รีวิวนี้พบกับ ASUS ROG Strix G15 (GL543) เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตัว Top มาพร้อมสเปกซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti 4GB GDDR6 ในงบไม่เกิน 4 หมื่นบาท จับคู่แล้วแรงแค่ไหน ? ลองมาดูกัน
ขึ้นชื่อว่า ROG ก็เป็นการการันตีแล้วว่า “นี่คือ Top สุดในทุกซีรีส์ของ ASUS แล้ว” หมายความว่า ASUS ROG Strix G15 ตัวนี้ คือเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่อัดเทคโนโลยีและฟีเจอร์ต่าง ๆ แบบจัดเต็มไม่กักนั้นเอง ทั้งยังมีราคาจับต้องได้ง่ายเกินคาด ปัจจุบันกำงบเพียง 3 หมื่นบาทก็สอยได้แล้ว
ส่วนตัว ROG Strix G15 (GL543) ที่นำมารีวิวนี้ ก็มาพร้อมซีพียูแรงขั้นสุดด้วย AMD Ryzen 9 5900HX ในราคาไม่เกิน 4 หมื่นบาท !! ฉีกกฏราคาต่อสเปกไปไกลกันเลย ส่วนการ์ดจอ RTX 3050 Ti ก็นับเป็น RTX ทางเลือก ที่ยังคงเทคโนโลยีช่วยเล่นเกมอย่าง Ray Tracing กับ DLSS ซึ่งพอมาอยู่ในร่าง ROG Strix G15 (GL543) เกมมิ่งโน้ตบุ๊กระดับ Hi-End ตัวนี้แล้วจะเป็นอย่างไร เลื่อนลงมาดูเลยครับ
รายละเอียดสเปก ASUS ROG Strix G15 (GL543QE-HN131T)
Operating System : Windows 10 Home
CPU : AMD Ryzen 9 5900HX
Graphic Card : NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti 4GB GDDR6
RAM : 16GB DDR4-3200 SO-DIMM
Storage : 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
Display : 15.6-inch, FHD, 144Hz
Keyboard : Backlit Chiclet Keyboard 4-Zone RGB
Wifi : Wifi 6 support
แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องก็มีตัวเครื่อง ASUS ROG Strix G15 (GL543) กับชุดไฟเลี้ยง และชุดคู่มือ ให้มาเท่าที่จำเป็นจริง ๆ
งานออกแบบสไตล์ ROG Strix
หน้าตายังคงบ่งบอกถึงยี่ห้อ ROG Strix เหมือนเคย เป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่มีขนาดตามมาตรฐานเลย แต่หากเทียบกับรุ่นก่อน ๆ ก็ถือว่าบางขึ้นไม่น้อย และยังหล่อขึ้นด้วย แอบให้อารมณ์เหมือนรถสปอร์ตนิด ๆ สมกับที่เป็นรุ่น Hi-End วัสดุและงานประกอบหรูหราหมาเห่ามาก ๆ กระนั้นก็ยังจุดอ่อนเหมือนก่อนคือ หนา และ หนัก อยู่ดี (แม้จะบางขึ้น แต่ก็ยังเรียกว่าบางเบาไม่ได้เต็มปาก) จุดนี้หากใครอยากได้เกมมิ่งโน้ตบุ๊กร่างบางจริง ๆ หันไปมองตัว Zephyrus พี่ใหญ่สุดของซีรีส์นี้เลยครับ
หน้าตา Layout ตัวคีย์บอร์ด สังเกตได้ว่ามีการวางปุ่มกดให้มีความห่างกันนิด ๆ ช่วยให้วางนิ้วกดพิมพ์ได้สะดวกขึ้น ส่วนพื้นผิวบริเวณคีย์บอร์ดก็เป็นอลูมิเนียมผิวเรียบ ให้สัมผัสตอนเอามือวางทาบได้ดี ยิ่งเล่นในห้องแอร์ จะสัมผัสได้ถึงความเย็นจากบริเวณนี้ด้วย ฟินไปอีกแบบ แต่ก็แอบเป็นรอยนิ้วมือง่ายเช่นกัน และส่วนตัวชอบผิวสัมผัสแบบยางมีหุ้มมากกว่า
บริเวณ Mouse Pad ก็กว้างใช้ได้
พอร์ตเชื่อมต่อก็มีตามนี้ USB 3.2 Gen 2 Type-C (รองรับ DisplayPort และ Power Delivery) x 1 USB 3.2 Gen 1 Type-A x 3 HDMI 2.0b x 1 RJ45 LAN x 1 และ 3.5 mm สำหรับเสียบหูฟัง
แสงสี RGB รอบตัวแบบ Surrounded Light Bar ที่มีเฉพาะใน ROG Strix เท่านั้น เล่นตอนปิดไฟบอกเลยว่า “อิ่มแสงมาก” แทบจะอ้วกเป็นรุ้งเลย วิบวับได้ใจสุด ๆ
หน้าจอ Anti-Glare แบบ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว (มีขนาด 17 นิ้วให้เลือก) ความละเอียด FHD (1920 x 1080) 16:9 พร้อมรองรับ Refresh Rate 300Hz กับแสดงผลระดับ sRGB 100.00% และ Adobe 75.35% สวยงามคมชัด
ปรับการทำงานต่าง ๆ ทั้ง การแสดงผล แสงสี RGB ระบบระบายความร้อน และอื่น ๆ ได้ใน ARMOURY CRATE โปรแกรมเดียวเลย
อีกโปรแกรมนอกจาก ARMOURY CRATE ก็ยังมี MyASUS โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์อเนกประสงค์ ช่วยตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้ทันที เจอระบบมีปัญหาก็แก้ไขเลย และยังช่วยเช็ตการอัพเดตฟีเจอร์ต่าง ๆ ของตัวเครื่องด้วย รวมไปถึงแนะนำแอปฯ เฉพาะจากทาง ASUS ซื้อการรับประกันเพิ่มเติมทางออนไลน์ได้ด้วย
ประสิทธิภาพ Ryzen 9 5900HX กับ RTX 3050 Ti
สำหรับซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX ที่อยู่ในตัวเครื่อง ถือเป็นซีพียูระดับ Top อย่างไม่ต้องกังขา ทว่าตัวการ์ดจอ RTX 3050 Ti นี้ ต้องบอกตามตรงว่า ไม่ใช่การ์ดจอระดับสูง หรือกระทั้งกลาง-สูง แต่เป็นระดับกลางเลย จะเรียกว่าเป็น GTX 1050 Ti รุ่นอัพเกรดก็ยังได้ ทว่าด้วยชื่อนำหน้าว่า RTX ก็ยังมาพร้อม Ray Tracing กับ DLSS สองเทคโนโลยีช่วยเล่นเกมที่ปกติจะอยู่ในการ์ดจอระดับสูงเท่านั้น แต่ตอนนี้มาอยู่ในการ์ดจอระดับกลาง ที่เข้าถึงได้ไม่ยากแทน ซึ่งพอทำงานร่วมกับ Ryzen 9 จะเป็นอย่างไร ลองมาดูเลย
รายละเอียด AMD Ryzen 9 5900HX กับ RTX 3050 Ti พร้อมแรมขนาด 16GB DDR4-3200 SO-DIMM
ผลเทสจาก Cinebench R15 ก็ได้ไป 2295 cb และ OpenGL ได้ไป 146.70 fps ส่วน Cinebench R20 ก็ได้ที่ 5305 pts สมฐานะ Ryzen 9 เลย
ผลเทสจาก 3D Mark ประเดิมด้วย Time Sky Extreme ก็ได้ไป 2936 คะแนน ส่วน Fire Strike Extreme ได้ 6931 คะแนน Fire Strike Ultra และก็ได้ 3608 คะแนน
ส่วน PC Mark 10 ได้ 6509 คะแนน
แบตฯ ใช้ได้ถึง 12 ชั่วโมง หากใช้งานทั่วไปอาจเหลือ 10 – 11 ชั่วโมง ถ้าเล่นเกมก็เตรียมเสียบปลั๊ก
เทสประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อน ตัวเครื่องก็สามารถระบายความร้อนได้เฉลี่ย 75 องศา สำหรับซีพียู และเฉลี่ย 82 องศา สำหรับการ์ดจอ
ความเร็วอ่านเขียนของ SSD ขนาด 512GB ก็ได้ความเร็วอ่านที่ 2953 MB/s กับความเร็วเขียน 1645 MB/s
เกมมิ่ง Max Setting
ลองเทสเกม Cyberpunk 2077 เจ้าเก่าใน ROG Strix G15 ที่มาพร้อม Ryzen 9 5900HX กับ RTX 3050 Ti ดูกันว่าจะขับไหวไหม หากดัน Setting ตั้งค่ากราฟฟิกจนสุดตาม Max
ไปให้สุด Ray Tracing เปิดสูงสุด และเปิด DLSS แบบตั้งอัตโนมัติ
ผลคือเล่นได้ลื่นกำลังดีที่ 46 fps แต่ !! เดี๋ยวก่อน ลองมาดูคลิปข้างล่างนี้ จะเห็นคำตอบมากขึ้น
ในเกม Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมแนว Open World โดยจะมีโซนที่เป็น นอกเมือง กับ ในเมือง บริเวนนอกเมือง สามารถเล่นแบบปรับสุดที่ 44 – 46 fps ได้สบาย ๆ ทว่าช่วงท้ายหลังได้ลองเข้าเมือง fps ตกเหลือเพียง 20 – 25 fps เท่านั้น เป็นอันว่าไม่ไหว สุดท้ายต้องลดตั้งค่าหรือปรับภาพเป็น ‘สูง’ และเปิด DLSS เน้นความลื่นไหลแทน ก็ช่วยเพิ่ม fps เล่นได้ลื่นไหลกว่าเดิมขึ้นมาก แต่ภาพก็ยังสวยแทบไม่ต่างจากตอนแรกเลย (ที่ปรับภาพสุดหมด) นี้ก็เป็นอานิสงส์ของ 2 เทคโนโลยีจากการ์ดจอ RTX นี้เอง แม้จะเป็นการ์ดจอระดับกลางอย่าง RTX 3050Ti ก็ตาม
สรุป (สอยเลยดีไหม ?)
ใครอยากใช้ AMD Ryzen 9 5900HX กับอยาดได้ความเป็นขั้นสุดจากเกมมิ่งโน้ตบุ๊กระดับ Top ตัว ASUS ROG Strix G15 (GL543) ก็ตอบโจทย์ได้ดี ทั้งงานออกแบบ งานประกอบ กับฟีเจอร์ต่าง ๆ ขึ้นชื่อว่า ROG รับรองไม่ผิดหวัง
ทว่าจุดที่ต้องสังเกตจริง ๆ คือ การ์ดจอ RTX 3050Ti ที่ต้องบอกเลยว่า แรงกำลังดี แต่ไม่สุดเหมือนซีพียู Ryzen 9 กระนั้นก็แลกกับราคาที่จับต้องได้ง่ายนั้นเอง ถ้าใครไม่ได้เน้นการเล่นเกมแบบปรับภาพสวยสุดหมด ขอแค่ลื่น ๆ ก็พอ (และไม่ต้องปรับ Low หรือ Medium) ตัว ROG Strix รุ่นสเปกนี้นับว่าเพียงพอแล้ว ถือว่าได้ Ryzen 9 มาช่วยดันประสิทธิภาพนั้นเอง
ท้ายนี้ ASUS ROG Strix G15 (GL543) รุ่น Ryzen 9 5900HX กับ RTX 3050 Ti ก็เปิดราคาที่ 39,990 บาท ใครสนใจไปกดสอยโดยพลันได้ที่ https://shp.ee/yktc99x