่าย ๆ เพียงแค่นำขวดมาเติมให้เต็มทั้ง Tank ซึ่งปริมาณหมึกที่เหลือ ก็ดูผ่านหน้าตัวเครื่อง หรือจะเช็คผ่านแอปฯ ก็ได้
สั่งการไร้สาย
ตามปกติส่วนที่ใช้งานยุ่งยากที่สุดของเครื่องพิมพ์ ก็คือการเชื่อมต่อเพื่อสั่งงานแบบไร้สายนี้เอง ถ้าต่อตรงผ่านสาย USB ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่การใช้งานผ่าน Wi-Fi นั้นไม่ใช่เลย ในรีวิว Epson EcoTank L3250 นี้ ก็ขอเน้นเรื่องการใช้งานผ่าน Wi-Fi เป็นพิเศษ ก็ได้ผลตามนี้
อย่างแรกเลย ตัวเครื่องพิมพ์รองรับ Wi-Fi Direct หรือก็คือใช้ Wi-Fi ต่อตรงได้ตามชื่อ คือไม่ต้องมีตัวกลางอย่าง Router ก็ใช้งานได้ โดยใช้ Wi-Fi ของสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อโดยตรงเสมือนต่อ Bluetooth นั้นเอง และเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น ทาง Epson ก็แนะนำให้ติดตั้งแอปฯ Epson Smart Panel ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อให้เชื่อมต่อได้สะดวก โดยหลังเชื่อมต่อ Wi-Fi กับตัวเครื่อง Epson EcoTank L3250 แล้ว ก็จะปรากฏชื่อในแอปฯ ให้เห็นทันที
***อนึ่งตัวรหัส Wi-Fi ของ Epson EcoTank L3250 สามารถดูได้จากการสั่งพิมพ์ข้อมูลตัวเครื่อง ซึ่งหากเพิ่งแกะกล่องใช้งาน ก็สามารถกดดูรหัสได้เลย***
การสั่งพิมพ์แบบไร้สาย ก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ Epson ซึ่งจะมีหน้าตัวอย่างก่อนพิมพ์ โดยเราสามารถลากนิ้ว ซูมเข้าออก หรือจัดระบบการพิมพ์ได้เลยง่าย ๆ จากนั้นก็กำหนดรายละเอียดการพิมพ์ อาทิ ขนาดหรือประเภทกระดาษที่ใช้ ขาวดำหรือสี ใช้การพิมพ์แบบทั่วไปหรือละเอียด แล้วแต่ที่ผู้ใช้ต้องการเลย
จริง ๆ จะสั่งพิมพ์แบบไม่ต้องใช้แอปฯ ก็ได้ ทว่าจะไม่สามารถกำหนดรายละเอียดได้เท่ากับแอปฯ แนะนำว่าใช้งานผ่านแอปฯ ไปเลยดีกว่า และให้ดีอีกขั้น ควรใช้งานตัวเครื่องผ่าน Router เพื่อให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ขณะสั่งพิมพ์ และจะช่วยให้เช็ตสถานะตัวเครื่องได้แบบ Realtime ด้วย เช่น เช็คจำนวนหมึกที่ยังเหลืออยู่
คุณภาพงานพิมพ์
ตามสเปกของตัวเครื่อง Epson EcoTank L3250 ก็ให้ความละเอียดในการพิมพ์สูงสุดถึง 5,760 dp ในที่นี้ก็ลองสั่งพิมพ์รูปภาพความละเอียดสูง แน่นอนว่าสั่งผ่านแอปฯ
ภาพก็ออกมาคมชัดเอาเรื่องทีเดียว ได้งานพิมพ์คุณภาพมาเลย ยิ่งถ้าใช้กระดาษแข็งหรือ Glossy Photo Paper ที่เหมาะสม ภาพก็จะออกมาคมกว่านี้แน่นอน
ส่องคุณภาพงานพิมพ์แบบชัด ๆ เห็นตัวอักษรชัดเจน แต่แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับคุณภาพไฟล์ที่มีด้วยเช่นกัน
ลองอีกตัวเครื่อง งานนี้ใช้หมึกสีดำกับสีเข้มพอควร ถ้าพิมพ์ผ่านกระดาษ A4 ธรรมดา ก็มีสภาพ ‘ฉ่ำ’ ตามนี้เลย ฉะนั้นควรเลือกกระดาษพิมพ์ให้ดีด้วย
สรุป
ด้วยส่วนตัวแล้ว มองว่าเครื่องพิมพ์หลาย ๆ รุ่น ก็มีคุณภาพในแบบของมันอยู่แล้ว เหมือนกล้องถ่ายรูปที่ถ่ายได้สวยทุกรุ่น อยู่แค่ว่าจะเอาไปใช้งานแบบไหน เครื่องพิมพ์ก็เช่นกัน สำหรับตัว Epson EcoTank L3250 ก็จัดเครื่องพิมพ์แบบครบเครื่อง โดยเน้นใช้งานทั่วไปในงบที่ไม่แรงมาก จากรีวิวนี้ก็บอกได้เลยว่าตัวเครื่องทำได้ดีสมมาตรฐานและราคา
แต่ส่วนที่ต้องขอชมเป็นพิเศษ ก็คือการใช้งานที่ ‘ไม่เรื่องมาก’ หรือใช้งานง่ายนั้นแหล่ะครับ โดยเฉพาะการควบคุมจากระยะไกล ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนสั่งการได้ทันที ไม่มีติดขัดอะไร (เหมือนที่เคยเจอในเครื่องพิมพ์หลาย ๆ รุ่น) จะใช้แบบไม่ต้องติดตั้งแอปฯ ของ Epson ก็ยังได้ ขอเพียงรู้รหัส Wi-Fi ของตัวเครื่องก็พอ จากนั้นอยากพิมพ์อะไร ก็กดสั่งการผ่าน Wi-Fi Direct ได้ทันที แน่นอนว่าหากนำตัวเครื่องเข้าวง LAN ใน Router ที่ใช้ประจำ ก็ยิ่งทำให้สั่งการได้ไกลขึ้นแน่นอน
ถัดจากการสั่งการ ก็มีเรื่องการเติมหมึกเข้าตัวเครื่อง ก็สามารถเปิดขวดเติมใส่ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก อีกทั้งตัวหมึกยังมีราคาถูกมาก และซื้อครั้งเดียว ก็อยู่ใช้งานได้ยาวนาน โดยรองรับงานพิมพ์ขาวดำได้สูงถึง 4,500 หน้า กับสีได้ถึง 7,500 หน้า
ท้ายนี้ตัว Epson EcoTank L3250 เปิดราคาที่เพียง 4,590 บาท เท่านั้น มาพร้อมการรับประกันครอบคลุมถึง 2 ปี หรือ 30,000 แผ่น หาซื้อได้แล้วตามร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศไทย หรือผ่านออนไลน์ได้ที่ Lazada กับ Shopee