เลือก Workstation แบบไหนให้ตรงกับที่ต้องการ เทคโนโลยีแบบไหนที่ควรรู้ คอมมาร์ตเทียบมาให้ ชิป CPU ตัวท็อปฝั่ง Workstation อย่าง Intel® XEON® ที่ แต่ละรุ่นตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน
การทำงานที่ต้องใช้เครื่อง PC ตลอดทั้งวัน และต้องการประสิทธิภาพในการประมวลผลสูง สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นระดับมืออาชีพได้ เหมาะสำหรับความต้องการทางธุรกิจ และอุตสาหกรรมต้องยกให้กับ Workstation
แต่ปัญหาคือ เราจะเลือก Workstation ตรงกับที่ต้องการจริง ๆ ยังไง ? และมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง ที่จำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ โดยเฉพาะชิปประมวลผล ซึ่งต้องบอกเลยว่า หากเทียบกับการเลือกซื้อ Desktop PC หรือโน้ตบุ๊กทั่วไปแล้ว Workstation จะมีความแตกต่างกว่ากันมาก เนื่องจากเป็นเครื่อง PC ที่มีสเปกทรงพลังเป็นพิเศษ ทั้งซีพียูและการ์ดจอ รวมไปถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ก็จะต่างออกไปเลย ในบทความนี้ลองมารู้จักกับ Workstation ให้มากยิ่งขึ้นกับ Intel® XEON®
รู้จักกับ Intel® XEON®
ในฝั่ง Intel® หลายคนคงรู้จักซีพียู Intel® Core™ มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Core™ i3 , i5 ,i7 หรือ i9 ซึ่งถูกแบ่งจากตัวเลขน้อยสุดอย่าง i3 ไปถึงมากสุด i9 ก็ทำให้แยกได้ง่าย ๆ แล้วว่า ซีพียู Core™ i รุ่นไหน มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่กับ Intel® XEON® นั้นแยกยังไง และต่างจากซีพียู Intel® Core™ อย่างไรบ้าง จุดนี้ก็บอกได้ง่าย ๆ ตามลักษณะการใช้งานได้เลยว่า Intel® Core™ เน้นใช้งานทั่วไป
ส่วน Intel® XEON® เน้นใช้งานแบบข้ามคืน กล่าวคือเป็นซีพียูที่มีความทนทานสูง ออกแบบมาให้ทำงานอย่างต่อเนื่องได้ดีเป็นพิเศษ โดยเน้นไปที่จำนวนคอร์มากกว่าประสิทธิภาพต่อคอร์ ทำให้รองรับการทำงานแบบ Muti ที่เปิดใช้งานโปรแกรมได้หลาย ๆ ตัวพร้อมกัน (เครื่อง Desktop PC บางรุ่นอาจใส่ซีพียู XEON® ได้มากกว่าหนึ่งตัวด้วย โดยเฉพาะเครื่องระดับเซิร์ฟเวอร์) และทำให้มีความทนทาน รวมถึงความเสถียร ที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับองค์กรมากกว่า เช่น ใช้สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรืองานประเภท Workstation ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
Intel® XEON® เจนล่าสุด
ปัจจุบัน Intel® XEON® มีรุ่นล่าสุดอย่าง Scalable หรือเจนเนอเรชั่น 4 แล้ว ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 2.9 เท่า มีชิปเร่งความเร็ว และประหยัดพลังงานมากถึง 70 วัตต์ โดยใช้โหมดประหยัดพลังงานสูงสุด ทว่าแทบไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานลงเลย เหมาะสำหรับงาน Data Center และ Workstation โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งระดับตั้งแต่รุ่น Bronze , Silver , Gold และ Platinum ที่เป็นตัว Top สุด โดยมีรายละเอียดสเปกที่ต่างกันตามนี้
ชิป CPU แต่ละรุ่น เหมาะกับใช้งานแบบไหน
Intel® XEON® Bronze
ชิป Intel® XEON® ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลแบบพื้นฐาน แต่ยังคงคุณสมบัติความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการให้บริการ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของโซลูชันระดับเริ่มต้น
Intel® XEON® Silver
ประสิทธิภาพที่มากขึ้น และการใช้พลังงาน โดยเป็นซีพียูสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่หมายให้เป็น Data Center ระดับพื้นฐาน
Intel® XEON® Gold
สามารถใส่ได้มากกว่าหนึ่งตัว โดยรองรับซีพียูได้ถึง 4 ซ็อกเก็ต เน้นการประมวลผลแบบมัลติคลาวด์ และเวิร์กโหลดของเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการรองรับความเร็วหน่วยความจำที่สูงขึ้น
Intel® XEON® Platinum
ที่สุดของ Intel® XEON® Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ที่มาพร้อมตัวเร่งความเร็วและเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เหมาะสำหรับการเวิร์กโหลดที่ต้องการมากที่สุด
จากตารางจะเห็นได้เลยว่า ยิ่งมีระดับสูงโดยเฉพาะ Gold กับ Platinum ก็ยิ่งมีจำนวน Core/Thread ที่มากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Intel® XEON® เหมาะสำหรับงานระดับองค์กรและ Workstation ช่วยให้รันงาน VFX, การเรนเดอร์ 3D, 3D CAD ที่ซับซ้อน และการพัฒนา AI ได้เป็นอย่างดี และรวมไปถึงการทำเซิร์ฟเวอร์ ที่สามารถประมวลผลได้ในระดับสูง
ThinkStation เครื่อง Desktop PC เพื่องาน Workstation
หากยกตัวอย่างของ Workstation ที่มาพร้อมกับ Intel® XEON® และสามารถปรับแต่งซีพียู XEON® ได้ตั้งแต่ Bronze ไปจนถึง Platinum ครบทุกระดับของซีพียู Intel® XEON® Sereis ก็มีตัว ThinkStation P Series หรือตัว Top อย่าง ThinkStation 920 Tower
นอกจาก ThinkStation P920 Tower ก็ยังมี ThinkStation อีกหลาย ๆ รุ่น อาทิ ThinkStation P620 , P520/520c , P360/350 และยังมีในฝั่งของโน้ตบุ๊กระดับ Workstation เช่นเดียวกันอย่างตระกูล P Series ให้ไปลองเลือกใช้งานกันได้
หากเข้าร่วมเป็นสมาชิก LenovoPro สมาชิกใหม่ จะรับส่วนลดต้อนรับสูงสุด 10% เพียงสั่งซื้อภายใน 30 วันหลังจากลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงถึง 10% พร้อมรับส่วนลดอื่น ๆ เฉพาะสมาชิกสูงสุดถึง 12%
ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิก LenovoPro ยังจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ส่วนลดซื้อเครื่องสูงสุดถึง 12% และส่วนลดเพิ่มเติมหากเป็นสมาชิกใหม่อีก 10% มีผู้ช่วยให้คำปรึกษาส่วนตัว ให้ฟรีอุปกรณ์เสริม และส่วนลดเพิ่มเติม มีระบบจัดการข้อมูลและอุปกรณ์ของบริษัทเพียงหนึ่งคลิก ช่วยลดความซับซ้อนของฝ่ายไอที มีรับประกันแบบ Keep Your Drive, Accidental Damage Protection และส่วนลด 68% หากต้องการอัพเกรดการรับประกันอีกด้วย
เช็ครุ่นสินค้า >> bit.ly/3ZsSnUk
สมัครสมาชิก Lenovo Pro >> bit.ly/3JWJbSB
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาส่วนตัว โทรฟรีที่เบอร์ 1800-011-936
#Lenovo #intelThailand