หากมีสัญลักษณ์ [Intel Evo] แปะอยู่ ก็การันตีได้เลยว่า ‘ของดี’ ยืนยันโดย Intel รีวิวนี้พบกับ MSI Prestige 14 Evo ภาคต่อของโน้ตบุ๊กบางเบาพรี่เมี่ยมจาก MSI ที่เน้นพกพาโดยเฉพาะ แต่ยังไม่ทิ้งประสิทธิภาพ โดยมาพร้อม Intel Core i7-1195G7 และ Intel Iris Xe ที่จะมาลบภาพจำของ ‘ออนบอร์ด’ ที่ผ่าน ๆ มากันเลย (เล่น Genshin Impack ปรับสุดได้ไม่กระตุก !!) พร้อมแบตฯ ที่ใช้ได้ยาว ๆ ในราคา 37,990 บาท
ก่อนหน้านี้ทีมงานเคยรีวิวตัว MSI Prestige 14 รุ่นสีขาว Pure White ไปแล้ว รอบนี้ลองมาดู MSI Prestige 14 Evo รุ่น Carbon Gray (เรียกสีดำก็ได้) เพิ่มเติมคือ Evo หรือรุ่นที่มาพร้อมมาตรฐาน Intel Evo กันเลย การันตีทั้งเรื่องการออกแบบ ประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ ว่าสุดจัดในทั้ง 3 ด้าน มากกว่าโน้ตบุ๊กบางเบาทั่วไป รวมถึงอัจฉริยะกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปด้วยเช่นกัน ซึ่งอัจฉริยะยังไงเดี๋ยวลองมาดู ส่วนตัว Prestige รอบนี้ยังคงคล้ายเดิม เป็นซีรีส์โน้ตบุ๊กบางเบาระดับพรี่เมี่ยมจาก MSI เพิ่มเติมคือสเปกภายในที่ยกระดับเป็น Intel Core i7-1195G7 และ Intel Iris Xe ที่แรงขึ้นจากรุ่นก่อนอย่างมาก
สเปก MSI Prestige 14 Evo (A11MO-038TH)
หน้าจอ : 14 นิ้ว IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080) sRGB100% 300nits
ซีพียู : Intel Core i7-1195G7 (12M Cache, up to 5.0 GHz)
การ์ดจอ : Intel Iris Xe Graphics (A11M)
แรม : 16GB LPDDR4 (Dual-channel)
SSD : 512GB NVMe PCIe Gen4x4
แบตฯ : 52 WHr
การเชื่อมต่อ : Intel Wi-Fi 6 AX201 (2 x 2 ax) + BT 5.1
OS : Windows 10 Home 64-bit
งานออกแบบ
+++
+++
“น่าพกพาโดยแท้” แรกสัมผัสตัว MSI Prestige 14 Evo ซึ่งตัวเครื่องก็บางเบาได้ใจจริง ๆ ผิดกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ MSI ไปไกลเลย และยังมีน้ำหนักที่เบามาก (1.29 กก.) แม้จะใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมก็ตาม การออกแบบก็หรูหรา มีเส้นขอบสะท้อนแสงเป็นสีน้ำเงินสวยมาก น่าให้ผู้บริหารถือใช้จริง ๆ และคงแพงมากแน่ ๆ ทว่าราคาตัวเครื่องก็เริ่มที่ 3 หมื่นกลาง ๆ เท่านั้น ถ้าเป็นเหมือนกันก็ 4 – 5 หมื่นไปแล้ว นับว่าเป็นโน้ตบุ๊กบางเบา ที่งานดีไม่แพ้โน้ตบุ๊กระดับองค์กรเลย แต่กลับมีราคาจับต้องได้ง่ายเกินคาด
ขนาดตัวเครื่อง 319 x 219 x 15.9 mm และหนักเพียง 1.29 กก. ทั้งยังแข็งแรงทนทานด้วย MIL-STD-810G
แผงดูดลมเข้าใต้เครื่อง ที่สังเกตดี ๆ จะเห็นพัดลมระบายความร้อนหนึ่งตัวชัดเจน ซึ่งใช้กับตัวซีพียู Intel Core i7-1195G7 ขุมพลังเพียงหนึ่งเดียวของตัวเครื่องนี้เอง
สัมผัสการใช้งาน
ถ้าหากตัว MSI Prestige 14 Evo มาพร้อม Windows 10 Pro มันก็คือโน้ตบุ๊กระดับองค์กรตัวหนึ่งเลย (ซึ่งก็มีให้เลือกใช้ด้วยนะเออ) ที่มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทาน ระบบ Security และประสิทธิภาพ สำหรับตัว MSI Prestige 14 Evo ระบบ Security อาจจะไม่จัดจ้านมาก แต่ก็มีระบบสแกนลายนิ้วมือให้ กับ Windows Hello ก็เพียงพอแล้ว นอกนั้นก็มีเรื่องของมาตรฐาน Intel Evo อีก ซึ่งจะมีข้อดียังไงบ้าง เดี๋ยวรอดูกันได้
+++
+++
พูดถึงคีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์กันหน่อย แม้ตัวเครื่องจะเป็นรุ่นจอ 14 นิ้ว ขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก แต่ก็ยังวาง Layout ปุ่มพิมพ์ได้กว้างพอ ตัวปุ่มมีขนาดใหญ่และวางไม่ชิดกันมาก ทำให้กดได้ง่ายและกดได้มันมือพอควร สัมผัสได้ถึงความลึกของแต่ล่ะปุ่มที่กดเลย ทว่าก็แลกกับ TouchPad ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแทน และยังมีส่วนสแกนลายนิ้วที่กินพื้นที่ไปส่วนหนึ่งอีก
ตัวบานพับก็มีกลไกช่วยเพิ่มช่องวางใต้เครื่อง ให้สามารถดูดลมเข้าเพื่อระบายความร้อนได้มากขึ้น (ใน หน้าสเปก บอกลดความร้อนลงได้อีก 5 องศา) และยังช่วยดันแป้นพิมพ์ให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
ส่องตัวกลไลบานพับแบบชัด ๆ
กางจอได้เต็มที่ถึง 180 องศา
+++
+++
ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็น พอร์ตเชื่อมต่อก็น้อยตามเป็นเรื่องปกติ โดยตัวเครื่องก็มีพอร์ตเชื่อมต่อให้ตามนี้เลย อาทิ USB Type-C x 2 ซึ่งเป็น Thunderbolt ด้วย ใช้ต่อออกจอ Monitor หรือโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงระดับ 40 Gbps ได้เลย (เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โน้ตบุ๊ก Intel Evo ต้องมี) และมี USB Type-A 3.2 Gen1 ให้อีกหนึ่งช่อง (น่าจะให้อีกช่อง) สุดท้าย Micro SD และช่องต่อหูฟัง 3.5 mm
หน้าจอขอบบางมาก มีพื้นที่แสดงผลถึง 90% ในขนาด 14 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมความละเอียด Full HD และมีค่า sRGB ถึง 100% แสดงผลสีได้ตรงมาก
Intel Evo ดียังไง
มีสัญลักษณ์ [Intel Evo] แปะอยู่มันดียังไง ? เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่า Intel Evo คืออะไร ก็ขออธิบายสั้น ๆ ว่า มันคือตรารับรองจาก Intel นั้นเอง (เหมือนสมัย Intel Centrino) ซึ่งเอาไว้รับรองว่า โน้ตบุ๊กเครื่องนั้นบางเบาจริง แรงจริง แบตฯ อึดจริง มีพอร์ต Thunderbolt และสุดท้ายมี AI ด้วย ส่วนนี้เองที่จะมาพูดถึงในรีวิว MSI Prestige 14 Evo กันหน่อย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของตัวเครื่องนั้นเอง
เริ่มจากแบตฯ กันก่อน สำหรับตัว MSI Prestige 14 Evo มีการเคลมว่า สามารถใช้งานได้ 12 ชั่วโมง ลองเทสด้วยโปรแกรม BatteryMon ก็อยู่ได้เกือบ 12 ชั่วโมงเลย ใช้งานพกพากันได้ยาว ๆ นับเป็นอีกจุดสำคัญที่โน้ตบุ๊ก Intel Evo ต้องมีเช่นกัน
และพระเอกในครั้งนี้คือ MSI Center เป็นโปรแกรมอัจฉริยะ ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนตัว AI ในตัว MSI Prestige 14 Evo นี้เอง โดยเราก็สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ที่ใช้การประมวลผลด้วย Intel Core i7-1195G7 หรือ Gen 11th ได้ตามนี้
ใช้ AI ช่วยคำนวนการใช้งานแบตฯ ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น โดยมันจะคำนวนจากการใช้งานของเรา ซึ่งหากเราใช้งานโปรแกรมนี้ ๆ อยู่ มันก็จะพยายามลดการใช้พลังงานอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นลงนั้นเอง (เข้าใจว่าแบบนี้นะ)
ใช้ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนภานนอก ซึ่งใช้ได้ทั้งไมค์และลำโพงในตัวเครื่องเลย
ใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ส่วนนี้บอกเลยว่า ใครที่เป็นสายตัดต่อหรือแต่งภาพ อาจได้ใช้แน่นอน สังเกตได้จากใน ‘Support List’ มันมีชื่อโปรแกรมตระกูล Adobe ให้พร้อมเลย หรือสามารถเลือกโปรแกรมอื่น ๆ ที่ต้องการ Optimizer จากในนี้ก็ได้
One-Click Scan กดคลิกเดียว ก็เช็คสภาพส่วนต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้เลย เช่น
เช็คสภาพของ SSD ในปัจจุบัน หรือเช็คสภาพด่วนก็ได้
+++
+++
ไม่ก็เช็คสภาพโดยรวมของตัวเครื่องทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 นาทีก็ได้ผลแล้ว แต่ถ้าอยากได้อย่างละเอียด ก็อาจต้องรอถึงชั่วโมง
ประสิทธิภาพ
ขุมพลังหลักของตัว MSI Prestige 14 EVO คือ Intel Core i7-1195G7 จุดนี้อยากให้สังเกตที่เลขท้าย จะเห็นเลยว่ามันคือ 1195G7 ไม่ใช่ 1185G7 แบบที่เห็นในหลายรุ่น หมายความว่านี่คือซีพียู Intel Gen 11th U-Series ตัว Top สุดเลยนั้นเอง ดังนั้นความแรงก็เพิ่มขึ้น (ราคาก็เช่นกัน) และอีกส่วนก็มี Intel Iris Xe การ์ดจอออนบอร์ด (ที่แทนที่ Nvidia MX) เรียบร้อย ซึ่งจะแรงแค่ไหนลองมาดูกัน
รายละเอียด Intel Core i7-1195G7 และ Intel Iris Xe Graphics
ผลเทสจาก Cinebench R15 ก็ได้ไป 1046 cb และ OpenGL ได้ 105.74 fps ส่วน Cinebench R23 ก็ได้ที่ 5200 pts แรงใช่เล่นเลย
PC Mark 10 ได้ 4974 คะแนน ลองสังเกตที่คะแนน Video Editing Score จะเห็นเลยว่าสูงเป็นพิเศษถึง 5185 คะแนน เทียบกับการ์ดจอเล่นเกมบางตัวได้เลย ถือเป็นข้อได้เปรียบของซีพียู Intel Gen 11th ที่มี AI ช่วย Encode ไฟล์วิดีโอได้ดีนั้นเอง
ความเร็วอ่านเขียนของ SSD ขนาด 512GB ก็ได้ความเร็วอ่านที่ 6789 MB/s (OMG !!) กับความเร็วเขียน 4272 MB/s สมกับที่ใช้ SSD ระดับ Gen 4 กันเลย
เกมมิ่ง (ไหวไหม ?)
จากที่บอกว่า Intel Iris Xe จะมาลบภาพจำของ ‘ออนบอร์ด’ ที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งสามารถเล่น Genshin Impack ปรับสุดได้ไม่กระตุก ลองดูคลิปข้างล่างนี้เลย เทสจริง ถ่ายจริง และไม่กระตุกจริง ๆ !!
ไม่น่าเชื่อว่าการ์ดจอออนบอร์ดจะมาถึงจุดนี้ได้ ปกติเกม Genshin Impack แม้จะเป็นเกมมือถือก็จริง แต่ในเวอร์ชั่น PC บอกเลยว่ากินสเปกเกินคาด ทำเอาโน้ตบุ๊กบางเบาหลายรุ่น ‘เหงื่อตก’ มานักต่อนักแล้ว แต่ในตัวซีพียู Intel Core i7-1195G7 ที่มาพร้อม Intel Iris Xe กลับสามารถเล่นได้สบาย ๆ แทบจะไม่มีอาการกระตุกให้เห็น (ลืมภาพจำสมัย Intel UHD ไปได้เลย) ทว่าก็แลกมากับความร้อนที่สูงไม่น้อย ร้อนทะลุปุ่มคียบอร์ดมาเลย สรุปเล่นได้ เล่นได้ดีด้วย แต่ก็ควรปรับภาพเป็นระดับกลาง ๆ เพื่อการเล่นระยะยาวจะดีกว่า
สรุป
รีวิวนี้ทำให้รู้เลยว่า โน้ตบุ๊กที่มีตรา Intel Evo คือของดีอย่างแน่นอน Intel ชูนิ้วโป้งให้เรียบร้อย สำหรับตัว MSI Prestige 14 Evo ก็นับเป็นโน้ตบุ๊กบางเบางานดีมาก ๆ รุ่นหนึ่งเลย ทั้งการออกแบบ ความน่าพกพา และประสิทธิภาพที่แรงจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นโน้ตบุ๊กบางเบา แบตฯ ก็อึดใช้งานได้ยาวและชาร์จไฟได้ไวด้วยเช่นกัน
ส่วนจุดสังเกตก็มีนิด ๆ ตรงพอร์ตเชื่อมต่อที่มีไม่มาก Touchpad แอบเล็กไปนิด และเรื่องการระบายความร้อน ที่ไม่ได้หวือหวามาก แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะตัวเครื่องไม่ได้เป็น Workstation หรือ Gaming แต่เป็น Ultrabook เน้นใช้งานทั่วไปมากกว่า แต่ก็โดดเด่นกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป โดยเฉพาะระบบ AI จาก Intel Evo ที่ช่วยให้ตัวเครื่องมีความอัจฉริยะและใช้งานสะดวกมากเป็นพิเศษนี้เอง
ท้ายนี้ตัว MSI Prestige 14 Evo รุ่น Intel Core i7-1195G7 ก็มีราคาอยู่ที่ 37,990 บาท ครับ