ต้องยอมรับว่าเมาส์คือส่วนประกอบสำคัญหนึ่งของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งทุกวันนี้ เมาส์ได้สร้างออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น และก็มีหลายแบรนด์ที่แข่งกันดีไซน์เมาส์ให้ถูกใจคนใช้งานมากที่สุด
วันนี้ผมได้คัดเลือกเมาส์ที่ตอบโจทย์ในด้านต่าง ๆ โดยอิงข้อมูลจากจากเว็บไซต์ดัง ๆ อย่าง PC MAG , Tom Hardware และ Techspot รวมทั้งความคิดเห็นส่วนตัวด้วย เกิดเป็น The Best เมาส์ 7 รูปแบบสำหรับใช้งานตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จะมีอะไรบ้าง ไปอ่านกันครับ
1.Best friendly mouse : Razer DEATHADDER ELITE
ตัวแรก ขอยกให้ทางฝั่ง Razer ละกัน (ขอโทษหากขัดใจใครบางคนนะ) แต่เมาส์รุ่นนี้ของ Razer นับว่าเป็นรุ่นยอดนิยมของเหล่าเกมเมอร์เลย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย สเปคที่สูงมาก มี RGB ที่ปรับแสงได้ เซนเซอร์ที่แม่นยำจาก Pixart ทำให้มันน่าหยิบจับมาลองสักตัวจริง ๆ
ฟีเจอร์เด่น
- ปรับค่า DPI ได้ถึง 16,000
- Razer Chroma ปรับรูปแบบไฟ RGB ได้มากถึง 7 แบบ
- เซนเซอร์จาก Pixart ที่รวมมือกับ Razer ให้ความแม่นยำสูง
- ราคาอยู่ระหว่าง 990 – 1,490 บาท
2.The Best Gaming Mouse : Zowie EC2
ใครเป็นเกมเมอร์ไม่รู้จัก Zowie ถือว่าเชยไปนิดนึงนะครับ เพราะเมาส์แบรนด์ออกแบบมาสำหรับนักแข่ง E-Sport โดยเฉพาะ ดีไซน์ไม่ได้ดูหรู ออปชั่นไม่ได้เยอะมาก แต่ให้ความสำคัญสำหรับคนที่ต้องจับเมาส์นาน ๆ ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ไม่ใช่ให้ปวดข้อมือง่ายครับ
ฟีเจอร์เด่น
- ดีไซน์โค้งมน ออกแบบตามสรีรศาสตร์
- ปุ่มปรับ DPI อยู่ด้านล่างเมาส์ ไม่ต้องกลัวว่าไปจะเผลอกดเปลี่ยนโดยไม่ตั้งใจ
- มีรุ่นให้เลือกทั้งคนที่ถนัดขวาและถนัดซ้าย
- ราคาไม่แรงมาก อยู่ที่ 2,290
3.Best backpack traveler mouse : Logitech MX Anywhere 2S
เมาส์สำหรับสายพกพา ต้องยกให้ตัวนี้ Logitech MX Anywhere 2S (แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้ว) โดนใจสาย Work anywhere หากเรามีพื้นที่ทำงานเป็นร้านกาแฟหรือคาเฟ่เล็ก ๆ สิ่งที่เป็นตัวช่วยคือหาเมาส์ไร้สายดี ๆ สักตัว เมาส์รุ่นนี้มีการออกแบบที่ให้เราสามารถใช้งานได้นาน ๆ ตัวเมาส์ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ขนาดเล็ก พกใส่กระเป๋าได้ง่าย เซนเซอร์ความละเอียดสูง ไม่เกิดอาการเมาส์วาป
ฟีเจอร์เด่น
- ขนาดเล็ก พาพาง่าย
- เซนเซอร์คุณภาพ ไม่เกิดอาการเมาส์วาป
- กินพลังงานน้อย ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 70 วัน
- ใช้งานได้กับทุกสภาพผิว
- ปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 4,000 DPI
- เชื่อมต่อได้ 2 ระบบทั้งระบบ 2.4G Wireless USB Receiver และ ระบบ Bluetooth
- ราคาประมาณ 1,990 – 2,490
4.Best Value Option : Logitech G102
หากใครต้องการเมาส์ราคาถูก ปรับความละเอียดได้ในระดับหนึ่ง มีไฟในตัวนิดหน่อย Logitech G102 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ ดีไซน์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวา ปรับ DPI ได้ 4 ระดับ มี RGB ในตัว
ฟีเจอร์เด่น
- ปรับ DPI ได้สูงสุด 4,000
- มีไฟ RGB ในตัว ปรับแสงอัตโนมัติ
- เป็นเมาส์สาย ไม่ต้องกลัวแบตหมด
- รองรับใช้งานได้ทุกสภาพผิว
- จับถนัดมือ ทำงานก็ได้ เล่นเกมก็ดี
- ราคาอยู่ที่ 590 บาท
5.Best Ergonomic Mouse : Logitech MX Vertical
ใครเป็นสายกราฟฟิกต้องใช้งานเมาส์นาน ๆ อาจต้องการเมาส์ที่ช่วยรักษาสุขภาพมือตัวเองไว้ ผมแนะนำตัวนี้เลย แต่จริง ๆ แล้ว เมาส์รุ่นนี้ก็ออกมานานแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็หาซื้อยากหน่อย
ฟีเจอร์เด่น
- ดีไซน์ออกแบบตามสรีรศาสต์ เหมาะกับคนที่ต้องใช้เมาส์เป็นเวลานาน
- เป็นแบบไร้สาย ไม่ต้องสายรุงรัง
- ใช้งานได้นานต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
6.Best Mouse for MOBA MMOs : Razer Naga Trinity
ใครเล่น Moba แล้วต้องการใช้ Macro ตัวนี้ตอบโจทย์ (ปุ่มเยอะดี) ออกแบบให้มีปุ่ม Macro จำนวนมากให้เราเซ็ตสกิลต่าง ๆ ได้ง่าย
แต่มองอีกมุมก็ดูโกงนิด ๆ นะ (ฮ่าๆ)
ฟีเจอร์เด่น
- ดีไซน์สวย มีไฟ Chroma RGB
- ปุ่ม Macro เปลี่ยนได้
- ความละเอียดสูงสุดที่ 16,000 DPI
- ราคา 2,590 – 2,990
7.Best Feature Mouse Steelseries Rival 710
ขึ้นชื่อมาว่า ฟีเจอร์เมาส์ นั่นแปลว่า ต้องมีฟังก์ชั่นที่โดดเด่นกว่าเมาส์ตัวอื่น ซึ่งมันก็ใช่ครับ ตัวนี้ออกแบบตามสรีระของคนมือใหญ่ จับถนัดมาก แถมตัวเมาส์ยังมีจอ LED ด้านข้างและระบบสั่นภายในตัว
ฟีเจอร์เด่น
- ปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 12,000 DPI
- มีจอ LED ด้านข้างเมาส์ ใส่ไฟล์ GIF สนุก ๆ ได้
- เมาส์มีระบบสั่น เพิ่มอัตถรสในการเล่นเกม