รีวิว : TP-Link Tapo C420S2 กล้องวงจรปิดไร้สาย ติดตั้งง่ายได้ทุกที่ พร้อม AI ตรวจจับอัจฉริยะ

เคยนึกเล่น ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร หากมีกล้อง IP Camera แบบไร้สาย เราคงวางกล้องในมุมที่ต้องการได้มากขึ้น พร้อมบอกลาการเดินสายที่วุ่นวาย กับมีความคมชัดอยู่เช่นเคย รีวิวนี้คือคำตอบ

พบกับ Tapo C420S2 กล้อง IP ตัวล่าสุดจาก TP-Link มาพร้อมฟีเจอร์ใช้งานไร้สายเต็มรูปแบบ ที่สามารถใช้งานได้นานถึง 180 วัน ทั้งนี้ยังให้ความคมชัดได้สูงสุดถึง 2K QHD ส่องได้คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมด้วยระบบ AI ช่วยตรวจจับ ช่วยแยกแยะได้ทั้ง บุคคล ยานพาหนะ และสัตว์เลี้ยง ให้เราเลือกดูข้อมูลบันทึกย้อนหลังได้สะดวกขึ้น และยังใช้งานนอกบ้านได้ด้วยมาตรฐาน IP65 ที่กันน้ำกันฝุ่นได้เป็นอย่างดีด้วย ใครอยากรู้ว่ากล้อง IP แบบไร้สายสะดวกขนาดไหน และมีฟีเจอร์ใช้ได้จริงแค่ไหน ลองมาดูกันเลยครับ

รายละเอียดสเปก TP-Link Tapo C420S2

  • 2K QHD : ให้พิกเซลที่มากกว่า 1080p ถึง 1.7 เท่า พร้อมให้ภาพวิดีโอและภาพถ่ายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • 180-Day Battery Life : แบตเตอรี่แบบถอดได้ ชาร์จซ้ำได้ และใช้งานได้ยาวนาน โดยมีโหมด ‘ประหยัดพลังงาน’ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานได้เกือบครึ่งปี
  • Full-Color Night Vision : เซ็นเซอร์ Starlight ให้ความละเอียดที่ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน 
  • Smart AI Detection and Notification : มี AI ช่วยตรวจสอบพร้อมการแจ้งเตือนอัจฉริยะ แยกแยะได้ทั้ง บุคคล สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะ ให้แก่ผู้ใช้
  • Wire-Free Placement : ด้วยการใช้งานแบบไร้สาย ช่วยให้จัดวางตัวกล้องได้เกือบทุกที่ทั้งภายในและภายนอก
  • Light and Sound Alarm : ส่งเสียงและแสงเป็นสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว
  • Two-Way Audio : รองรับการสื่อสารผ่านไมโครโฟนและลำโพงในตัว
  • Flexible Storage Choices : รองรับการบันทึกไฟล์วิดีโอไว้ใน microSD สูงสุด 256GB หรือใช้บริการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ผ่าน Tapo Care ได้
  • IP65 Water&Dust Resistant : ให้ประสิทธิภาพการกันน้ำและกันฝุ่นที่ยอดเยี่ยม ในการใช้งานกลางแจ้ง

แกะกล่อง

ปกติตัวกล้อง IP จาก Tapo ในกล่องอย่างมากก็มีเฉพาะตัวกล้อง ชุดไฟเลี้ยง และชุดคู่มือเท่านั้น แต่สำหรับตัว Tapo C420S2 นี้ บอกเลยว่าอุปกรณ์เพียบ


เริ่มจากตัว Hub หรือตัวกลางที่คอยทำหน้าที่ควบคุมตัวกล้องทั้งหมด ก็มาเป็นกล่องสีเหลี่ยมเล็ก ๆ พร้อมด้วยชุดไฟเลี้ยง DC Power Adapter ของตัวเอง

ถัดมาคือตัวแบตฯ สองก้อน สำหรับตัวกล้อง Tapo C420S2 ทั้งสองตัว พร้อมกับมีตัวสายชาร์จแบบ USB-A to Micro และตัวชาร์จให้ด้วย นอกนั้นก็สาย LAN x 1 และชุดช่วยติดตั้งบนกำแพง

สุดท้ายตัวกล้อง Tapo C420S2 ทั้งสอง กับฐานวางอีกทั้งสองเช่นกัน 

ดีไซน์

ตอนรีวิวตัว Tapo C225 ก็ว่ามีดีไซน์ที่สวยและเข้าท่ามากแล้ว แต่ C420S2 นี้ ยังไปได้ไกลกว่านั้น แน่นอนว่ามันได้เปรียบตรงที่ไร้สาย ทำให้ตัวกล้องมีความคลีนหรือดูสะอาดตามาก ๆ และยังมีขนาดกะทัดรัดเกินคาด จากตอนแรกที่เห็นภาพโปรโมต คิดว่าจะมีขนาดใหญ่กว่านี้ซะอีก ก็นับว่าเป็นข้อดีตรงที่สามารถนำไปวางจุดต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น

ตัวกล้องมาพร้อมขาตั้ง (ถอดหรือติดตั้งด้วยมือได้ง่าย ๆ) ที่สามารถเลือกได้ว่า จะวางกับโต๊ะหรือพื้นผิวเรียบ และติดตั้งกับกำแพงได้ตามที่ต้องการ

ตัว Hub ก็มีขนาดเล็กเช่นกัน โดยสามารถนำไปเชื่อมต่อกับเราเตอร์ผ่านสาย LAN ได้เลย พร้อมกับต่อไฟเลี้ยงและตัว Micro SD Card ได้ที่ด้านหลังทั้งหมด

แบตฯ สองก้อนที่แถมมาให้ในกล้อง สังเกตที่ตัวแบตฯ ดี ๆ จะเห็นเลยว่า ตัวแบตฯ มีช่องสำหรับต่อชาร์จผ่านพอร์ต Micro USB ให้ด้วย (เผื่อไว้สำหรับใครที่ซื้อแบตฯ แยก จะได้ชาร์จรอ เพื่อเปลี่ยนได้ทันที)

ส่วนการเปลี่ยนแบตฯ นั้น ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงหมุนฝาท้ายกล้อง ก็จะเจอช่องสำหรับใส่แบตฯ โดยจุดนี้จะสังเกตได้เลยว่า ตัวฝาปิดมีการใช้ซิลยางกันน้ำเข้าด้วย สมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP65

อนึ่งบริเวณท้ายกล้อง ก็สามารถต่อชาร์จไฟผ่าน Micro USB ได้เช่นกัน โดยไม่ต้องแกะตัวแบตฯ ออก 

การติดตั้งและใช้งาน

หากเป็นรีวิวกล้อง IP อย่างทุกที่ คงต้องมองหาเต้าเสียบปลั๊ก เทียบความยาวสาย หรือบางรุ่นต้องวัดความยาวของสาย LAN ด้วย แต่สำหรับตัว Tapo C420S2 นี้ ปลั๊กไม่ต้อง สาย LAN ไม่ต้อง หาที่วางอย่างเดียวพอ จำตำแหน่งไหนก็ได้ ที่คิดว่าเก็บภาพได้เหมาะ และวางได้ดีขึ้น ตามแต่เราเลย

ในรีวิวนี้ก็เลือกวางตัวกล้องแบบฐานตั้งโต๊ะ สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายสุด ๆ

แต่อย่างไรก็ตาม การวางตัวกล้อง ก็ต้องไม่อยู่ห่างจากตัว Hub มากนัก ให้อยู่ภายใน 20 เมตร (ระยะการทำงานจริงนั้น อาจขึ้นอยู่กับกับสภาพแวดล้อมด้วย เช่น บางบ้านอาจมีผนังหนาเยอะ ก็มีส่วนทำให้สัญญาณตกลงได้) คิดซะว่าตัว Hub เป็นเหมือนเราเตาร์ Wi-Fi ตัวหนึ่ง ที่เอามาเชื่อมต่อกับกล้อง IP โดยเฉพาะ แต่ต้องเสียบสาย LAN จากเราเตอร์เดิมที่ใช้อยู่ด้วย ทั้งนี้นอกจากจะเป็นตัวรับส่งสัญญาณแล้ว ยังเป็นตัวกล่องสำหรับเก็บไฟล์วิดีโอ โดยบันทึกไฟล์ผ่าน Micro SD Card นั้นเอง ทั้งนี้ตัว Hub สามารถรองรับตัวกล้องได้ทั้งหมด 4 ตัวกันเลย

หลังจัดการวางตัวกล้องอะไรเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ทำการสร้างระบบควบคุมตัวกล้อง หากใครใช้กล้อง Tapo อยู่แล้ว ก็เช่นเคยเลยครับ โหลดแอปฯ Tapo ติดตั้ง แล้วเปิดใช้งาน ในหน้าแรกก็ทำการเพิ่มอุปกรณ์ก่อน โดยตอนแรกเราจะเพิ่มกล้องทันทีเลยไม่ได้ ต้องเพิ่มตัว Hub ก่อนเท่านั้น 

เมื่อเพิ่มตัว Hub ลงแอปฯ แล้ว ต่อไปก็เพิ่มตัวกล้องต่อเลย ซึ่งก็ใช้วิธีคล้ายกัน ทำได้ไม่ยากมาก 

หลังเพิ่มทั้ง Hub ทั้งกล้องแล้ว ก็ทำการเปิดใช้งานตัวกล้องต่อเลย โดยหากเปิดใช้งานครั้งแรก ตัวแอปฯ จะให้เราเช็คตัวกล้องต่าง ๆ ทั้งการชาร์จแบตฯ ทดสอบสัญญาณ Wi-Fi เช็คตำแหน่งการวาง (ดูว่ามุม OK ไหม) เป็นอันเสร็จ

เข้าสู่หน้า Home Screen ของแอปฯ ทั้งนี้หากมีตัวกล้อง Tapo อยู่ก่อนแล้ว ก็สามารถนำมาเพิ่มเป็น 4 มุมมองได้ตามภาพเลย

ลองเข้าหน้าตั้งค่า เพื่อดูว่าตัวแบตฯ มีการตั้งค่าอย่างไรบ้าง

ในหน้าตั้งค่าแบคฯ ก็มีทั้งเช็คสถานะและการเปิดโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งในโหมดนี้ก็คือการปรับความละเอียดจาก 2K QHD เป็น 720p แทน พร้อมปรับไฟ LED และกล้องอินฟราเรตให้มีค่าที่สั้นลงนั้นเอง ซึ่งก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานถึง 180 วัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าส่วนอื่น ๆ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย แต่ใช้ได้มากกว่าหนึ่งร้อยวัน ก็นับว่ามากพอแล้ว

ถ้าจะปรับเฉพาะความละเอียดของตัวกล้องเพียงอย่างเดียว ก็มาเลือกปรับใช้จากตรงนี้ก็ได้

Smart AI Detection and Notification ลองดูหน้าตั้งค่าของฟีเจอร์นี้ จะเห็นเลยว่าตัวกล้องมีระบบ AI ช่วยตรวจจับบุคคลโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ ในระยะประมาณ 8 เมตร และสามารถแจ้งพบบุคคลเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ทันที พร้อมตั้งค่าระยะการตรวจจับจากหน้ากล้องได้ด้วย

ส่วนการใช้ AI ช่วยตรวจจับหรือจำแนกนั้น ก็สามารถแยกการจัดเก็บภาพได้ทั้ง บุคคล สัตว์เลี้ยง และยานพหานะ เลือกได้หมดเลยว่า จะให้มีความไวในการตรวจจับมากแค่ไหน

ตัวอย่างการแจ้งเตือน แต่ละส่วนก็มีไอคอนระบุเลยว่าพบอะไร พบบุคคล พบการเคลื่อนไหว

ถัดมาคือระบบเก็บภาพในตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็มีแสงจากธรรมชาติมาช่วยแล้ว ส่วนกลางคืนนั้น หากเป็นภาพในที่สว่างน้อย ตัวกล้องก็มีเซ็นเซอร์ Starlight ที่ช่วยจัดการแสงเงาจนภาพคมชัดได้มากพอแล้ว แต่หากอยู่ในที่มืดจริง ๆ แบบไม่มีแสงเลย แน่นอนว่าตัวกล้องปรับใช้โหมดอินฟราเรตในการเก็บภาพได้ หรือใช้โหมดเปิดไฟ LED ที่ติดกับตัวกล้องเพื่อส่องแสงสว่างเองก็ได้ จุดนี้สามารถตั้งค่าให้มีการเปิดไฟ หากพบบุคคลเคลื่อนไหวในความมืด ตัว LED ที่กล้องจะทำการส่องไฟเตือนทันที

ตัวอย่างการส่องไฟ LED จากตัวกล้อง (ในภาพจริงคือสว่างใช้ได้เลยนะเออ)

ประสิทธิภาพ

มาพิสูจน์กันว่า Tapo C420S2 กล้อง IP แบบไร้สาย จะยังคงความคมชัดได้หรือไม่ และมีปัญหาการใช้งานอะไรหรือไม่ ซึ่งเดี๋ยวจะมีการทดสอบโดยการถือตัวกล้องที่ทำงานอยู่ ลองเอาออกไปข้างนอกบ้าน ดูเลยว่าภาพที่บันทึกอยู่นั้น จะมีการตัดขัดอะไรไหม

ลองประเดิมด้วยการถ่ายภาพนิ่งกันก่อน ถ่ายทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน (ในโหมดอินฟราเรต) ลองพิจารณากันเองเลยครับ

ต่อไปก็ทดสอบถือกล้อง ผลก็พบว่ามีสัญญาณขาดหายไปนิด ๆ แต่ก็มาเป็นปกติในเวลาไม่นาน

สุดท้ายลองตั้งกล้องบันทึกภาพยาว ๆ โดยการบันทึกครั้งนี้ พิเศษหน่อยตรงที่บันทึกจากการแจ้งเตือนของตัวเองเลย คือตัวกล้องตั้งค่าให้บันทึกย้อนหลังเฉพาะแต่เจอบุคคล เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ Micro SD และแบตฯ ภาพที่ได้ ก็เหมือนมีการตัดต่อเฉพาะส่วนสำคัญให้เล นับว่าเป็นความดีงามของฟีเจอร์ Smart AI Detection and Notification ที่ช่วยทำให้เราไม่ต้องเสียเวลากรอวิดีโอยาว ๆ ไปมาเหมือนก่อนนั้นเอง

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    (4.5)
  • สเปค / ฟีเจอร์
    (5)
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    (4.5)
4.7

Summary

ตอนเห็นว่าใช้งานไร้สายได้ ก็มีความกังวลหลายอย่างเลยว่า สัญญาณจะตัด ๆ ขัด ๆ ไหม เชื่อมต่อนานไหม และมีปัญหาอะไรจุกจิกหรือไม่ แต่จากที่ได้ลองใช้ตัว Tapo C420S2 แล้วนั้น แทบไม่เจอปัญหาการใช้งานอะไรเลย มีแค่ตอนเคลื่อนย้ายกล้อง ที่สัญญาณกับความคมชัดจะขาดหายไปบ้าง แต่เอาจริง ๆ เวลาใช้งานเราคงปล่อยกล้องไวกับที่ ไม่เอามาถือไล่ถ่ายภาพเองแน่

ด้านอายุแบตฯ นั้น หากจะให้ใช้งานได้ยาว ๆ 180 วันเลยนั้น ก็ต้องลดความละเอียดเป็น 720p ตลอดแทน จุดนี้เราจะเลือกปรับความละเอียดเป็น 2K หรือจะตั้งค่าปรับความละเอียดอัตโนมัติก็ได้ แต่ส่วนตัวคงเลือกที่จะปรับ 2K ตลอดเวลา แล้วค่อยนำมาชาร์จไฟทุก ๆ 1 – 2 เดือนแทน เพราะจากที่ลองใช้งานดูแล้ว ก็พบเลยว่ามันกินแบตฯ แค่ประมาณ 1 – 2 % ต่อวันเท่านั้น ถ้าปรับเป็น 720p ในหนึ่งวันน่าจะไม่ลดเลย 

จากข้างต้น ก็ถือว่าตัวกล้องสอบผ่านในเรื่องไร้สายแล้ว ถัดมาคือเรื่องความคมชัด จุดนี้ก็ยังทำได้สมฐานะสเปก 2K QHD ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนตัว AI ที่ช่วยตรวจจับอัจฉริยะนั้น จุดนี้ก็ขอชมเรื่องความแม่นยำและการใช้ประโยชน์เลย ซึ่งช่วยให้กดดูย้อนหลังได้แบบทันใจ ไม่ต้องย้อนดูวิดีโอเพื่อหาจุดที่มีประเด็นให้เหนื่อยเหมือนก่อน อย่างในที่นี้ หากตัวกล้องพบบุคคลเดินผ่านหน้ากล้อง มันจะมีแจ้งเตือนชัด ๆ เลยว่า “บุคคล” เราสามารถกดดู เพื่อเช็คได้ทันทีว่า ใครมาเดินในบ้านเรา 

ท้ายนี้ตัว TP-Link Tapo C420S2 วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 6,990 บาท พร้อมรับประกัน 1 ปี

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือเลือกซื้อสินค้า TP-Link Tapo C420S2 ได้ที่นี่

สอบถามปัญหาเทคนิค inbox ที่ Fanpage: TPLinkTH กับ Call center: 02-440-0029 (จันทร์-เสาร์ 08.30-17.30 น.) หรือ Line : @tplink 

Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article