หรือนี่คือยุคทองของจอ OLED ที่หลัง ๆ เริ่มนิยมนำมาใช้มากขึ้น เนื่องด้วยคุณภาพการแสดงผลที่สวยคม และยังประหยัดพลังงานอีก รีวิวนี้พบกับ Zenbook 14 OLED (UX3402) โน้ตบุ๊กบางเบาตัว Top จากทาง ASUS มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว คมทั้งความบางและหน้าจอกันเลย ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล 12th Gen Intel ตัวล่าสุด (Intel Core i5-1240P) และยังมีทั้ง SSD แบบ NVMe PCIe 4.0 กับ RAM LPDDR5 ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพเกินความบางได้ขนาดไหน และจอ OLED มีดีแค่ไหน ลองมาดูกันเลยครับ
ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402)
Processor : Intel Core i5-1240P @1.7 GHz (12M Cache, up to 4.4 GHz, 4P+8E cores)
GPU : Intel Iris Xe Graphics
Memory : 16GB LPDDR5
Display : จอ OLED ขนาด 14″ นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) สัดส่วน 16:10 , Refresh Rate 90Hz , ค่าความสว่าง 400nits (สูงสุด 600nits) , มาตรฐานการแสดงผล DCI-P3 100%
Storage : 512GB M.2 NVMe PCIe 4.0
Wi-Fi : Wi-Fi 6E (802.11ax)
Bluetooth : 5.2
Battery : 75WHrs, 2S2P, 4 ก้อน รองรับการชาร์จผ่าน USB Type-C ที่ 65W
Webcam : 720p HD (มีรุ่น 1080p ให้เลือก)
Port : USB 3.2 Gen 2 Type-A x 1 , Thunderbolt 4 x 2 , HDMI 2.0b x 1 , 3.5mm Combo Audio Jack x 1 และ Micro SD card reader
Dimension : 31.36 x 22.06 x 1.69 ~ 1.69 ซม. (หนัก 1.39 กก.)
OS : Windows 11 Home
Color : Ponder Blue
แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย ตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) , ชุดไฟเลี้ยงแบบ USB-C , กระเป๋าหรือซองใส่ Sleeve และหัวแปลง USB-A to RJ45 ทั้งนี้หากเลือกรุ่นที่เป็นหน้าจอสัมผัส จะได้ปากกา Stylus ติดมาด้วย
งานออกแบบ
ดีไซน์ Zenbook คราวนี้ เน้นบางกว่าเก่า แอบฉีกจาก Zenbook รุ่นก่อน ๆ อยู่เหมือนกัน คือดูมีความสมมาตรมากขึ้น และให้อารมณ์คล้ายกับโน้ตบุ๊กระดับองค์กรอยู่หน่อย (คล้ายกับรุ่น ExpertBook) แต่ยังคงความโฉบเฉียวเหมือนเคย
จุดสังเกตคือบานพับแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความบางให้กับตัวเครื่องชัดเจน กางหน้าจอได้ถึง 180 องศา และยังเพิ่มจุดสะดุดมากกว่าเดิมด้วย ด้านความบางตัวเครื่องก็อยู่ที่ 1.69 ซม. เท่านั้น ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 1.39 กก. ด้านวัสดุใช้เป็นแมกนีเซียมอัลลอย ทำให้แข็งแรงทนทานและเบา
คีย์บอร์ดและทัชแพดตัวเครื่อง หรือมีชื่อเรียกหล่อ ๆ ว่า ErgoSense จุดนี้ชูเลยว่า มีการออกแบบตัวปุ่มกดให้เข้ากับรูปทรงของปลายนิ้ว (Dished key caps 0.2 mm) อีกทั้งตัวปุ่มยังมีความห่างระหว่างกันแบบพอเหมาะที่ 19.05 มม. พอ ๆ กับคีย์บอร์ด Desktop PC เลย ช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น และสุดท้าย Key travel ลึกประมาณ 1.4 มม. ช่วยให้กดพิมพ์ได้โดยไม่ต้องใช้แรงมากเกินไป ส่วนตัวทัชแพด ก็มีการใช้พื้นผิวที่มีการเคลือบพิเศษแรงเสียดทานต่ำ ที่ป้องกันรอยนิ้วมือ ช่วยเพิ่มสัมผัสการใช้งานที่ดีขึ้น
อนึ่งตัวทัชแพดสามารถเรียกใช้ปุ่ม NumPad (ASUS NumberPad 2.0) แบบระบบสัมผัสได้ และตัวแป้นคียบอร์ดก็มีไฟ LED ให้ด้วย
ลองดูลำโพงใต้เครื่อง ส่วนนี้ ASUS ระบุเลยว่า ใช้ AI หรือ Smart Amp Technology มาช่วยประมวลผลเรื่องเสียงโดยเฉพาะ ส่วนตัวลำโพงก็ใช้ harman/kardon พร้อมระบบ Dolby Atmos ซึ่งจะให้เสียงได้ขนาดไหน ลองฟังเสียงตอนเล่นเกมได้ที่หัวข้อท้าย ๆ เลย
OLED คมจริงไหม
มาถึงส่วนประเด็นหลักของรีวิวนี้แล้ว ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) ตามข้อมูลสเปกหน้าจอคือ OLED ขนาด 14″ นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) สัดส่วน 16:10 , Refresh Rate 90Hz , ค่าความสว่าง 400nits (สูงสุด 600nits) , มาตรฐานการแสดงผล DCI-P3 100% นับว่าเป็นหน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียว แต่แน่นอนว่า OLED คือตัวชูโรงหลัก
ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) จริง ๆ นะเออ
ความรู้สึกตอนใช้งานจอ OLED เป็นอย่างไรบ้าง ขอสั้น ๆ เลยครับ “ลืมจอ IPS ไปแล้ววว” คือตัวจอ OLED จะมีจุดเด่นเรื่องการแสดงผลที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษอยู่แล้ว อีกทั้งการแสดงผล ‘สีดำ’ ที่จะดำสนิท ไม่มีการเปล่งแสงออกมาเหมือนจอ IPS หรือจอทั่ว ๆ ไป ยิ่งช่วยให้การแสดงสีสวยคมยิ่งขึ้นอีก และก็คมจริง ๆ แต่แอบเสียดายตรงที่จอเป็นเหมือนจอกระจก หากอยู่ในที่สว่าง จะเจอกับภาพสะท้อนได้ง่ายทีเดียว
ประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งไฮไลท์ นอกจากจอ OLED แล้ว ก็ยังมีส่วนชิปประมวลผลที่ใช้เป็น Intel Core i5-1240P เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่คุ้นชื่อซีพียูนี้ ก็ขออธิบายสั้น ๆ ว่ามันคือ Intel U-Series เวอร์ชั่นไม่กักสเปกนั้นเอง คือเป็นชิปซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กบางเบาเหมือนกเคย และประหยัดพลังงาน ทว่ายังไม่ทิ้งความแรงไปมาก ซึ่งแน่นอนว่ายังเทียบกับซีพียู H-Seires ไม่ได้ แต่จะมีดีแค่ไหน ลองมาดูกัน
สเปกหลักของ ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) คือมีตัว Intel Core i5-1240P @1.7 GHz (12M Cache, up to 4.4 GHz, 4P+8E cores) กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics และสุดท้ายแรมขนาด 16GB แบบ LPDDR5 ตัวล่าสุด
รายละเอียดตัวแรม 16GB LPDDR5
ประเดิมทดสอบแรกด้วย Cinebench ทั้งรุ่น R23 , R20 และ R15 ผลคือมีคะแนนสูง สูงแบบเกินคาดทั้งหมดเลย สืบเนื่องจากตัวซีพียูมีจำนวน 12 Core และ 16 Thread (ที่เหลือเป็น E-Core) คือเป็นซีพียู Hybrid ที่ประกอบด้วย P-Core (Power) ประมวลผลหลัก และ E-Core (Efficiency) ประมวลผลรองเน้นประหยัดพลังงาน พอมีแบบนี้ เลยส่งผลให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมากนั้นเอง
ด้าน PC Mark 10 วัดการใช้งาน PC โดยรวม ก็ยังได้ถึง 5039 คะแนน
ความเร็วอ่านเขียน SSD ขนาด 512GB แบบ PCIe Gen 4 ก็ได้ความเร็วอ่านเขียนสูงขึ้นอีกระดับ โดยความเร็วอ่านอยู่ที่ 6821 MB/s ส่วนความเร็วเขียนได้ 5067 MB/s
อีกข้อดีของซีพียู Hybrid ก็คือช่วยประหยัดงานนี้เอง และส่งผลให้ตัว ASUS Zenbook 14 OLED (UX3402) สามารถใช้งานแบตฯ ได้ยาว ๆ นับ 18 ชั่วโมงกันเลย
ปิดท้ายด้วยการเทสเกม ลองดูหน่อยว่าตัว Intel Core i5-1240P จะสามารถเอาเกมพิฆาตซีพียูออนบอร์ดอย่าง Genshin Impact อยู่ได้หรือไม่
สรุปผลการเทส หากเป็นภาพกราฟฟิกเป็นความละเอียด FHD และปรับ Mid กลาง ๆ จะสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลทีเดียว หากปรับสุดทุกอย่างก็เล่นได้อยู่ แต่จะกระตุก และเครื่องร้อนพอควร
ว่าด้วยการระบายความร้อน ก็ลองเทสด้วย FurMark ผลคือมีความร้อนเฉลี่ยที่ประมาณ 75 – 86 องศา อุ่น ๆ มาเลย