ต้อนรับเน็ตบ้านความเร็ว 10 Gbps ที่ล่าสุดกำลังมีเปิดให้บริการในไทยเร็ว ๆ นี้แล้ว (ของค่ายไหนไปหาดูได้) แน่นอนว่ามีบริการอินเทอร์เน็ตระดับนี้ ก็ต้องมีเราเตอร์ที่รองรับด้วย และเราเตอร์รุ่นแรก ๆ ย่อมเป็นเราเตอร์เกมมิ่ง ที่จัดเต็มสเปกและดีไซน์

รีวิวนี้พบกับ ROG Rapture GT- AX11000 Pro เราเตอร์เกมมิ่งตัว Top จากทาง ASUS ภาคต่อของ ROG Rapture GT-AX11000 รุ่นก่อนหน้า เพิ่มเติมคือ “Pro” ปรับโฉมใหม่ เกมมิ่งดีไซน์มาเต็มยิ่งกว่าเดิม โดยยังมาพร้อมสเปกความเร็วสูงสุด 11000 Mbps รองรับ Wi-Fi 6 และเป็น Tri-Band ที่ปล่อยได้ทั้งคลื่น 2.4 GHz กับ 5 GHz อีกสองคลื่น ส่วนจุดเด่นครั้งนี้คือมาพร้อมพอร์ต LAN เชื่อมต่อ ที่รองรับความเร็วได้ถึง 10 Gbps กับโหมด Game Boost ที่กดครั้งเดียว ก็ช่วยเร่งประสิทธิภาพการเล่นเกมออนไลน์ทันที ส่วนประสิทธิภาพจะจัดเต็มแค่ไหร ส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลขนาดไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ

รายละเอียดสเปก ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro 

• High-efficiency WiFi 6 – Ultrafast WiFi 6 tri-band boosts speeds up to 11,000 Mbps, with 160 MHz channels for better efficiency and throughput
• Expanded coverage – Exclusive ASUS RangeBoost Plus improves signal range and overall coverage
• Flexible networking ports – One 2.5G port and one 10G port can be configured for either WAN or LAN operation
• Extreme quad-core CPU power – High-performance WiFi chipsets and 64-bit 2.0 GHz quad-core CPU take wireless signal processing to the next level
• Triple-level game acceleration – Online gaming gets network prioritization every step of the way, from PC to game server
• Expanded UNII4 spectrum – Additional high-power 160 MHz channel in 5 GHz increases backhaul capacity of the Mesh network

แกะกล่อง

นอกจากตัวเราเตอร์แล้ว ตัวกล่องของ ASUS ROG Rapture GT- AX11000 Pro ก็น่าเอามาตั้งโชว์ประดับโต๊ะคอมฯ อยู่เหมือนกัน

อุปกรณ์ในกล่อง ก็มีตัวเราเตอร์ ASUS ROG Rapture GT- AX11000 Pro กับชุดสายเชื่อมต่อ อาทิ

สาย LAN x 1 สายต่อไฟเลี้ยง และชุดคู่มือ

งานออกแบบ 

“้เราเตอร์แน่นะวิ ?” บอกตามตรง ตอนที่แกะกล่องยลโฉมครั้งแรก แทบจะอุทานว่า เราเตอร์จริงดิ ? นึกว่าเป็นอุปกรณ์อะไรซักอย่าง ที่มักเห็นในเกมแนว Sci-Fi ยังไงยังงั้นเลย คือสวย..ไม่สิ หล่อ หล่อมาก ๆ สำหรับตัว ROG Rapture GT- AX11000 Pro นี้ งานประกอบคือพรีเมี่ยมยกชุด ใช้วัสดุเป็นพลาสติกก็จริง แต่ไม่กล้าพูดเลยว่าเป็นพลาสติกธรรมดา จุดเกตุเล็ก ๆ น้อย ก็คือขนาดที่ใหญ่ใช่เล่น กับน้ำหนักก็มีพอควร โดยตามสเปกแล้วตัวเครื่องหนัก 2.18 กิโลกรัมกันเลย

ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีให้ทั้ง 2.5 Gigabit WAN Port x 1 ที่ส่วนใหญ่ได้ใช้กันแน่ ถัดมาคือ Gigabit LAN Ports x 1 กับช่องเสียบ USB 3.2 Gen 1 x 1 และ USB 2.0 อีก 1 พอร์ต สุดท้ายพอร์ตเชื่อมต่อแห่งอนาคตอย่าง 10 Gigabit WAN/LAN Port x 1 ที่รอวันได้ใช้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ส่วนโลโก้ ROG ด้านบน แรกนึกว่าเป็นโลโก้สะท้อนแสงทั่วไป แต่ความจริงคือไฟ LED ดีไซน์เฉพาะตัวจากทาง ASUS ROG ซึ่งจะมีความสวยงามขนาดไหน เดี๋ยวมาดูกัน

เสาสัญญาณจำนวน 8 เสาแบบ MIMO 4×4 ที่รองรับการส่งสัญญาณแบบ Tri-Band แบ่งเป็น 2.4Ghz , 5Ghz-1 และ 5Ghz-2 แบ่งใช้งานไปเลย สำหรับใครที่มีสมาชิกคนในบ้านจำนวนมาก อีกทั้งยังรองรับ AiMesh หรือสามารถหาเราเตอร์ตัวอื่น ๆ มาช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi จากตัว ROG Rapture GT-AX11000 Pro นี้ได้ด้วย

ปุ่ม WPS กับ LED ที่มาแอบซ่อนอยู่ด้านข้าง

,,,,มันเป็น ”พิธีกรรม” ครับ เห็นแล้วอดไม่ได้จริง ๆ แต่ไม่แนะนำให้เอาไปตั้งใช้งานจริง ๆ นะเออ

การใช้งาน

หลังติดตั้งอะไรแล้ว ก็โหลดแอปฯ ASUS Router แล้วทำการเพิ่มอุปกรณ์หรือตัว ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro เข้าระบบ 

หน้า Home ของตัวแอปฯ ASUS Router ซึ่งหากเราเพิ่มอุปกรณ์หรือเราเตอร์ที่เป็นตระกูลเกมมิ่งของ ASUS มันจะแปลง UI เป็น UI เกมมิ่งตามภาพเลย หรือเราจะปรับให้เป็น UI แบบปกติก็ได้

ความสนุกของ ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro ก็คือไฟ RGB บนโลโก้ ROG นี้เอง ซึ่งสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมผ่านแอปฯ ได้เลย

ทั้งนี้ในหน้า Home ก็สามารถดูค่าสถานะหลัก ๆ แบบรวดเร็วได้ด้วย ทำให้ดูสถานะการเชื่อมต่อ การใช้ความเร็ว และอื่น ๆ ได้ทันที

โหมด Game Boost กดครั้งเดียวช่วยเร่งประสิทธิภาพการเล่นเกมออนไลน์ทันที ช่วยลดค่า Ping และลดอาการแลค (ตราบใดที่ SV ของตัวเกมไปแลคซะเอง) สำหรับการใช้งานก็ตามนี้ สามารถกดผ่านแอปฯ ครั้งเดียว ตัวเราเตอร์จะปรับโหมดการทำงานสำหรับเล่นเกมออนไลน์ทันที คือง่าย ๆ มันจะผลักให้การใช้เน็ตเพื่อเล่นเกมออนไลน์ เป็นหน้าที่สำคัญอันดับหนึ่ง หรือปรับ QoS แบบอัตโมมัติให้ทันทีนั้นเอง

หรือจะปรับ QoS อื่น ๆ ด้วยตัวเองก็ได้ ซึ่งในแอปฯ ก็มีคำอธิบายให้พร้อมเลย

ด้านความปลอดภันก็มี AiProtection Pro ช่วยป้องกันภัยอันตรายจากอินเตอร์เน็ต ด้วยทาง ASUS ก็ได้จับมือกับทา Trend Micro มาช่วยสำหรับฟีเจอร์นี้โดยเฉพาะ แน่นอนว่าหากอยากใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพ ก็สามารถสมัครบริการเพิ่มเติมจากในนี้ได้

นับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แปลกใหม่ทีเดียว OpenNAT คือการ หรือจะเรียกว่าเป็น VPN รูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้เราจะมุดไปเล่นเกมออนไลน์ดัง ๆ ใน Server อื่น ๆ ที่คิดว่าเหมาะสมได้ด้วย 

ประสิทธิภาพ

ในส่วนทดสอบประสิทธิภาพนั้น ก็ยังทดสอบกับบริการเน็ตที่ใช้ในปัจจุบันอย่าง 1000/300 Mbps ซึ่งเงื่อนไขของตัว ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro คือต้องสามารถขับความเร็วให้ได้ใกล้เคียงกับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbps ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราเตอร์ที่เคยทดสอบมาหลาย ๆ รุ่น ทำได้ประมาณ 700 – 800 Mbps เท่าน้่น ส่วนตัว ROG Rapture จะทำได้ขนาดไหน ลองมาดูกันชัด ๆ ตามนี้เลย

จัดการเชื่อม Wi-Fi กับตัวเราเตอร์เรียบร้อย จุดนี้ก็จะเห็นคลื่น Wi-Fi ทั้งหมด 3 ชื่อ บ่งบอกเลยว่าเป็น Tri-Band ตามสเปก แน่นอนว่าคลื่นที่เหลือเชื่อมต่อคือ 5 GHz 

ประเดิมด้วยผลการเทสในระยะใกล้กับตัวเราเตอร์ ก็สามารถขับความเร็วได้สูงถึง 900 Mbps  

ออกห่างมาหน่อย ก็ยังได้ความเร็วไม่ต่างจากระยะแรกเลยที่ 900 Mbps กว่า ๆ

ลองออกมาอยู่อีกห้อง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งตรงกันข้าม เป็นตำแหน่งไกลสุด เดิมจุดนี้ของบ้านจะเป็นจุดอับสัญญาณ ที่ทำเอาเราเตอร์หลาย ๆ รุ่น ความเร็ว Wi-Fi ดิ่งมาเยอะแล้ว ทว่ากับตัว ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro นี้ กลับสามารถดันความเร็วได้เกือบ 800 Mbps ในค่า Ping ที่อยู่ที่ 6 ms เหมือนเคยด้วย นับว่าเกินคาดแบบสุด ๆ เป็นรุ่น Pro สมชื่อ

สุดท้ายลองเกมมิ่งกันหน่อย โดยเป็นเกมแนว Battle Royale อย่าง Super Mecha Champions ลองดูค่า Latency ที่มุมซ้ายล่างของจอ จะเห็นเลยว่าตอนนี้อยู่ที่เพียง 98 ms เท่านั้น ทว่าเป็นค่าที่ดีที่สุดนะ ค่าปกติจะอยู่ราว ๆ 130 ms แต่ก็นับว่าดีมาก ๆ แล้ว ช่วยทำให้เล่นเกมออนไลน์นี้ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดหรือแลคให้เห็นเลย

ตัวอย่างเกมเพลย์ขณะเชื่อมต่อ Wi-Fi กับตัวเราเตอร์ ASUS ROG Rapture GT-AX11000 Pro

สรุป