[Gaming Theater] “เสียงระดับโรงภาพยนตร์ในห้องนั่งเล่นของคุณ” หนึ่งในสโลแกนเด่นของ Sonos Arc Ultra ลำโพง Soundbar รุ่น Top สุดจากทาง Sonos แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังในสหรัฐฯ เชื่อว่าหลายคงเอาไว้ดูหนัง แต่ในรีวิวนี้ของลองเอามาเทสเกม PC ดูหน่อย ลองสร้างห้องเล่นเกม PC ระดับ Home Theater และสัมผัสคุณภาพเสียง Dolby Atmos ในระยะใกล้ ผ่านจอ TV ขนาด 43 นิ้ว และลำโพง Soundbar ราคาเกือบ 5 หมื่นบาทตัวนี้ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีเด่นอย่าง Sound Motion ที่ช่วยมอบมิติเสียงที่กว้างและแม่นยำ ผ่านไดรเวอร์จำนวนมากถึง 14 ตัวในร่างเดียว (9.1.4 CH) มันจะสุดจัดมากแค่ไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ
รายละเอียด Sonos Arc Ultra (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่)
- Dimensions : 75 x 1178 x 110.6 mm (2.95 x 46.38 x 4.35 in) (H x W x D)
- Weight : 13 lb (5.9 kg)
- Color & Finish : Matte; Available in Black or White
- Bluetooth Button : Press to pair with a Bluetooth device.
- Controls : Play, pause, skip, replay, adjust the volume, turn off voice assistants, and group or ungroup Sonos products with capacitive touch controls.
- WiFi : Compatible with WiFi 6. Connect to WiFi with any 802.11a/b/g/n/ac/ax 2.4 GHz/5 GHz broadcast-capable router.
- HDMI eARC : Connect to your TV’s HDMI eARC/ARC port with the included HDMI cable. Optical adapter sold separately.
- Bluetooth 5.3 : Supports audio streaming from any Bluetooth-enabled device.
- Apple AirPlay 2 :Works with AirPlay 2 on Apple devices iOS 11.4 and higher
แกะกล่อง
กล่องตัว Sonos Arc Ultra ก็มีขนาดพอดีกับตัวลำโพงเลย แต่ก็ยังคงใหญ่อลังการ ทว่าก็ยังมีขนาดเล็กลง 18% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Sonos Arc ทั้งยังรีไซเคิลได้ 100% ส่วนภายในกล่องก็มีตัว Soundbar กับสาย HDMI , สายไฟเลี้ยง และชุดคู่มือกับใบรับรอง (ไม่มีหัวแปลงเสียงออปติคัลแถมแล้ว…)
งานออกแบบ
Sonos Arc Ultra ภาคต่อของ Sonos Arc รุ่นก่อนหน้า ซึ่งมีการปรับปรุงไดรเวอร์ใหม่ให้มีจำนวนมากขึ้น พร้อมใส่ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sound Motion เข้ามาด้วย ซึ่งคืออะไรนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน ในส่วนนี้ให้ดูงานออกแบบกันก่อน ซึ่งต้องบอกเลยว่า แทบไม่ต่างจาก Sonos Arc เลย โดยรวมก็ยังคงเป็นลำโพง Soundbar ที่ดูเงียบง่าย กับมาพร้อมสีดำล้วน (มีสีขาวให้เลือกนะ) พร้อมวัสดุเป็นอลูมืเนียมแข็งแรงทนทานทั้งตัว ส่วนขนาดก็อยู่ที่ 75 x 1178 x 110.6 mm กับน้ำหนักประมาณ 5.9 กก. แอบบางและเบากว่า Sonos Arc แม้จะมีหน้าตาคล้ายกันก็ตาม
หน้าตา Sonos Arc รุ่นก่อนหน้า
ทั้งนี้ตัว Sonos Arc Ultra มีการปรับปุ่มควบคุมแบบสัมผัสเพิ่มเติมด้วย โดยตรงกลางก็ยังมีปุ่มควบคุมตรงกลางเหมือนเคย ทว่าฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง ฝั่งซ้ายก็มีปุ่มเรียกใช้งานผู้ช่วยหรือเสียงการผ่านเสียงได้ง่าย ๆ ซึ่งมาเป็นปุ่มแบบสัมผัสทั้งหมดด้วย กดควบคุมง่ายกว่าเดิม
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อก็มี HDMI eARC และเพิ่มเติมคือมีพอร์ตเชื่อมต่อ LAN กับปุ่มเปิดปิดไมค์ฯ และ Bluetooth
ด้านหลังมีช่องขั้นน็อตสำหรับติดตั้งผนังให้ด้วย
Sonos Arc Ultra รุ่นสีขาว
ส่วนประกอบภายใน
จุดสำคัญของ Sonos Arc Ultra ก็มีตัวไดรเวอร์จำนวน 14 ตัว (Sonos Arc มี 11 ตัว) ที่ช่วยสร้างประสบการณ์เสียงรอบทิศทางได้แบบ 9.1.4 CH แบ่งเป็นลำโพงทวีตเตอร์ 7 ตัว ทำหน้าที่รับเสียงที่มีความถี่สูงได้ครบทุกย่านความถี่ กับมีมิดวูฟเฟอร์อีก 6 ตัว ช่วยให้เสียงกลางและเสียงร้องมีความสมบูรณ์ สามารถสร้างมิติเสียงที่กว้างและแม่นยำ พร้อมจำลองตำแหน่งเสียงภายในห้องได้อย่างสมจริง
และอีกส่วนที่อาจทำให้หลาย ๆ คน ยอมเพิ่มงบเพื่อซื้อตัว Sonos Arc Ultra เลยก็คือ Sound Motion เทคโนโลยีเฉพาะจากทาง Sonos โดยเป็นลำโพงวูฟเฟอร์ขนาดย่อมในดีไซน์ที่เพรียวบาง ประกอบด้วยมอเตอร์น้ำหนักเบาแบบกระจายสี่ตัวและคอยล์เสียงพร้อมกรวยคู่ที่ตัดแรงในตู้เดียว ช่วยให้พลังเสียงเบสที่มากกว่า Sonos Arc รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน มอบประสบการณ์เสียงที่ดังและสมดุลได้มากกว่าเดิม เพิ่มพลังของเสียงเบสได้ดีกว่าเดิม พร้อมใช้งานร่วมกับลำโพงทวีตเตอร์กับเวฟไกด์ด้านซ้ายและขวา สร้างประสบการณ์เสียงแบบโรงภาพยนตร์ได้อย่างจุใจ
และเพื่อความจุใจยิ่งขึ้น Sonos Arc Ultra ก็ยังมีฟีเจอร์สำคัญอย่าง Trueplay ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ได้ผ่านแอปฯ โดยรองรับทั้ง iOS และ Android แล้ว (รุ่น Arc ได้แค่เฉพาะ iOS นะเออ)
การติดตั้ง
รีวิวลำโพง Soundbar ครั้งนี้ขอฉีกแนวหน่อย ปกติหลายคนคงใช้งานกับทีวีเพื่อดูหนังฟังเพลง แต่ในรีวิวนี้ขอทดสอบในส่วน Gaming ด้วย ขอจัดสภาพแวดล้อมเป็น Gaming Theater ขั้น Ultimate ประกอบด้วย TV ขนาด 43 นิ้ว และตัวลำโพง Soundbar ขั้นเทพจาก Sonos อย่าง Arc Ultra พร้อมเชื่อมต่อกับ Desktop PC ตัวแรง เพื่อเล่นเกมระดับ 4K และดื่มด่ำกับคุณภาพเสียง Dolby Atmos ในระยะใกล้ไปเลย ลองดูว่าจัดเต็มขนาดนี้แล้ว จะได้ฟิลในการเล่นเกมมากขนาดไหน
สำหรับการเชื่อมต่อ หากมีจอ TV ที่มาพร้อมช่อง HDMI ARC ในตัว ก็สามารถต่อสายตรงกับตัวลำโพง Sonos Arc Ultra รุ่นนี้ได้เลย ส่วนตัวคอมฯ ก็ต่อเข้ากับ TV ผ่านสาย HDMI อีกช่อง เป็นอันเสร็จสิ้น
การควบคุมผ่านแอปฯ
หลังเชื่อมต่อสายอะไรเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ทำการโหลดแอปฯ Sonos เพื่อตั้งค่าส่วนสุดท้าย ระหว่างก็ตามเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัวลำโพงเข้ากับตัว Router WiFi ประจำบ้านด้วย (ถ้าอยากได้สัญญาณเสถียรก็เชื่อมต่อผ่านสาย LAN ไปเลย) สำหรับหน้าตาของตัวแอปฯ ก็จะมาแบบเรียบ ๆ ไม่ต่างจากตัวลำโพง ระหว่างนี้ก็ไล่ทำตามขั้นตอนจนกว่าจะเสร็จ
อีกขั้นตอนสุดท้าย ก็มีตั้งค่าใช้งาน Trueplay เพื่อปรับแต่งเสียงของลำโพง Soundbar ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมหรือภายในห้องที่ติดตั้ง ส่วนนี้แอบสำคัญอยู่ เพราะตัวลำโพง Sonos Arc Ultra จะทำการส่งคลื่นเสียงสะท้อนรอบ ๆ ตัวเอง เพื่อหาจุดสะท้อนกลับ (ผ่านตัวสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ด้วย เวลาตั้งค่าก็ถือไปรอบ ๆ ห้องเลย) จากนั้นก็ทำการปรับแต่งให้มีระบบเสียงรอบทิศทางได้สมจริง ช่วยปรับปรุงเสียงให้เหมาะสมกับหนังหรือคอนเทนต์ที่กำลังรับชมอยู่ได้ ตัวอย่างเช่นเสียงระเบิด ก็มาแบบเน้น ๆ แต่ไม่ดังจนกลับเสียงอื่นจนเกินไปนั้นเอง
ทดสอบคุณภาพเสียง
สำหรับการทดสอบนี้ ก็ขอเริ่มจากการดูหนังที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ก่อนเลย ประเดิมด้วย John Wick: Chapter 4 ที่เด่นทั้งเสียงเพลงประกอบและเสียงปืนยิงกันตูมตามแทบทั้งเรื่อง
สำหรับคุณภาพเสียงนั้น บอกได้เลยว่า “คลีน” หรือจะเรียกว่า Flat เสียงแบบกลาง ๆ เหมือน Sonos Arc รุ่นก่อนหน้า แต่สำหรับตัว Sonos Arc Ultra นี้ มี Sound Motion หรือลำโพงวูฟเฟอร์ขนาดย่อมในตัวเลย ทำให้ได้ยินเสียงเบสที่ชัดกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้ ทั้งยังมีลำโพงหรือไดรเวอร์ทั้งหมด 14 ตัว ก็ช่วยสร้างรอบทิศทางแบบ 9.1.4 CH ทำให้ได้ประสบการณ์ดูหนังพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่ดีกว่าเดิม อนึ่งตัวลำโพงยังคงให้เสียงที่สะอาดและบริสุทธิ์ แม้จะเปิดเสียงดังสุดแล้วก็ตาม
ลองทดสอบคุณภาพเสียง Dolby Atmos แบบเน้น ๆ ได้ยินเสียงซ้ายขวาแยกได้รอบทิศทางของจริง
สุดท้ายลองทดสอบเสียงเพลง จุดนี้หากลองปรับ EQ เน้นเสียงเบสมากขึ้น บอกได้เลยว่า “แน่นตรั๊บ” ส่วนย่านเสียงอื่น ๆ ก็ยังตามมาชัดเจนเหมือนกัน บอกเลยว่าดื่มดำมาก ๆ แม้จะเป็นลำโพงสำหรับดูหนังก็ตาม ส่วนการควบคุมทั้งหมดนี้ ก็ทำได้ผ่านสมาร์ทโฟนเลย
ทั้งนี้หากต้องการเชื่อมต่อกับลำโพง Sonos ตัวอื่น ๆ เพื่อสร้างเสียงรอบทิศทางแบบครบวงจร ตัวลำโพง Sonos Arc Ultra ก็สามารถเพิ่มได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ทันที ในระยะกว้างถึง 30 ฟุต หรือ 9 เมตร
Gaming Test
ลองเทสเกมแนว FPS อย่าง Battlefield 1 โดยส่วนตัวมองว่าเป็นภาคที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามมากที่สุดแล้ว ซึ่งตัว Sonos Arc Ultra จะขับพลังเสียงได้มากแค่ไหน ลองมาฟังกัน
เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงวิ่ง เสียงร้อง ของเกม Battlefield 1 คือมาเต็มทุกอย่าง ยิ่งปรับระดับเสียงเกือบสุด ก็ยิ่งสัมผัสความสมจริงในเกมมากขึ้นจนน่าตกใจ
อนึ่งหากเสียงมันดังเกินไปจนกลัวรบกวนเพื่อนบ้าน ทาง Sonos ก็มีฟีเจอร์ Night Sound ที่ช่วยลดเสียงที่มัน “กระหึ่ม” เป็นพิเศษลงได้ เช่น เสียงปืนในเกมนี้เอง อีกอันก็มี Height Audio ที่ช่วยลดระดับเสียงแบบ Immersive ลงได้อีก หรือจะปรับเพิ่มก็ได้ หากมันยังไม่ Immersive หรือลอบทิศทางพอ
หากใช้ร่วมกับจอ TV ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป ก็ขอแนะนำว่าเล่นกับจอยไร้สายดีกว่า ยังไงจอ TV ก็ไม่ควรมองใกล้ ๆ และตัวลำโพง Soundbar โดยเฉพาะ Sonos Arc Ultra รุ่นนี้ ก็สามารถขับพลังเสียงได้ไกลพอ
สรุป
กลับมาที่สโลแกนเด่นอย่าง “เสียงระดับโรงภาพยนตร์ในห้องนั่งเล่นของคุณ” อีกครั้ง คือต้องบอกก่อนว่า ลำโพง Soundbar ยังเป็นเหมือนส่วนประกอบหนึ่ง ถ้าให้ดีควรมีลำโพงแยก มีซับวูฟเฟอร์เฉพาะ เพื่อระบบเสียงรอบทิศทางที่สมบูรณ์ ถึงจะได้ฟิลเหมือนอยู่ในโรงหนัง ทว่าตัว Sonos Arc Ultra นี้ แค่ตัวเดียวก็เอาอยู่ ได้ฟิลโรงหนังแบบมีลำโพงเพียงตัวเดียวเท่านั้น
สำหรับจุดเด่นของ Sonos Arc Ultra แน่นอนว่ามีตัว Sound Motion ที่ให้มิติเสียงมากขึ้นอย่างสัมผัสได้ โดยเฉพาะเสียงเบส กับมีฟีเจอร์ Trueplay ที่ในที่สุดก็รองรับการตั้งค่าผ่าน Android ด้วย นอกนั้นก็มีเรื่องการออกแบบ ที่ให้ความเรียบหรู นำไปวางบนโต๊ะหรือติดตั้งแบบแขวนผนัง ก็ทำง่ายและลงตัว
ท้ายนี้ตัว Sonos Arc Ultra สนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาท จัดว่าสูงเอาเรื่องทีเดียว แต่แลกกับคุณภาพที่สุดหมด เจ็บแต่จบในครั้งเดียว หากใครสนใน สามารถไปดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อได้ที่ sonosthailand.com