MSI GP75 Leopard เป็น Notebook Gaming ที่เปิดตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยความแรงมัน ก็ยังทำให้ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน วันนี้เราเลยจะมารีวิวดูว่า Notebook ตัวนี้ สามารถใช้เล่นเกมได้ขนาดไหน แต่ก่อนอื่นไปดูที่สเปคมันก่อนเลย
Spec
CPU : INTEL CORE I7-9750H 2.6 – 4.5 GHz
RAM : 16 GB (8GB X2) DDR4 2666MHz
VGA : NVIDIA GEFORCE GTX1660TI 6 GB GDDR6
STORAGE : 512 GB PCIe/NVMe SSD
Display : 7.3″ FULL HD IPS ค่ารีเฟรชเรทที่ 144 Hz
OS : Windows Home
วัสดุและดีไซน์
- ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 17.3 นิ้ว ทำให้การเล่นเกมมองเห็นภาพต่าง ๆ ได้ถนัด
- ขอบจอบาง 5.7 มิลลิเมตร เอกลักษณ์ของ MSI ซึ่งทำให้เวลาเล่นเกมดูได้เต็มตามาก ๆ
- วัสดุภายนอกเป็นพลาสติก เพื่อช่วยให้น้ำหนักโดยรวมนั้นเบาลง
- น้ำหนักตัวเครื่อง (ไม่รวม Adaptor) อยูที่ 2.7 กิโลกรัม น้ำหนักส่วนใหญ่มาจากซิ้งค์ระบายความร้อนใต้เครื่อง
- ฝาหลังมีโลโก้ MSI เป็น Led สีแดง แต่เห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ หากดูในที่แสงมาก
- หน้าจอกางได้ 145 องศา
- มีปุ่มปรับไฟของคีย์บอร์ดและความแรงพัดลมแบบ Manual
- ดีไซน์โดยรวมไม่ได้หวือมาก มาในลุค Gaming ทั่ว ๆ ไป
Port
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง
- มีพอร์ท Lan
- พอร์ท HDMI
- พอร์ท Mini-DisplayPort
- พอร์ท USB 3.0 และ USB-Type C
- พอร์ทเสียบแยกหูฟังและไมค์ (หูฟัง Gaming จะมีรูแยกมาระหว่าง ไมค์และหูฟัง
ด้านขวาตัวเครื่อง
- พอร์ท USB 3.0 สองช่อง
- Card Reader สำหรับ SD Card
Keyboard และ Touchpad
Keyboard
- ตัวคีย์บอร์ด มาพร้อม คีย์บอร์ด Gaming จาก Steelseries เป็นแบบ RGB ปรับสีได้หลากหลายรูปแบบ
- ตัวปุ่มกดมีความทนทาน รองรับการกดแรง ๆ ที่พร้อมจะใส่อารมณ์ไปกับเกมได้แบบสุดขึด (ลองเทสแบบหนักหน่วงมาก)
- ตัวปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีนิ้ว และเวลากด ปุ่มกดไม่อ่อนและไม่แข็งจนเกินไป (แต่สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกอ่อนไปนิด)
- คีย์บอร์ดเป็นแบบ Full Keyboard กดใช้งานได้ถนัดมือ
ทดสอบรูปแบบไฟของ RGB ที่มีประมาณ 10 รูปแบบที่ถูกเซ็ตไว้
Touchpad
- Touchpad ให้มาตามมาตรฐานปกติ ตัวสัมผัสทำได้ดี สไลด์ลื่นปรื้ด ๆ
- ตัวปุ่มคลิกกดง่าย ปุ่มไม่แข็ง แต่ติดว่าคงไม่มีใครใช้เล่นเกมหรอกเนอะ ฉะนั้นเราจะข้ามตรงนี้ไป
Speaker
- ลำโพงอยู่ใต้เครื่องทั้งฝั่งซ้ายและขวา มีจำนวนสองช่อง เวลาเปิดใช้ หากเปิดใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ก็มีเสียงคล้าย ๆ กับ Notebook ทั่ว ๆ ไปมีดอกลำโพงนั้นใหญ่กว่า Notebook ปกติ ทำให้เพิ่มเสียงได้ดังมากกว่า
- ไม่แนะนำให้ใช้เล่นเกมที่ต้องฟังเสียงแบบรอบข้างเช่น PUBG อันนั้นจำเป็นต้องใช้หูฟังทีมีคุณภาพนิดนึง หรือหากเป็นลำโพง อาจต้องเป็นรูปแบบ 7.1
Cooling&Upgrade
Cooling
- เมื่อแกะฝาหลังออกมาจะเจอท่อนำความร้อนทั้งหมด 7 ท่อ และพัดลมรูปแบบโบลวเวอร์จำนวนสองตัว โดยใช้ระบายความเย็นกับ CPU และ GPU โดยการดูลมเข้าจากด้านล่างของตัวเครื่อง
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Cooler boost 5 สามารถปรับความแรงพัดลมแบบ Manual ได้สามระดับ (กดปุ่มด้านขวาบนของตัวเครื่อง) แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า ยิ่งเปิดระดับสูง ก็จะยิ่งกินไฟและมีเสียงพัดลมดังมากขึ้น และไม่แนะนำให้ใช้หากไม่ได้เสียบ Adaptor
- ด้านหลังเครื่องมีรูสำหรับช่องระบาบอากาศออกสองช่อง โดยมาจากพัดลมสองตัว
Upgrade
การอัปเกรด สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะแค่ถอดน๊อตฝาหลังออก และใช้นิ้วค่อย ๆ งัดตามรอยต่อ ฝาหลังจะเปิดออกมาอย่างง่ายดาย
- และเมื่อเปิดฝาหลัง จะพบช่องใส่แรมสองแถวที่ใส่แรมขนาด 8 GB มาให้สองตัว หากจะอัพแรมเพิ่ม ต้องถอดตัวเดิมออกก่อน
- ช่องเสียบ SSD มีมามาให้สองช่อง เป็นรูปแบบ M.2 NVMe ซึ่งมีมาให้แล้ว 512 GB แต่หากใครอยากจะทำ Raid ก็มีอีกช่องให้ทำแบบสบาย ๆ
Performance & Testing
CPU – Z & GPU Z
CINEBENCH R20 ได้คะแนนที่ 2,386 คะแนน
PC MARK 10 ได้คะแนน 5,430 คะแนน
3D MARK Time Spy ได้คะแนน 5,836 คะแนน
3D MARK Fire Strike Ultra ได้คะแนน 3,253 คะแนน
Game Testing
Apex Legend
Counter Strike
Overwatch
Ring of elysium : ROE
Call of duty Warzone
———————————————————————
ผลทดสอบเกมโดยรวม สามารถเล่นเกม Class 3A ได้ครบทุกเกม แม้บ้างเกมอาจะปรับเป็น Ultra ทั้งหมดอาจะมีหน่วงนิด ๆ อย่าง Call of Duty Warzone แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับ Notebook Gaming ตัวนี้ และจอที่มีมาให้เป็น 144 Hz ทำให้ภาพเกมนั้นไหลลื่นไม่มีแตก
สรุปภาพรวมรีวิว
- MSI GP75 LEOPARD 9SD-461TH ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 38,900 บาท สเปคถือว่าค่อนข้างคุ้มกับราคา
- พัดลมระบายความร้อนปรับได้สามระดับ ช่วยได้เยอะหากต้องเล่นเกมหนัก ๆ แต่อาจจะมีเสียงดังนิดหน่อยหากเปิดแรงสุด
- หน้าจอ IPS 144 Hz คมชัด ภาพไม่มีขาดระหว่างการเล่น
- ไม่แนะนำสำหรับใครที่มี Lifestyle ที่ต้องเดินทางบ่อย
- สามารถอัพเกรดเพิ่มได้ง่าย ตัวฝาหลังเปิดไม่ยาก
- ตัวลำโพงเปิดเสียงได้ค่อนข้างดัง แต่อาจไม่เหมาะกับการเล่นเกมบางเกม