ปกติแท็บเล็ต คงเรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่ขึ้นมาหน่อย เอาไว้ดู Content ได้เต็มตาขึ้น อย่างไรก็ตาม แท็บเล็ตก็มีข้อเสียตรงขนาด บางรุ่นก็มีน้ำหนักมาก จนไม่เหมาะที่ถือนาน ๆ และเหนื่อยที่จะพกติดกระเป๋าไปด้วย ทว่าครั้งนี้ต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่
รีวิวนี้พบกับ HUAWEI MatePad Pro 11 แท็บเล็ตสุดบาง บางในที่นี้ไม่ใช่คำโฆษณา แต่บางจริงจัง บางจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นแท็บเล็ต อีกทั้งยังมีสเปกระดับสูงพรีเมี่ยม ทั้งหน้าจอ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด WQXGA รองรับ 120Hz กับมี ΔE<1 การันตีค่าสีที่แม่นยำสูง ใช้งานร่วมกับ HUAWEI M-Pencil 2nd generation ได้ และใช้ชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 888/870 เร็วแรงทะลุความบางกันเลย
รายละเอียดสเปก HUAWEI MatePad Pro 11
หน่วยประมวลผล : Qualcomm® Snapdragon™ 888 (สำหรับรุ่น LTE)
ชิปกราฟฟิก : Adreno 660
แรม : 8GB
รอม : 256GB
กล้องหลัง : 13 MP (รูรับแสง f/1.8, AF) + 8 MP (ความยาวมุมกว้าง, รูรับแสง f/2.2, FF)
กล้องหน้า : 16 MP (รูรับแสง f/2.2, โฟกัสคงที่)
การเชื่อมต่อ : USB Type-C 3.1 GEN 1
เน็ตเวิร์ค : WiFi 6 + Bluetooth 5.2
ลำโพง : 6 ตัว
แบตฯ : Li-Ion 8300 mAh รองรับ 10V/4A
ขนาดตัวเครื่อง : 160.38 มม. x 249.23 มม. x 5.9 มม.
น้ำหนัก : 449 กรัม
ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 3.0
แกะกล่อง
เริ่มที่ตัวแท็บเล็ตก่อน ภายในก็มีตัว HUAWEI MatePad Pro 11 กับหัวชาร์จ 40W สาย USB Type-C และชุดคู่มือกับใบรับประกัน ส่วนตัว HUAWEI M-Pencil 2nd generatio กับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ก็ตามภาพเลย
งานออกแบบ
เป็นแท็บเล็ตที่สวยงามใช่เล่นทีเดียวสำหรับ HUAWEI MatePad Pro 11 วัสดุและงานประกอบคือพรีเมี่ยมจริงจัง และจุดสำคัญของตัวแท็บเล็ตรุ่นนี้เลยคือ
บาง บางมากก คือบางยิ่งกว่าสเปรย์แอลกอฮอล์แบบซองซะอีก โดยขนาดตัวเครื่องคือ 160.38 มม. x 249.23 มม. x 5.9 มม. บางเพียง 5.9 มม. บางยิ่งกว่าสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่นเลย
อนึ่งตัวแท็บเล็ตมีแบตฯ มาให้ถึง 8300 mAh ด้วย
ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 449 กรัม เท่านั้น ด้วยทั้งความบางและน้ำหนักเพียงเท่านี้ ก็ทำให้ถือใช้งานมือเดียวได้สบาย ๆ
อุปกรณ์เสริม
ในรีวิวนี้ ก็ได้ตัวอุปกรณ์อย่าง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard กับ HUAWEI M-Pencil 2nd generation มาใช้งานร่วมกันด้วย ซึ่งต้องเลยว่า “ควรมีอย่างยิ่ง” เพราะอะไรเดี๋ยวลองดู
HUAWEI MatePad Pro 11 + HUAWEI Smart Magnetic Keyboard + HUAWEI M-Pencil 2nd generation
ความอัศจรรย์อย่างหนึ่งของตัวเคส HUAWEI Smart Magnetic Keyboard คือสามารถ ‘ถอดแยก’ ตัวฝาหลังกับตัวคียบอร์ดได้
ความอัศจรรย์อย่างที่สอง ตัวคียบอร์ดที่ถูกถอดแยกออกไป ก็สามารถใช้งานแบบไร้สายได้ด้วย !!
อีกทั้งยังมีช่องสำหรับใส่ตัว M-Pencil Gen 2 ให้ด้วยอีก ซึ่งสามารถประกอบติดกันผ่านแม่เหล็กแบบนี้ได้ แต่ก็แอบถอดตัว M-Penci ออกจากตัวปลอกยากนิด ๆ
การใช้งาน
ประเดิมที่หน้าจอของตัวแท็บเล็ตก่อนเลย ตัวเครื่องมาพร้อมจอ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560 × 1600) รองรับ 120 Hz ซึ่งถือเป็นจอที่มีความละเอียดคมชัดมาก ๆ ใช้งานได้ดีทั้งความบันเทิงและงาน Creator ซึ่งการันตีแสดงผลค่าสีที่ตรงมาก ๆ ด้วย ΔE<1
ลองดูประสิทธิภาพหน้าจอกันชัด ๆ
ถัดจากหน้าจอว่าดีงามมาก ๆ แล้ว ลำโพงตัวแท็บเล็ตก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน เห็นร่างบาง ๆ แบบนี้ แต่ก็มาพร้อมลำโพงถึง 6 ตัวภายใน โดยจะให้พลังเสียงได้ขนาดไหน เดี๋ยวลองฟังกันได้
เปิดระดับเสียงยังไม่ถึงครึ่ง แต่ความดังมาเต็มมาก จนไม่กล้าเปิดดังสุด กลัวโดนเคาะประตู – –
HUAWEI Share
หนึ่งในประโยชน์ของ HUAWEI Share และการมีอุปกรณ์จาก HUAWEI อย่าง MateBook Series ก็ทำให้ใช้งานฟีเจอร์ Extend Mode หรือแชร์หน้าจอจากตัว MateBook มายัง MatePad แปลงให้กลายร่างเป็นแท็บเล็ต PC ไร้สายได้เลย
คราวนี้ก็สามารถใช้งานตัวปากกา (เรียกว่า ‘ดินสอ’ ไม่ได้จริง ๆ ฮะ) HUAWEI M-Pencil 2nd generation ได้แบบเต็มที่ โดยในที่นี่ก็ได้ลองใช้งานโปรแกรม Clip Studio Paint บนหน้าจอของ HUAWEI MatePad Pro 11 พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับตัว M-Pencil Gen 2 ได้เลย
อนึ่งภาพแมวมาจากแบบฝึกหัดออนไลน์ของทาง Clip Studio Paint นะครับ ส่วนสกิลการวาดจริง ๆ ของผู้เขียนคือ..
นอกจาก Extend Mode แชร์หน้าจอได้แล้ว ยังสามารถแชร์ไฟล์แบบไร้สายได้อีกด้วย
HarmonyOS 3.0
สำหรับตัว HUAWEI MatePad Pro 11 ครั้งนี้ก็มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3 ตัวล่าสุด สำหรับเวอร์ชั่นนี้ จากที่ลองใช้ ก็รู้สึกได้เลยว่า มีการปรับปรุงการใช้งานต่าง ๆ ให้สะดวกขึ้น และตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ยิ่งขึ้น ทว่าโดยรวมยังคงบอกได้ว่า “พอใช้งานได้” คือตัวผู้เขียนรีวิวเอง ก็มี Ecosystem ของ Google ค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งตัวแอปฯ ตัวบริการ และความคุ้นชิน ซึ่งพอมาลองใช้ HarmonyOS ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน ก็ยังคงต้อง ‘ปรับตัวทุกครั้ง’ ที่ใช้งานเสมอ แต่ถ้าถามว่า Ecosystem ของ HUAWEI ดีไหม ? บอกได้เลยว่า ถ้าปรับตัวได้ ใช้งานสนุกแน่นอน
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3
ฟีเจอร์แบ่งหน้าจอใช้งานสองแอปฯ พร้อมกัน
หรือใช้งานแบบ “หน้าต่างลอย” ที่ให้อารมณ์เหมือน PC มากขึ้นก็ได้
ส่วนตัว HUAWEI APPGallery รอบนี้ดูเหมือนจะมีแอปฯ รองรับมากขึ้น
กล้องหลัง
ลองใช้งานตัวกล้องหลังคู่ 13 MP (รูรับแสง f/1.8, AF) + 8 MP (ความยาวมุมกว้าง, รูรับแสง f/2.2, FF) ที่รอบนี้มีดีไซน์โมดูลกล้องคล้ายกับตัว Huawei P50 มาเลย ส่วนคุณภาพที่ได้จะเป็นยังไงนั้น ลองดูได้ตามนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง HUAWEI MatePad Pro 11
กล้องแจ่มอยู่นะ