รีวิว : Wanbo T2 Max (2023) มินิโปรเจคเตอร์ FHD ในงบ 6 พันบาท

มินิโปรเจคเตอร์ หรือ โปรเจคเตอร์แบบพกพา ปัจจุบันกลายเป็นอีกแก็ดเจ็ตยอดนิยม เนื่องด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เหมือนก่อนแล้ว และยังมีราคาเข้าถึงง่ายกว่าเดิมมากด้วย แต่จะใช้รุ่นไหนดี ลองมาดูรีวิวนี้กันกับ Wanbo T2 Max NEW หรือรุ่นใหม่ประจำปี 2023 มินิโปรเจคเตอร์ตัวล่าสุดจากแบรนด์ Wanbo ที่รอบนี้อัปเกรดใหม่จากรุ่น T2 Max เดิม โดยมาพร้อมความละเอียด Full HD (1080p) รองรับการฉายภาพขนาด 100 นิ้ว กับมีความสว่างถึง 450ANSI มีระบบ AI ช่วยโฟกัสภาพให้อัตโนมัติ ระบบเสียง Hi-Fi และมีระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ในตัวพร้อมใช้งานทันที ทั้งหมดนี้ในงบเพียง 6 พันบาทเท่านั้น

รายละเอียดสเปก Wanbo T2 Max NEW

  • แบรนด์: WANBO​
  • รุ่นสินค้า: T2 MAX​ NEW
  • สีของผลิตภัณฑ์: สีน้ำเงิน​
  • LED อายุการใช้งาน: >20000h​
  • โปรเจคเตอร์: Android 9.0 โปรเจ็กเตอร์เดสก์ท็อป​
  • อัตราส่วนความกว้างหน้าจอ: 16:9 / 4:3​
  • ความสว่าง (ANSI): 450ANSI​
  • ความละเอียดทางกายภาพ: 1920*1080 รองรับ 4K​
  • หน่วยความจำ: 1+16G​
  • เครือข่ายไร้สาย: 2.4G​
  • บลูทูธ: บลูทูธ 5.1​
  • เสียงรบกวนจากการทำงาน : <32db/m ​​
  • โหมดโฟกัส: โฟกัสอัตโนมัติ​
  • การแก้ไขรูปสี่เหลี่ยมคางหมู: การแก้ไขรูปสี่เหลี่ยมคางหมูสี่มุม​
  • ข้อมูลจำเพาะของลำโพง: เสียงเซอร์ราวด์สเตอริโอ 3W * 2HiFi​
  • ระยะการฉายภาพ: 1.1-2.6 เมตร
  • ขนาดหน้าจอ: 40-100 นิ้ว​

แกะกล่อง

แกะกล่องออกมา ก็พบตัวอุปกรณ์ตามนี้เลย โดยมีตัว Wanbo T2 Max NEW กับมีรีโมท มีสติ๊กเกอร์ และชุดไฟเลี้ยง

อนึ่งหากซื่อตัวโปรเจคเตอร์ตอนนี้ จะมีโปรฯ แถมขาตั้งมาให้ด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า “อย่างคุ้ม”

คุ้มยังไง ลองดูเลย เป็นขาตั้งอลูมิเนียมอย่างดี ฐานมั่นคง และปรับความสูงได้ถึง 170 ซม.

งานออกแบบ

งานออกแบบถือว่าเรียบ ๆ ไม่สะดุดตามาก แต่ดูมีราคา และมีขนาดเล็กพกพาสะดวก โดยตัวเครื่องก็มีน้ำหนักเพียง 1.1 กก. เท่านั้น เก็บใส่กระเป๋าพกไปใช้งานข้างนอกได้ดี

เทียบตัวเครื่องกับสมาร์ทโฟน

ด้านบนมีปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง

ส่วนด้านหน้าก็มีลำโพงสเตอริโอ

ด้านหลังก็มีพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI , USB-A 2.0 , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm และช่องต่อไปเลี้ยง จุดนี้ยังสังเกตช่องระบายความร้อนรอบตัวได่ด้วย น่าจะช่วยให้ใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ร้อนมาก

การใช้งาน

ตอนแรกคิดว่าโปรเจคเตอร์ราคาไม่เกิน 7 พันบาทนี้ คงไม่มีฟีเจอร์หรือลูกเล่นอะไรมาก แต่หลังได้ลองใช้ยาว ๆ อาทิตย์กว่าแล้ว ต้องคิดใหม่เลย เกือบลืมไปว่า นี่คือมินิโปรเจคเตอร์ที่สามารถทำงานแบบ Standalone หรือใช้งานด้วยตัวมันเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่อง PC หรืออุปกรณ์อื่นต่อพ่วงเลย ลองมาดูว่าระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ในตัวเครื่องจะมีอะไรให้ลองใช้งานบ้าง และระบบชูโรงอย่าง ‘โฟกัสภาพอัตโนมัติ’ จะเป็นอย่างไร

ประเดิมที่ฟีเจอร์โฟกัสภาพอัตโนมัติก่อนเลย จุดนี้บอกเลยว่า “ว้าว” ทางแบรนด์ระบุว่ามีการใช้อัลกอริธึมอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเองหรือในชื่อว่า Wanbo Al สามารถโฟกัสอัตโนมัติทันทีหลังจากเปิดเครื่อง คือเหมือนมันจะสแกนพื้นที่ที่กำลังฉายล่วงหน้า เพื่อเลือกขนาดจอที่เหมาะสม (40 – 100 นิ้ว) พร้อมปรับสัดส่วน 16:9 หรือ 4:3 ให้เองด้วย และยังไม่ต้องกลัวว่าจะตั้งตัวเครื่อง​ไม่ตรง ตัว AI มันจะปรับองศาให้เองด้วย

อนึ่งหากต้องการปรับโฟกัสเอง ก็สามารถทำได้ผ่านการใช้รีโมทที่มากับตัวเครื่อง

หลังเปิดเครื่อง ปรับโฟกัส พร้อมต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi อะไรเรียบร้อยแล้ว ก็จะเจอกับหน้าแรกหรือ Home Screen ที่มีแอปฯ แสนคุ้นเคยปรากฏให้เห็นเพียบ แต่แน่นอนว่าแอปฯ ทุกตัว (นอกจาก Youtube) จำเป็นต้องลงชื่อใช้งานก่อนด้วย

หน้าแอปฯ อื่น ๆ ที่มีติดตั้งมาให้ จุดนี้จะเห็นแอปฯ iMirror ซึ่งผู้ใช้สามารถนำสมาร์ทโฟนมาแชร์หน้าจอแบบไร้สายได้ด้วย โดยตัวเครื่องก็มีทั้ง Wi-Fi 2.4GHz และ Bluetooth 5.1 ​ในตัว

ลองดูหน้าตั้งค่า หรือจะเรียกว่าเป็นหน้าที่รวมฟีเจอร์ต่าง ๆ ของตัวเครื่องก็ว่าได้

หน้าตั้งค่าหลักอย่าง ‘การฉายภาพ’ หากโฟกัสอัตโนมัติยังไม่ถูกใจ ก็มาเลือกปรับการฉายภาพเพิ่มเติมเองได้

หากมีคอมฯ หรือเครื่องเล่นเกมคอนโซล ก็สามารถเลือกให้ตัวโปรเจคเตอร์รับสัญญาณผ่าน HDMI ได้

ถ้าไม่อยากเปิดเครื่องแล้วต้องมาเลือกโหมด HDMI บ่อย ๆ ก็ตั้งค่าให้ตัวเครื่องรับสัญญาณ HDMI เป็นอันดับแรกก่อนก็ได้

ตามสเปกตัวเครื่องมาพร้อมแรมขนาด 1GB และรอม 16GB ส่วนตัวมองว่าน้อยไปนิด แต่ก็ตามราคา ซึ่งแรม 1GB อาจทำให้ตัวระบบทำงานช้าไปบ้าง แต่ก็ยังใช้งานได้เสถียรดี ไม่ค้างง่าย ๆ ส่วนฟีเจอร์ ‘ศูนย์สื่อมวลชน’ นี้ แปลเป็นเมนูไทยอาจแปลกนิด ๆ แต่มันก็คือการดึงไฟล์ที่มีในตัวเครื่องมาใช้นั้นเอง หากมีคลิป เพลง หรือไฟล์รูปภาพ ก็มาเปิดใช้งานจากฟีเจอร์นี้ได้

สุดท้ายคือฟีเจอร์ ‘ทำความสะอาด’ หรือการเคลียร์แคชหน่วยความจำเพื่อเพิ่มความเร็วระบบ ก็มีมาให้ด้วย

ในหน้าตั้งค่ายังมีอีกชุดหนึ่งเป็นเมนูลัด

โดยก็มีหน้าตั้งค่าที่จำเป็นดังนี้

อนึ่งในการตั้งค่า ‘แผ่นภาพถ่าย’ ก็สามารถเลือกปรับแต่งการฉายภาพเพิ่มเติมได้อีก

รายละเอียดตัว Wanbo T2 Max NEW เพิ่มเติม

ประสิทธิภาพ

มาทวนสเปกของตัวโปรเจคเตอร์อีกนิด ตัวเครื่องรองรับความละเอียด Full HD แต่ก็สามารถนำคลิปที่มีความละเอียด 4K มาฉายได้ มีอัตราส่วนความกว้างหน้าจอทั้ง 16:9 และ 4:3 ​มีอายุการใช้งาน LED ที่ 20,000 ชั่วโมง มีค่าความสว่าง (ANSI): 450ANSI​ และรองรับ HDR10 + ช่วยเพิ่มความอิ่มตัวของสี แสง และความคมชัดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติจริงไหม ลองมาดูเลย

ธรรมชาติคม ๆ เลย

ลองดูหนังก็แจ่ม

ลองเทสการฉายภาพ 16:9 และ 4:3 จุดนี้หากตัวคลิปมาแบบสัดส่วนไหน ตัวเครื่องก็ฉายสัดส่วนนั้นให้เลย ลองเทียบดูได้

ลองเทสเกม สังเกตที่ตัวอักษรในเกมก่อนเลย ถ้าอ่านออก แสดงว่าเล่นได้

บรรยากาศการเล่นเกมด้วยเครื่องโปรเจคเตอร์อย่าง Wanbo T2 Max NEW ก็ตามนี้

สุดท้ายลองเทสพลังเสียงจากลำโพง ก็ดังกระหึ่มพอควรเลย เสียงมาครบ

สรุป

จากเมื่อก่อน การจะหาโปรเจคเตอร์ความละเอียด FHD ในราคาต่ำกว่าหมื่น บอกเลยว่าไม่มีทาง มีแต่ 2 หมื่นขึ้นไปเท่านั้น ทว่าตอนนี้เรามี Wanbo T2 Max NEW ที่เปิดราคาเพียง 6 พันบาทกลาง ๆ แต่คุณภาพเกินราคาไปไกล นับเป็นไม่กี่ครั้งจริง ๆ ที่รู้สึกอยากชมของที่รีวิวจากใจ

สำหรับตัว T2 Max รุ่นใหม่นี้ จุดที่เด่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่เลยอย่าง ‘โฟกัสภาพอัตโนมัติ’ ที่ใช้ AI ช่วยสแกนพื้นผิวที่กำลังฉายให้เอง คือมันอัจฉริยะมาก ๆ วางจุดไหน เจอความกว้างแบบไหน มันจะปรับขนาดจอและความคมชัดที่เหมาะสมได้แทบจะทันที ไม่ต้องมานั่งปรับองศาหรือจัดมุมเหมือนโปรเจคเตอร์สมัยก่อน หรือกระทั่งโปรเจคเตอร์สมัยใหม่บางรุ่น

ถัดมาคือความละเอียด Full HD ก็เป็น FHD 1080p แท้ ๆ ไม่โฆษณา ชัดจริงอะไรจริง และสว่างสุด ๆ ด้วยค่าความสว่างถึง 450ANSI แปลงให้ห้องเปล่า กลายเป็นโรงหนังส่วนตัวได้อย่างอัศจรรย์ ดูหนัง ดูอนิเมะ หรือเล่นเกมก็ทำได้ดีทั้งหมด

ด้านคุณภาพลำโพง จุดนี้ตัวโปรเจคเตอร์ชูเลยว่ามีระบบเสียง Hi-Fi ที่มีความถี่เสียงเบสต่ำเพียง 60Hz ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นถึง 80% ซึ่งก็ตามนั้นเลย คือด้วยการใช้งานในห้องปิด ก็ยิ่งทำให้ได้ยินเสียงแบบเต็ม ๆ และด้วยคุณภาพเสียง Hi-Fi ก็ยิ่งทำให้ Wanbo T2 Max NEW กลายเป็นเหมือนลำโพงอย่างดีตัวหนึ่งเลย

ชมมาเยอะแล้ว ต่อไปลองดูข้อสังเกตกันบ้าง เริ่มจากขนาดตัวเครื่อง ยอมรับว่าเล็กจริง ยัดใส่กระเป๋าไปข้างนอกได้ดี ทว่าตัวเครื่องไม่ได้มีแบตฯ ในตัว จำเป็นต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งานด้วย ถัดมาคือระบบปฏิบัติการ Android 9.0 จากเดิมที่เคยใช้เป็น 6.0 ก็มีความเสถียรขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ลูกเล่นก็เยอะขึ้น ทว่าตัวโปรเจคเตอร์ไม่ได้มีสเปกการประมวลผลที่โหดอะไร ทำให้บางครั้งการใช้งานมีความล่าช้าไปนิด บางฟีเจอร์ใช้เวลาในการโหลดพอประมาณ แต่ถ้าเน้นต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่น เช่น สมาร์ทโฟน PS5 หรือ PC ก็คงไม่กระทบอะไรมาก

ท้ายนี้ตัว Wanbo T2 Max New หรือรุ่นประจำปี 2023 นี้ เปิดราคาที่เพียง 6,590 บาท เท่านั้น สามารถหาซื้อได้ที่ Wanbo Official หรือทาง Shopee และ Lazada

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
  • สเปค / ฟีเจอร์
  • ราคา / ความคุ้มค่า
Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article