แม้ตอนนี้ SSD จะมาแรง แต่แฟลชไดรฟ์ก็ยังเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาชั้นเยี่ยม ด้วยขนาดที่พกใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ และยังมีดีไซน์ที่สวยงามเฉพาะตัว อีกทั้งราคาต่อความจุที่คุ้มค่า รีวิวนี้พบกับ Kingston DataTraveler Exodia Onyx ที่ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าต่อความจุ และ Kingston DataTraveler 80 M ตอบโจทย์เรื่องความเร็ว ใช้งานเป็นไง ลองมาดูกันครับ
สเปกเด่น Kingston DataTraveler® Exodia Onyx
- ความจุ : 64GB, 128GB, 256GB
- ความเร็ว : รองรับ USB 3.2 Gen 1
- ขนาด : 60.7 x 21 x 10.2 มม.
- น้ำหนัก : 8 ก.
- อุณหภูมิการทำงาน : 0°C~60°C
- อุณหภูมิการจัดเก็บ : -20°C~85°C
- การรับประกัน : รับประกัน 5 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรี
- ใช้งานได้กับ : Windows® 11, 10, macOS (v.10.15.x +), Linux (v. 4.4 +), Chrome OS™
สเปกเด่น Kingston DataTraveler® 80 M
- ความจุ : 64GB, 128GB, 256GB
- อินเตอร์เฟซ : USB 3.2 Gen 1
- ความเร็ว : อ่านสูงสุด 200MB/s
- ขนาด : 54.18 x 21.81 x 11.60 มม.
- น้ำหนัก : 6 ก.
- อุณหภูมิการทำงาน : 0°C~60°C
- อุณหภูมิการจัดเก็บ : -20°C~85°C
- การรับประกัน/บริการ : รับประกัน 5 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรี
- ใช้งานได้กับ : Windows® 11/10/8.1, macOS (v. 10.15.x +), Linux (v. 4.4.x +), Chrome OS™
แกะกล่อง (ซอง)
ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม โดยมาเป็นซองกระดาษที่แกะแล้วแกะเลย จุดสังเกตคือชื่อรุ่นกับความจุที่มีบอกจุดเด่นชัดเจน และมาพร้อมประกัน 5 ปีทั้งสองรุ่น
งานออกแบบ
สังเกตุได้ว่าแฟลชไดรฟ์สมัยนี้ ไม่มีฝาปิดอีกต่อไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็มาแบบจบในตัว บ้างก็พร้อมเสียบใช้งานเลย และบ้างก็มาพร้อมฝาปิดแบบเลื่อนเปิดปิดได้สะดวก เช่นเดียวกับตัว Kingston DataTraveler Exodia Onyx และ Kingston DataTraveler 80 M นี้ ซึ่งหน้าตาบอกได้เลยว่า เห็นครั้งแรงต้องมีสะดุดตากันบ้าง ทั้งขนาดที่เล็กกะทัดรัด
Kingston DataTraveler 80 M กับฝาปิดแบบเลื่อนสีฟ้าใส ดูล้ำยุคนิด ๆ พร้อมหัวต่อ USB Type-C เวอร์ชั่น 3.2 Gen 1
Kingston DataTraveler Exodia Onyx กับฝาปิดแบบเลื่อนสีดำด้านโฉบเฉี่ยว พร้อมหัวต่อ USB Type-A เวอร์ชั่น 3.2 Gen 1
การใช้งาน
ว่าด้วยการใช้งาน หากเป็น Kingston DataTraveler 80 M ที่มาพร้อมหัวเสียบแบบ USB-C ก็สามารถนำไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพาได้หลาย ๆ รุ่น หรือโน้ตบุ๊กที่มีช่องเสียบ USB-C เรียกได้ว่าครอบจักรวาล ส่วน Kingston DataTraveler Exodia Onyx ก็มาพร้อมหัวเสียบมาตรฐานอย่าง USB-A ที่การันตีการเชื่อมต่อกับ PC ทุกรุ่น
เนื่องด้วยหัวเสียบแบบ USB-C ของ Kingston DataTraveler 80 M ก็ทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทันที จะโอนถ่ายไฟล์หรือดูวิดีโอจากตัวแฟลชไดรฟ์ก็ทำได้ง่าย ๆ
ประสิทธิภาพ
ลองทดสอบความเร็วของทั้ง Kingston DataTraveler Exodia Onyx และ Kingston DataTraveler 80 M รองดูกันว่าเร็วแค่ไหน และเร็วระดับ 200 MB/s จริงไหม
ประเดิมด้วย Kingston DataTraveler 80 M ผลคือสามารถอ่านไฟล์ข้อมูลได้เร็วสมกับที่เคลมไว้ 200 MB/s จริง ๆ ส่วนความเร็วเขียนไฟล์ก็อยู่ที่ 101 MB/s
สำหรับความเร็วของ Kingston DataTraveler Exodia Onyx ก็ตามมาตรฐานแฟลชไดรฟ์เลย
สรุป
เห็นความต่างชัดเจนระหว่าง Kingston DataTraveler Exodia Onyx และ Kingston DataTraveler 80 M ซึ่งเป็นแฟลชไดรฟ์ความจุสูงระดับ 256GB ทั้งคู่ แต่เชื่อมต่อไม่เหมือนกัน ถ้าใครที่อยากใช้ความจุเพียว ๆ หัวต่อแบบ USB Type-A มาตรฐาน และราคาคุ้มค้า ก็ขอแนะนำ Exodia Onyx ที่มาพร้อม USB 3.2 Gen 1 ส่วนใครอยากได้ความเร็วด้วย และสามารถต่อกับอุปกรณ์พกพาได้ DataTraveler 80 M คือคำตอบ ด้วยความเร็วระดับ 200 MB/s ที่แรงแซงหน้า HDD และแฟลชไดรฟ์ทั่วไป ช่วยให้โอนถ่ายข้อมูลได้ไว และยังมีหน้าตางานออกแบบที่สวยสะดุดตาด้วย
สุดท้ายนี้ราคาของ Kingston DataTraveler ทั้ง 2 รุ่น โดยความจุ 256GB ตัว Kingston DataTraveler Exodia Onyx ก็มาพร้อมราคา 699 บาท ส่วน Kingston DataTraveler 80 M อยู่ที่ 789 บาท