[Review] หนึ่งในวิธีแก้ปัญหา Wi-Fi อับสัญญาณยอดฮิต คงไม่พ้น Mesh Wi-Fi ชุดเราเตอร์ที่มีมากกว่าหนึ่ง ช่วยกระจายสัญญาณได้อย่างครอบคลุม ทว่าส่วนใหญ่มักมีราคาสูง จึงมีอีกทางเลือกคือการใช้ Access Point ที่เข้าถึงง่ายกว่า ทว่าหากเป็นพื้นที่ลานกว้าง การจะใช้ Access Point หลาย ๆ ตัว ก็คงใช้งบไม่น้อยเหมือนกัน
จึงเป็นที่มาของอุปกรณ์ EAP ที่ช่วยส่งต่อสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลเป็นพิเศษ แม้ใช้ตัวเครื่องเพียงไม่กี่ตัว รีวิวนี้พบกับ Omada EAP215-Bridge kit จาก TP-Link ชูรับส่งสัญญาณได้ไกลถึง 5 กม. (หากพื้นที่อำนวย) เน้นติดตั้งแบบ Outdoor ที่มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP65 เหมาะกับการใช้ในพื้นที่กว้าง อาทิ สวน ฟาร์มปศุสัตว์ โรงงาน รีสอร์ท หรือสนามกอล์ฟ เป็นต้น
รายละเอียดสเปก
- 802.11ac for up to 867 Mbps on the 5 GHz wireless data rate.*1
- Ideal for long-range wireless transmission up to 5 km. (Point to Point)*2
- Auto-pairing and agile LEDs for efficient deployment.
- 3× Gigabit Ethernet ports for more high-speed IP camera connections.
- Supports Omada SDN for remote and centralized management.
- IP65 weatherproof enclosure and 6kV lightning protection ensure all-weather suitability.*3
- Supports Passive PoE for flexible deployment (adapter included).
แกะกล่อง
ในกล่องนอกจากตัว EAP215-Bridge KIT แล้ว ก็มีทั้ง Passive PoE Adapter ที่เอาไว้สำหรับต่อไฟเลี้ยงผ่าน PoE หรือสาย LAN โดยเฉพาะ กับมี Mounting Kit ชุดช่วยติดตั้งตัวอุปกรณ์ ชุดสายไฟ และชุดคู่มือ
งานออกแบบ
อธิบายตัว EAP215-Bridge KIT ก่อน มันคือ Access Point ชนิดหนึ่ง ที่เน้นการเชื่อมต่อระยะไกลโดยเฉพาะ ทว่าก็มีข้อแม้อยู่คือ ต้องใช้พื้นที่โล่ง และต้องให้ตัวเครื่องหันหน้าชนกันเพื่อรับส่งสัญญาณ Wi-Fi แบบไม่มีอะไรกั้นด้วย (Point to Point) ตัวเครื่องจึงมีลักษณะเหมือนแท่งส่งสัญญาณแบบนี้เอง เน้นใช้งานมากกว่าโชว์การออกแบบ
ด้านข้างมีไฟ LED บอกสถานะ
ทั้งนี้ตัวเครื่องเน้นติดตั้งแบบ Outdoor หรือใช้ภายนอกอาคาร จึงมีการออกแบบให้กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP65 ส่วนที่เป็นช่องระบายอากาศหรือระบายความร้อนจึงไม่มีให้เห็นเลย ส่วนวัสดุก็เป็นพลาสติกผิวมัน ที่อาจกันฝุ่นเกาะได้ดีระดับหนึ่งด้วย
ส่วนการติดตั้งนั้น ก็จะเน้นผูกติดกับเสา จึงมีตัวช่วยยืดที่ไว้รับความโค้งของเสาแบบนี้เอง
ตามนี้เลย โดยในกล่องก็มีสายรัดมาให้พร้อม
การติดตั้ง
หากแกะช่องด้านล่างออก ก็จะเจอกับพอร์ตเชื่อมต่อ 4 ช่อง แบ่งเป็นพอร์ต LAN x 3 โดยมีช่องหนึ่งที่เป็น PoE ด้วย ใช้ต่อไฟเลี้ยงผ่านสาย LAN นี้เอง หรือหากจำเป็น ก็สามารถใช้สายหรือชุดไฟเลี่้ยงแบบ AC ขนาด 12W แทนก็ได้
ตามที่บอกไปก่อนหน้า ตัว EAP215-Bridge kit คือ Access Point ระยะไกล เน้นใช้ในที่โล่ง การติดตั้งจึงต้องวางให้ตรงกัน โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ถึงจะได้ประสิทธิภาพที่แท้จริง
ซึ่งทาง TP-Link ก็เคลมเลยว่า สามารถรับส่งสัญญาณได้ไกลถึง 5 กิโลเมตร แต่สภาพแวดล้อมต้องอำนวยจริง ๆ คือในระยะนี้ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ เลย น่าเสียดายที่ไม่มีสภาพแวดล้อมแบบนี้ให้ทดสอบ แต่อย่างน้อยก็สามารถให้ดูได้ว่า หากเป็นระยะสั้น ๆ ตัวอุปกรณ์จะยังคงประสิทธิภาพได้ดีแค่ไหน
ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่ารีวิวนี้ใช้การติดตั้งแบบไหน อันดับแรกก็ลองใช้งานตัว Passive PoE Adapter เพื่อให้ใช้งานตัว EAP215-Bridge kit ผ่านสาย LAN เส้นเดียวได้ และตัวนี้เองจะตั้งให้เป็น ‘ตัวหลัก’ ในการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ไปยังตัวเสริม (Sub) หรือ EAP215-Bridge kit อีกตัวนั้นเอง
สำหรับตำแหน่งการติดตั้ง ก็วางตามภาพเลย โดยมีระยะห่างระดับหนึ่ง ซึ่งตำแหน่ง ‘ห้องนั่งเล่น’ เป็นจุดอัปสัญญาณ Wi-Fi ประจำบ้าน จึงลองให้ตัว EAP215-Bridge kit ยิงสัญญาณตรงเข้ามาอีกฝั่ง
แน่นอนว่าเป็นการยิงตรงแบบไม่มีอะไรขวางกั้น เพื่อขอดูเลยว่าสามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ดีแค่ไหน ในระยะห่างประมาณนี้
ตามสเปกแล้ว Omada EAP215-Bridge kit รองรับการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ผ่านคลื่น 5 GHz แบบ 802.11ac หรือ Wi-Fi 5 ซึ่งรองรับความเร็วได้สูงสุด 867 Mbps ลองทดสอบความเร็วที่ได้จาก EAP215-Bridge kit ตัวหลัก ก็ได้ไปประมาณ 500/500 Mbps ต่อไปก็ลองดูว่า EAP215-Bridge kit ตัว Sub จะเหลือความเร็วเท่าไร
ผลคือเหลือความเร็วประมาณ 306/288 Mbps ตามภาพ นับว่าสามารถถ่ายทอดสัญญาณ Wi-Fi ออกมาได้ดีพอตัวเลย
การตั้งค่าผ่านแอปฯ
สำหรับตัว Omada EAP215-Bridge kit หากใครมีการใช้งาน Omada อยู่แล้วสามารถเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปในระบบจัดการเครือข่ายเพื่อควบคุมและดูแลการทำงานแบบรวมศูนย์ได้หลายช่องทาง ทั้งอุปกรณ์ Omada Hardware Controller, Omada Software Controller และ Omada Cloud-Based Controller เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการเครือข่ายของเรา แต่สำหรับผู้ที่ต้องการนำไปใช้งานแบบ Standalone ก็สามารถใช้ตั้งค่าผ่านเว็บหรือใช้แอปฯ Omada ได้เช่นกัน ในที่นี้ก็ลองตั้งค่าผ่านแอปฯ เพื่อขอดูเลยว่าใช้งานง่ายแค่ไหน ตั้งค่าด้วยตัวเองได้เลยไหม
ตัวอย่างการใช้งาน
หลังติดตั้งตัวอุปกรณ์กับโมเด็มเราเตอร์แล้ว ต่อไปก็จัดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัว EAP215-Bridge kit ซึ่งจะมีชื่อ TP-Link_5GHz_xxxxxx ที่ปรากฏออกมา จากนั้นก็เปิดแอปฯ Omada ทำการเชื่อมต่อ ตั้งชื่อตั้งรหัสใช้งาน และทำตามขั้นตอนไปเรื่อย ๆ จนเสร็จ โดยรวมบอกได้เลยว่าตั้งค่าง่ายมาก แทบไม่มีอะไรซับซ้อน หากต้องการให้เชื่อมต่อ EAP215-Bridge kit อีกตัว ก็สามารถ Add หรือเพิ่มผ่านแอปฯ ได้ทันที
สำหรับหน้าตั้งค่าตัว EAP215-Bridge kit ผ่านแอปฯ ก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากเป็น Access Point ที่เน้นช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi เพียงอย่างเดียว ทว่าตัว EAP215-Bridge kit ก็เป็น Access Point ระดับใช้ในองค์กร จึงมีการตั้งค่าด้านความปลอดภัย ตั้งค่ารูปแบบการปล่อยสัญญาณ
และมีหน้าเมนูสำหรับใช้ทดสอบประสิทธิภาพอีกเพียบ
สรุป
Omada EAP215-Bridge kit ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความเฉพาะทางพอควร เป็น Access Point ที่จำเป็นต้องมีพื้นที่โล่งในการติดตั้ง ดังนั้นจึงไม่เหมาะใช้งานในบ้านหรืออาคารเหมือนอย่างรีวิวนี้ เห็น ๆ เลยว่ามันมีประสิทธิภาพลดลง อย่างไรก็ตาม EAP215-Bridge kit ก็ยังนับว่าเป็น Access Point คุณภาพ สามารถรับส่งสัญญาณได้ดีตามสเปก แอบน่าเสียดายที่ไม่รองรับ Wi-Fi 6 แต่ก็แลกกับราคาที่ยังไม่แรงมากนั้นเอง โดยหากใครเป็นเจ้าของฟาร์ม หรือมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดที่มีพื้นที่โล่ง และต้องการให้มี Wi-Fi ครอบคลุมพื้นที่ ไม่ก็ใช้ควบคุมอุปกรณ์ IoT ให้ดูแลฟาร์มจากระยะไกลได้ ตัว Omada EAP215-Bridge kit อาจตอบโจทย์แน่นอน ด้วยราคาค่าตัวที่ 4,490 บาท พร้อม การรับประกัน 3 ปี ใครกำลังมองหาตัวอุปกรณ์นี้ สามารถติดต่อสอบถามไปยังร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของ TP-Link ได้ทั่วประเทศ
- หากใครสนใจ สามารถดูข้อมูล EAP215-Bridge kit เพิ่มเติมได้ที่ Website : https://bit.ly/3Tb4Qei
- และสามารถปรึกษาข้อมูล Business Networking Solution ได้ที่ : https://bit.ly/3ONQRZH
