หากใครกำลังมอง Smart TV ราคาคุ้มค่าอยู่ แบรนด์ coocaa เป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งานมาก มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน แถมมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ รวดเร็วกว่า Smart TV แบรนด์อื่น ๆ

หากดูที่ชื่อว่า coocaa แล้ว หลายคนอาจจะไม่คุ้นมากเท่าไหร่ครับ แต่จริง ๆ แล้วแบรนด์นี้มีมานานแล้ว แต่ว่าพึ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ไม่ทัน โดยเน้นราคาที่คุ้ม แต่ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวคือรุ่น coocaa 32s3u  ซึ่งจะเจ๋งขนาดไหน ไปดูกันครับ

เป็นรุ่นแรกที่ใช้งาน Coolita OS

coocaa Smart TV 32S3u  ขนาด 32 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่นำระบบปฏิบัติการ Coolita OS ของตัวเองมาใช้งาน มีความรวดเร็ว และให้ประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นที่ใช้ระบบ Android ในรุ่นก่อน ๆ พร้อมทั้งยังมีแอปความบันเทิงต่าง ๆ เช่นแอพเกม ติดมาให้ในระบบ สามารถเอาไว้เล่นแก้เบื่อ หากยังไม่รู้จะดูอะไรครับ

จอภาพ DLED

coocaa S3U มาพร้อมกับจอภาพ DLED (Direct View LED) ขนาด 32 นิ้ว พร้อมสัดส่วนจอภาพ 16:9  เหมาะกับการดูภาพยนต์มาก ๆ  อีกทั้งยังมีโหมดภาพให้เลือก 5 โหมด (Standard, Vivid, Game, Movie, Sports) เป็นตัวเลือกให้เราปรับคุณภาพของภาพได้ตามต้องการไม่ว่าจะใช้งานแบบใด

รองรับการแสดงผลจาก Smartphone

ต้องยอมรับว่าหากแบรนด์ไหนทำ  Smart TV  ออกมาตอนนี้ แล้วไม่มีฟังก์ชั่นการแคสหน้าจอบนมือถือมาบน TV ได้ถือว่าตกเทรนด์มาก ๆ ครับ เพราะฟังก์ชั่นจะเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องขยายหน้าจอจาก Smart phone ให้เห็นชัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมโชว์ การใช้แสดง slide Power point ในการประชุม  หรือใช้ขยายหน้าจอ Netflix ให้ใหญ่ขึ้นได้ครับ

การใช้งานก็ง่ายมากครับ เพียงแค่เราเอา Smartphone Android เชื่อมต่อกับ Router ตัวเดียวกับที่ต่อ TV แล้วกดเข้าไปที่ฟังก์ชั่นแคส หรือ การฉายแบบไร้สายบน Smartphone ก็สามารถเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ ครับ

ข้อสังเกต : ไม่สามารถใช้งานกับ Apple ได้ , Smartphone ต้องอยู่ไม่ไกลจาก TV มากนัก , มีดีเลย์ในส่งสัญญาณภาพนิดนหน่อยครับ

รองรับการใช้งาน Youtube บนระบบปฏิบัติการ

บนระบบปฏิบัติการ Coolita รองรับแอป YouTube เวอร์ชันล่าสุด  สามารถคลิกปุ่ม YouTube บนรีโมตอัจฉริยะ หรือคลิกที่แอป YouTube บนหน้าโฮมของทีวี เพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มของวิดีโอได้ทันที เพิ่มความสะดวกในการใช้งานเข้าไปอีก

พร้อมกันนี้ YouTube ทีมีมาให้ รองรับการเพลย์แบ็คแบบพาโนรามา 360 องศา และให้ความละเอียดสูงแบบ Ultra HD, HDR10 และ Dolby Vision ครับ

รองรับการใช้งานเบราว์เซอร์

หากวันไหนอยากค้นหาข้อมูลผ่าน Google หรืออยากเล่น Facebook แบบจอใหญ่ ๆ  ก็ทำได้บน Smart TV ตัวนี้นะ และยังสามารถบุ๊คมาร์กเว็บไซต์ที่เข้าบ่อย เพื่อให้เข้าใช้งานครั้งต่อไปได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วยครับ และยังสามารถใช้เมาส์ แทนการใช้รีโมทบังคับเคอร์เซอร์ได้อีกด้วยนะ

มีแอพอื่น ๆ มาให้ พร้อมเกม Puzzle

ระบบปฏิบัติการ Coolita  ได้ติดตั้งคลาวด์เกมไว้เรียบร้อยแล้ว  มีเกมให้เลือกครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเกมปริศนา เกมกลยุทธ์ เกมแอ็กชัน หรือเกมกีฬา ซึ่งติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลาหรือยุ่งยากกับการดาวน์โหลดเองครับ ซึ่งในอนาคตก็จะมีเกมเพิ่มมากขึ้นด้วย

และเมื่อเปิดใช้ “โหมดเกม” จะมีความหน่วงต่ำ ≤20 มิลลิวินาที (ms) ซึ่งจะช่วยลดความเบลอของภาพที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ให้ภาพคมชัด ให้คุณเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ไหลลื่นสุด ๆ ไม่มีสะดุด!

ใช้มือถือเป็นรีโมทได้

หากใครเบื่อใช้รีโมท หรือรีโมทถ่านหมด ก็เปลี่ยนมาใช้งานรีโมทบน Smartphone ได้นะ  โดยสามารถใช้มือถือเราสแกน QR Code เพื่อโหลดแอปมา จากนั้นให้เราตั้งแต่บนแอป แล้วกดสแกนอุปกรณ์ได้เลย เราก็จะสามารถใช้ Smartphone แทนรีโมทได้เลยครับ  (แนะนำให้ใช้ Android จะดีกว่า iOS นะครับ

รองรับการแสดงไฟล์วีดีโอ เพลง และรูปภาพผ่าน Flash Drive

หากเราต้องการนำไฟล์วีดีโอ ไฟล์ภาพ หรือไฟล์ MP3 มาเปิดเล่น ก็สามารถเสียบ Flash Drive เข้าในพอร์ตด้านหลัง และกดไปที่ฟังก์ชั่น Media จะแสดงให้เห็นถึงไฟล์ที่มีอยุ่ใน Flash Drive และให้เรากดเล่นได้ทันทีครับ

โทรทัศน์ทุกเครื่องที่ทำงานด้วยระบบ Coolita OS จะมาพร้อมกับรีโมตอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายมาก ๆ  มีปุ่มกดเพียง 16 ปุ่ม จะช่วยให้คุณเข้าถึงแพลตฟอร์มคอนเทนต์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น YouTube 2021, เบราว์เซอร์ และ CC Plus*ได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มเดียวครับ

พอร์ตการใช้งานครบครัน

พอร์ตมีมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น

• พอร์ต USB สำหรับเสียบเมาส์หรือ Flash Drive
• พอร์ต DVI สำหรับเสียบสายเสาอากาศ
• พอร์ต HDMI  2 พอร์ต
• พอร์ต AV

สรุป

หากใครกำลังมองหา TV ที่คุ้มค่ากับการใช้งาน coocaa ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเลย มีความเร็วกว่าระบบปฏิบัติ Android ทั่วไป แต่มีข้อสังเกตคือ แอพอาจจะน้อยกว่าระบบ Android ครับ  ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็ดูตามความคุ้มค่าของแต่ละคนได้เลย

ทั้งนี้ มีช่องทางการสั่งซื้อ: JD Central, Lazada, Shopee

ราคา: 4,999 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป