ชุดเดียวจบ ๆ กันไป ใครที่บ้านยังมีปัญหาเน็ตไม่ทั่วถึง แย่งกันใช้เน็ต หรืออยากได้ Wi-Fi แรง ๆ ชนิดที่อยู่ส่วนไหนของบ้าน ก็ต้องไม่มีปัญหาเรื่องความเสถียร โดยเฉพาะเหล่าเกมเมอร์ที่อาจจริงจังกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
รีวิวนี้ขอเชิญพบกับ ROG Rapture GT6 เราเตอร์ Mesh Wi-Fi 6 ฉบับเกมมิ่งจาก ASUS ที่มาพร้อมสเปกจัดเต็มระดับ AX10000 หรือรองรับความเน็ตได้สูงถึง 10,000 Mbps เหมาะสำหรับใครที่ใช้เน็ตมากกว่า 1Gbps แถมตัวเดียวยังกระจายสัญญาณเน็ตได้มากถึง 5,800 ตารางฟุต และยังมี Tri-Band ที่ปล่อยคลื่น 5GHz ได้สองคลื่น (กับ 2.4 GHz อีกหนึ่ง) แยกกันใช้ไปเลย จะดูหนัง 4K หรือโหลดไฟล์หลาย GB พร้อมกัน คนเป็นเกมเมอร์ในบ้านก็ยังอยู่ได้ อยู่ได้ยังไง ลองมาดูกันเลย
รายละเอียดสเปก ASUS ROG Rapture GT6
- High-Efficiency Performance – WiFi 6 tri-band gaming mesh system with dedicated high-performance backhaul and 160 MHz channels that provide ultrafast speeds of up to 10,000 Mbps.
- Stronger Backhaul – The Smart Antenna determines the best signal direction and location that will maximize connection speeds.
- Expanded Coverage – Nine powerful internal antennas and ASUS RangeBoost Plus technology to cover up to 5,800 square feet.
- Ultra-fast Wired Connection – Enjoy up to 2.5 times faster wired connectivity with a 2.5 Gbps WAN port and LAN aggregation.
- Triple-Level Game Acceleration – Optimize game traffic every step of the way, from your device to the game server.
- Comprehensive Network Security – Subscription-freesubscription to AiProtection by Trend Micro™ and ASUS Instant Guard, which secures your WiFi and protects your devices wherever you are.
แกะกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วยตัวเราเตอร์ ROG Rapture GT6 x 2 กับ ชุดไฟเลี้ยง Power Adapter x 2 สาย RJ-45 Cable ชดคู่มือ Quick Start Guide และ Warranty Card
งานออกแบบ
ขึ้นชื่อว่า ROG ยังไงก็อลังการจริง ๆ ROG Rapture GT6 เป็นเราเตอร์ Mesh Wi-Fi วางในแนวตั้ง โดยมีสองสีให้เลือกระหว่างสีขาว และสีดำที่นำมารีวิวในวันนี้เอง
ดูแสงสี RGB นั้นสิ คือปกติพวก Mesh Wi-Fi ทั่วไป มักมีดีไซน์ให้กลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน แต่สำหรับ ROG Rapture GT6 นั้น คือเหมือนประกาศให้รู้เลยว่า “เราอยู่ตรงนี้” วางตรงไหนก็สะดุดตา 100% บวกแสงสีจาก RGB ที่ปรับแต่งได้ด้วยแล้ว ก็เพิ่มเป็น 1000%
ลวดลายที่บงบอกความเป็น ROG และ Wi-Fi 6 ที่แปะให้เห็นชัด ๆ เลยว่ารองรับ
คำถามว่าเสาสัญญาณไปไหน ? คำตอบคือ อยู่ภายในตัวเราเตอร์เลย ซึ่งมีด้วยการทั้งหมด 9 เสา และตามสเปกเลย เป็นเราเตอร์ Tri-Band ที่ให้สัญญาณ Wi-Fi ได้ตามนี้
- 2.4GHz AX: 2×2 (Tx/Rx) 1024 QAM 20/40MHz, up to 574Mbps
- 5G-1Hz AX: 4×4 (Tx/Rx) 1024 QAM 20/40/80/160MHz, up to 4804Mbps
- 5G-2Hz AX: 4×4 (Tx/Rx) 1024 QAM 20/40/80/160MHz, up to 4804Mbps
สังเกตได้เลยว่า มีเสา 5G ที่ให้ความกว้างของสัญญาณถึง 160MHz ได้ทั้งสองตัวเลย (ไม่แปลกว่าทำไมถึงมีราคาสูง..) ทั้งนี้ยังมีชิปประมวลผลที่แรงระดับ 1.7GHz tri-core กับมีแรม 512MB แบบ DDR4 ภายในตัวด้วย เพื่อช่วยบริหารการใช้งานเน็ตจากหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมกันโดยเฉพาะ
พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลัง ก็มีช่อง WAN ที่รองรับความเร็ว 2.5 Gbps ใครสมัครเน็ต 2 Gbps คือได้ใช้งานแน่นอน นอกนั้นก็มีช่อง Gigabit LAN ให้อีก 3 ช่อง และช่องเสียบ USB 3.2 ให้อีก 1 ช่อง เอาไว้ทำระบบ Cloud ขนาดย่อมได้
EASY SETUP ติดตั้งง่ายในไม่กี่ขั้นตอน
ยังยืนยันเสมอว่า เราเตอร์ที่ดี ต่อให้ประสิทธิภาพดีขนาดไหน การ ‘ตั้งค่า’ ต้องเป็นมิตร แล้วสำหรับ ROG Rapture GT6 เป็นอย่างไร คำคอบคือ EASY SETUP
EASY SETUP ยังไง การตั้งค่าตัว ROG Rapture GT6 นั้น แบบแรกก็มีการตั้งค่าผ่านแอปฯ ASUS Router โดยขั้นแรกก็ก็ทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัวเราเตอร์ เสร็จแล้วเปิดแอปฯ เลือกซีรีส์เราเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อ (ซึ่งในที่นี้คือ GT) จากนั้นก็ทำการขั้นตอน ตั้งชื่อและรหัส Wi-Fi รอตัวประมวลผลนิดหน่อย เป็นอันเสร็จ
การตั้งค่าแบบที่สอง คือการใช้ QR Code ซึ่งใต้ล่างของตัว ROG Rapture GT6 นั้น จะมี QR Code ให้สแกนเพื่อตั้งค่าเราเตอร์แบบรวดเร็ว ไม่ต้องไปเลือกรุ่นในแอปฯ ให้เสียเวลา
ทั้งนี้ตัวเราเตอร์ของ ASUS ที่จะมีจำหน่ายในอนาคตอันไกลนี้ จะมาพร้อมกับ label ตามรูปด้านซ้ายที่ให้ข้อมูลมาทั้ง User และ password ของทั้ง Wi-Fi และการเข้าอุปกรณ์
ฟีเจอร์เด่น
เข้าสู่หน้าแรก (Home) ของตัวแอปฯ และเราเตอร์ ROG Rapture GT6 ในหน้านี้เราสามารถดูสถานะการทำงานที่สำคัญต่าง ๆ ในหน้าเดียว ซึ่งวงกลมตรงกลางก็ปัดเพื่อดูสถานะอื่น ๆ ได้
คงสังเกตมาได้สักพักแล้วว่า ตัวเราเตอร์มีโลโก้ ROG พร้อมไฟ RGB แบบ Dot มาให้ ซึ่งสามารถปรับแต่งเอฟเฟคได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ และมีให้เลือกหลากหลายมาก ชอบแบบไหนก็ไปปรับแต่งกันได้
นอกจากสถานะตัวเราเตอร์ ใครที่เป็น Admin ถือการควบคุมตัวเราเตอร์ผ่านแอปฯ ก็สามารถดูสถานะของอุปกรณ์ที่เข้ามาเชื่อมต่อไป และสั่งได้เลยว่า ให้อุปกรณ์ไหนเน้นเล่นเกม เน้นดูหนังจากบริการสตรีม หรือเน้นทำงาน กระทั่งสั่งบล็อคหรือลดความเร็วเน็ตก็ยังได้
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยอย่าง ‘ตัวเร่งความเร็วในการเล่นเกม’ ที่ช่วยลดค่า Ping และดัน QoS ของอุปกรณ์ (ที่กำลังเล่นเกม) ให้มีลำดับความสำคัญที่สุดทันที และด้วยสเปกของ ROG Rapture GT6 ก็ช่วยรองรับการใช้งานหนัก ๆ พร้อมกัน ใครจะดูหนัง 4K จะโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ คนจะเล่นเกมก็เล่นได้อย่างไร้ความกังวล
ฟีเจอร์ AIMesh เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้การตั้งค่าใช้งานตัวเราเตอร์ Mesh Wi-Fi ทำได้ง่ายมาก ซึ่งมันจะช่วยค้นหาเครือข่ายสำหรับทำ Mesh Wi-Fi ให้เอง ให้อยู่ภายใต้ SSID หรือชื่อ Wi-Fi เดียว แม้จะเป็นเราเตอร์ ASUS คนละรุ่นก็ตาม
ฟีเจอร์ทดสอบความเร็วเน็ตที่ได้จากเราเตอร์ พร้อมกับมีรายละเอียดบอกเลยว่า ความเร็วขนาดนี้ เหมาะสำหรับใช้งานแบบไหน ซึ่งตัว ROG Rapture GT6 ก็ได้ตามภาพ
ถือเป็นฟีเจอร์สำคัญของยุคนี้เลย AiProtecion หรือระบบช่วยรักษาความปลอดภัยในการท่องเว็บ (จาก Trend Micro) หากเราจะะเข้าเว็บที่มีความเสี่ยง เช่นมี มัลแวร์หรือไวรัสแฝงอยู่ ตัวเราเตอร์มันจะบล็อกการเข้าถึงทันที
อย่างที่เห็นกัน ในเราเตอร์มีช่อง USB อยู่ด้านหลัง คำถาม ‘เอาไว้ทำอะไร ?’ คำตอบคือ ‘ไว้ทำ FTP’ หรือการทำโพรโทคอลสำหรับถ่ายโอนไฟล์ผ่านอินเทอร์เน็ต จากตัวแฟลชไดร์ฟที่นำมาเชื่อมต่อนั้นเอง จะเรียกว่าเป็นการทำระบบ Cloud ขนาดย่อมก็ได้
ตัวเราเตอร์รองรับการใช้งาน VPN ได้ด้วย ซึ่งหากใครมีบริการ VPN ที่ใช้อยู่ ก็นำมาตั้งค่าใช้งานร่วมกับตัวเราเตอร์เพื่อความเสถียรก็ได้เช่นกัน
ถือเป็นคำแนะนำ หลังตั้งค่าตัวเราเตอร์เสร็จ ก็ควรมาเช็คเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ด้วย เพื่ออัปเดตระบบของตัวเราเตอร์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ให้ได้การใช้งานที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพ
ในกสนทดสอบครั้งนี้ บอกเลยว่า ‘โจทย์หนัก’ เพราะที่บ้านตัวผู้รีวิวเอง มีปัญหาจุดอับสัญญาณมานาน โดยลักษณะที่บ้านก็เป็นทาวน์เฮ้าส์สองหลังติดกัน ตัวโมเด็มเราเตอร์ (เราเตอร์จากผู้ใช้บริการ) จะอยู่ที่ชั้นล่าง ซึ่งชั้นล่างก็ใช้งานเน็ตได้อย่างไม่มีปัญหา แต่พอเป็นชั้นบนคือความเร็วตาก ยิ่งเป็นชั้นบนของทาวน์เฮ้าส์อีกหลัง ..คือลืมการเชื่อมต่อไปได้เลย ฉะนั้น ROG Rapture GT6 ซึ่งถือเป็นเราเตอร์ Mesh Wi-Fi ประสิทธิภาพสูงนั้น ลองมาดูกันชัด ๆ เลยว่า ช่วยได้แค่ไหน
โจทย์หนักของตัว ROG Rapture GT6 คือการวาง [ตัวหลัก] และ [ตัวเสริม] ให้ห่างกันสุด ๆ ซึ่งบ้านที่ใช้ทดสอบก็เป็นทาวน์เฮ้าส์สองหลังติดกัน ตัวหลักอยู่ชั้นที่ 1 ในทาวน์เฮ้าส์หลังแรก ส่วนอีกตัวไปอยูที่ชั้นสองในทาวน์เฮ้าส์หลังที่สอง ซึ่งเป็นจุดอับสัญญาณของบ้านมาโดยตลอด
ทั้งยังมีกำแพงและประตูกระจกบดบังสัญญาณ Wi-Fi พอควร แต่ ROG Rapture GT6 ว่าไงบ้าง ?
เริ่มจากทดสอบในระยะใกล้ก่อน โดยเน็ตที่ใช้บริการคือ 1000/500 Mbps ฉะนั้นหากตัวเราเตอร์ Wi-Fi ให้ความเร็วได้ใกล้เคียงกับความเร็ว 1000 Mbps มากเท่าไหน ก็แสดงว่ามีประสิทธิภาพมากเท่านั้น ผลคือ ROG Rapture GT6 ได้ความเร็ว 923/604 Mbps
พร้อมกับค่า Ping ที่นิดหน่อย การันตีความเสถียร
ระดับที่เล่นเกมออนไลน์บนสมาร์ทโฟนแล้วมีค่า Latasny ขึ้นเพียง 98 ms ให้เห็น
แล้วจุดอัปสัญญาณเจ้าปัญหาเป็นอย่างไรบ้าง คำตอบก็ตามภาพเลย จากที่เคยได้ความเร็วไม่ถึง 10 Mbps หลังติดตั้ง ROG Rapture GT6 ที่จุดนี้ ก็ได้ความเร็วเพิ่มมาถึง 376 Mbps กันเลย
ลองวัดอีกครั้งเพื่อความชัวร์ รอบนี้ก็ได้เกือบ 400 Mbps พร้อมกับค่า Ping ที่ไม่ต้องชั้นล่างมากนัก เรียกได้ว่าสามารถแก้ปัญหาจัดอับสัญญาณได้เป็นอย่างดีเลย ขนาดตั้งตัว ROG Rapture GT6 ชนิดที่อยู่ห่างกันมาก ๆ ถ้าอยู่ใกล้กว่านี้ อาจได้เลขความเร็วเน็ตที่สวยกว่านี้แน่นอน