อยากติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ติดตั้งสะดวก ให้ภาพคมทั้งกลางวันกับ กลางคืน และต้องทนทั้งฝนแดดฝุ่น รองรับการใช้งานนอกบ้าน (Outdoor) ได้อย่างยาวนาน รีวิวนี้พบกับ Tapo C510W และ Tapo C520WS กล้องวงจรปิดแบบ IP รุ่นใหม่ รอบนี้มาพร้อมทั้งความทนทาน ให้ภาพสีคมชัดตลอด 24 ชม. สามารถ Pan-Tilt ได้ และมี Smart AI ฟีเจอร์ตรวจจับอัจฉริยะ ช่วยตรวจจับและติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งแจ้งเตือนที่ผู้ใช้ได้ทันที ซึ่งเป็นยังไง และมีประสิทธิภาพโดยรวมมากแค่ไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ

ฟีเจอร์เด่น Tapo C520WS

• 2K+ QHD Live View – ด้วยความละเอียดภาพ 2560 × 1440 ที่มีใน Tapo C520WS ให้ปริมาณพิกเซลมากขึ้น 1.7 เท่า ให้ภาพคมชัดมากกว่ากล้อง 1080p.
• Starlight Color Night Vision – เลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ F1.6 และมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Starlight ที่อยู่ใน Tapo C520WSทำให้บันทึกภาพได้สว่างมากขึ้นและมีความไวแสงที่สูงขึ้น จึงแสดงผลภาพสีในที่แสงน้อยได้ดีกว่ากล้อง Night vision ที่มีขนาดรูรับแสง F2.2 พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพทั่วไป
• 360° Visual Coverage – ได้มุมมองภาพ 360° ให้คุณโฟกัสกับส่วนสำคัญได้มากขึ้น และลดจุดบอดของกล้องลง
• Free Person/Pet/Vehicle Detection – มาพร้อม Smart AI สามารถแยกแยะบุคคล สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะ พร้อมแจ้งเตือนตามต้องการ
• Customizable Sound and Light Alarm – บันทึกเสียงของคุณเพื่อใช้เป็นเสียงเตือนตามความเหมาะสมในการใช้งาน และยังมาพร้อมไฟส่องสว่างที่สามารถปรับความสว่างได้เพื่อป้องปรามการบุกรุกจากแขกไม่ได้รับเชิญ
• Secure Local & Cloud Storage – บันทึกวิดีโอไปยังการ์ด microSD† หรือสมัครบริการ Tapo Care** พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
• IP66 Weatherproof – มีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันฝุ่นเป็นอย่างดี เพื่อการใช้งานภายนอกอาคารในทุกสภาวะอากาศ
• Wired/Wireless Networking – เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดของคุณเข้ากับเครือข่ายผ่าน WiFi หรือเชื่อมต่อผ่านสาย LAN ตามความต้องการ

ฟีเจอร์เด่น Tapo C510W

• 2K Resolution – ด้วยความละเอียดภาพ 2304 × 1296 ที่มีใน Tapo C510W ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยโดยการบันทึกรายละเอียดได้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิด 1080p (1920 × 1080 px)
• Full-Color Night Vision – แสดงภาพสีคมชัดด้วยไฟสปอร์ตไลท์ ให้แสงสว่างในยามค่ำคืน
• 360° Visual Coverage – ได้มุมมองภาพ 360° ให้คุณโฟกัสกับส่วนสำคัญได้มากขึ้น
• Smart Motion Tracking – Tapo C510W ตามติดความเคลื่อนไหวด้วยการหมุนกล้องที่รวดเร็ว ให้คุณมั่นใจว่าทุกเหตุการณ์จะถูกจับตาผ่านกล้องวงจรปิดเสมอ
• Multiple Detection for Free – มาพร้อม Smart AI สามารถแยกแยะบุคคล พร้อมแจ้งเตือนตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งโซนกิจกรรมหรือขอบเขตเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
• Customizable Sound and Light Alarm – บันทึกเสียงของคุณเพื่อใช้เป็นเสียงเตือนตามความเหมาะสมในการใช้งาน 
• Local and Cloud Storage – บันทึกวิดีโอไปยังการ์ด microSD (รองรับสูงสุด 512 GB)† หรือสมัครบริการ Tapo Care** พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
• IP65 Weatherproof – มีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันฝุ่นเป็นอย่างดี เพื่อการใช้งานภายนอกอาคารในทุกสภาวะอากาศ

เทียบ Tapo C510W และ C520WS

วัสดุและงานออกแบบ

หน้าตาของกล้อง Tapo C520WS และ Tapo C510W ดูเผิน ๆ นึกว่าฝาแฝด มาเป็นสีขาวผิวด้าน ขนาดและตัวกล้องก็แทบไม่ต่างกันเลย แต่ยังมีความต่างกันอยู่ 

เริ่มจาก Tapo C520WS พี่ใหญ่สุดในครั้งนี้ โดยตัวกล้องก็มาพร้อมเสาอากาศ 2 เสา ช่วยให้รับสัญญาณ Wi-Fi 2.4 GHz ได้ดีขึ้น ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP66 

หน้าตาตัว Tapo C520WS

สายเชื่อมต่อด้านหลังก็มีช่องสำหรับต่อสาย LAN มาให้ด้วย

พร้อมมี Waterproof Cable Attachments หรือตัวหุ้มสายกันน้ำสำหรับใช้งานร่วมกัน

ถัดมาที่ Tapo C510W น้องคนกลางของตระกูล C500 ตัวกล้องมีเสาอากาศในตัว รับสัญญาณ Wi-Fi 2.4 GHz ได้เช่นกัน (แต่ตัว C520WS จะรับได้ดีกว่าระดับหนึ่ง) ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65  

แม้จะไม่ทนทานเท่าตัว Tapo C520WS แต่ก็ยังจัดว่าเป็นกล้องสำหรับใช้นอกอาคารได้ดีตัวหนึ่ง หากใครต้องติดตั้งใช้งานหลาย ๆ ตัว Tapo C510W ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี

สำหรับสายเชื่อมต่อ รอบนี้ไม่มีช่องเสียบ LAN เป็นสายต่อไฟเลี้ยง AC แบบเพียว ๆ เลย และยังกันน้ำได้ระดับหนึ่ง

ติดตั้งและใช้งาน

ในรีวิวนี้ก็ขอนำตัว Tapo C520WS ที่ทนสุด ไปติดตั้งแบบ Outdoor หรือใช้งานนอกบ้าน (โปรดขั้นน็อตให้เรียบร้อยนะครับ ในภาพคือใช้ชั่วคราว)

พร้อมใส่ MicroSD ที่ตัวกล้อง สำหรับการบันทึกไฟล์วิดีโอย้อนหลัง และตัวฝาปิดเองก็มียางซีลปิดกันน้ำและกันฝุ่นให้ด้วย

ส่วนตัว Tapo C510W ก็มาอยู่ในบ้านแทน

การติดตั้งก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ Tapo ขั้นแรกก็เลือกตัวกล้องที่ใช้ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน

เลือกเครือข่ายหรือสัญญาณ Wi-Fi คลื่น 2.4 GHz ที่ใช้ในบ้าน เพื่อทำการเชื่อมต่อตัวกล้อง จากนั้นก็ตั้งชื่อ ตำแหน่งที่วางกล้อง และไอคอนเป็นอันเสร็จ 

เริ่มการใช้งาน ตัวกล้องจะบอกฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ก่อนเลย

ฟีเจอร์เด่น

หลังติดตั้งตัวกล้องเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าแรก จุดนี้หากมีตัวกล้อง Tapo มากกว่าหนึ่งตัว ก็สามารถ Add เพื่อดูพร้อมกันในหน้าเดียวได้สูงสุด 4 ตัวตามนี้

เทียบให้เห็นไปเลยว่า ตัวกล้อง C520WS (บนซ้าย) และ C510W (บนขวา) มีความคมชัดกว่ากล้อง Tapo รุ่นก่อน ๆ (ด้านล่าง) อยู่มากทีเดียว

การควบคุมนั้น ก็สามารถใช้ปุ่มลูกศรควบคุมกล้องแบบ 360 องศา จากในแอปฯ ได้เลย 

เนื่องจากตัวกล้องสามารถหมุน Pan-tilt หรือหมุนมุมกล้องได้แบบ 360 องศา ในแนวราบและ 130 องศา ในแนวตั้ง จึงมีลูกเล่นเสริมเพิ่มเข้ามาด้วย ตัวอย่างเช่น ‘ทำเครื่องหมายตำแหน่ง’ สามารถมาร์กจุดที่ต้องการในกล้อง เพื่อให้ตัวกล้องสามารถหันไปยังมุมนั้นที่ต้องการได้ทันที ไม่ต้องมาคอยกดเลื่อนเอาเอง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ Pan-tilt น่าสนใจอย่าง ‘สร้างเส้นทางพาโนรามา’ สั่งให้ตัวกล้องหมุนถ่ายภาพให้ครบทุกองศา จากนั้นก็จะได้ภาพพาโนรามาออกมา ซึ่งสามารถสั่งให้กล้องหันตัวเองไปตามจุดที่เรากดหรือสัมผัสในภาพได้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายพาโนรามาจากกล้อง Tapo C520WS

เซ็นเซอร์ตรวจจับอัจฉริยะ (Smart AI)

Smart AI สามารถแยกแยะบุคคล สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะ พร้อมแจ้งเตือนตามต้องการ ก็แจ้งได้ตามภาพเลย รถมีกี่คน มันแท็ก (Tracking) ได้เกือบหมด มีบุคคลในภาพก็สามารถแยกแยะได้

ตัวอย่างการ Tracking แบบ Realtime

แต่หากไม่อยากให้แท็กรถ ก็สามารถปิดการใช้งานได้ (แต่ค่าปกติหรือตอนใช้งานกล้องใหม่ ๆ มันจะปิดมาให้ก่อนแล้ว) นอกจากรถ ก็ยังมีสัตว์ที่สามารถ เปิด/ปิด การแท็กได้เหมือนกัน 

ตอนเจอสัตว์(ไม่)เลี้ยง ที่หน้าบ้าน ตัวกล้องก็แท็กช่วงเวลาที่เจออมาให้เลย ไม่ต้องกรอวิดีโอไล่หาเอาเอง

ระบบติดตามความเคลื่อนไหว ติดตามได้ทั้งรถและบุคคล หรือจะตั้งให้กล้องหันตามก็ยังได้ และจุดนี้ก็จะเห็นหน้า Notification แจ้งเตือนสิ่งที่กล้องกำลังพบเจอด้วย

ประสิทธิภาพ

มาถึงส่วนทดสอบประสิทธิภาพแล้ว ลองมาดูกันว่าตัวกล้องทั้ง Tapo C520WS และ Tapo C510W จะให้ความคมชัดได้มากน้อยแค่ไหน

ตามสเปกแล้ว ตัว Tapo C520WS มาพร้อมขนาดเซ็นเซอร์ 1/3‘’ CMOS ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล (2560 × 1440) ส่วน Tapo C510W ก็มาพร้อมขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8” CMOS ความละเอียด 2K 3MP (2304 × 1296 px) แม้จะ 2K เหมือนกัน แต่ก็มีความต่างกันเล็กน้อย อนึ่งตัว Tapo C520WS ยังรองรับเฟรมเรตได้ถึง 25/30fps ส่วน Tapo C510W ได้ที่ 15fps ในส่วนนี้หากใครมั่นใจในความเร็วเน็ตที่ใช้อยู่ ก็เปิดความละเอียด 2K ตลอด 24/7 ไปเลยก็ได้

ภาพนิ่งตอนกลางวันจาก Tapo C520WS

ภาพนิ่งตอนกลางคืนจาก Tapo C520WS (ช่วงตี 3)

ภาพนิ่งจาก Tapo C510W

ภาพนิ่งตอนกลางคืนจาก Tapo C510W

ตัวอย่างภาพวิดีโอจาก Tapo C520WS

ตัวอย่างภาพวิดีโอจาก Tapo C510W

สรุป

ตัวกล้องทั้งสอง นับว่าเป็นกล้อง IP ที่เป็นมิตร ใช้งานง่าย ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Tapo มาช้านาน แน่นอนว่าด้านประสิทธิภาพ ก็มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยราคาเพียงพันปลาย ๆ ถึง 2 พันบาท แต่เราได้กล้องที่คมชัดระดับ 2K ให้ความละเอียด 3 ล้าน และ 4 ล้านพิกเซล ซึ่งภาพที่ได้ก็ชัดจริงอะไรจริง ทั้งกลางวันและกลางคืน คมชัดแบบ 24/7 

ด้านเซ็นเซอร์ตรวจจับหรือ Smart AI รอบนี้สามารถ Tracking ติดตาม กับแยกแยะได้แม่นยำกว่าเคย ลองทดสอบโดยการเปิดเซ็นเซอร์จับรถยนต์ มันก็สามารถจับได้หมด และยังแยกตัวบุคคลที่อยู่ในภาพได้ด้วย ถามว่าฟีเจอร์แบบนี้มีประโยชน์ยังไง ก็มีประโยชน์ในการแจ้งเตือนแบบละเอียด คือเราไม่ต้องมาไล่ดูกล้องเอาเอง แต่มันจะบอกให้แทน เช่น ตรวจพบบุคคลกำลังเดินเข้ามาที่บ้านตอนกลางคืน มันจะก็แจ้งเตือนให้ผู้ใช้รับรู้ทันที หรือใช้เป็น ‘คีย์’ สำหรับดูย้อนหลังได้สะดวก อยากดูว่าช่วงไหนมีคนเดินผ่าน ตัวกล้องก็จะคัดช่วงนั้นให้เองเลย

ส่วนด้านความทนทานนั้น Tapo C520WS ได้เปรียบกว่า Tapo C510W ตรงที่มี IP66 และมีตัวหุ้มกันน้ำที่สายเชื่อมต่อด้วย ส่วนตัว C510W ก็แน่นอนว่าได้ราคาที่ถูกลงมาแทน

สำหรับราคาของทั้งสอง ก็มีตามนี้

• Tapo C510W ราคา 1,890 บาท 
• Tapo C520WS ราคา 2,290 บาท

สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือ TP-Link ช้อปปี้ ลาซาด้า Official Store ซึ่งสามารถดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

Tapo C510W

• Website: https://bit.ly/3Pr8IYo
• Lazada : https://bit.ly/3NC7g2V
• Shopee : https://bit.ly/443ZVQR

Tapo C520WS

• Website:  https://bit.ly/46uo44D
• Lazada : https://bit.ly/3CTLwe2
• Shopee :  https://bit.ly/44LBZBN