จากเราเตอร์ Wi-Fi เพียงตัวเดียวในบ้าน ปัจจุบันต้องมีมากกว่าหนึ่งตัวแล้ว เพื่อที่จะได้สัญญาณเน็ตครอบคลุมทั่วบ้านนี้เอง รีวิวนี้พบกับ Linksys Atlas 6 เราเตอร์แบบ Mesh Wi-Fi ประสิทธิภาพสูง รอบนี้ลดสเปกความเร็วลง เพื่อให้ได้ราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น แต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังคงอยู่ ไม่แพ้ตัวรุ่นพี่อย่าง Atlas Pro 6 ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้า สามารถมอบประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายคุณภาพสูง สำหรับทุกความต้องการภายในบ้านได้เป็นอย่างดี งการทำงานจากระยะไกล (Remote Work) การสตรีมมิ่งคอนเทนต์ระดับ 4K UHD และการเล่นเกมพร้อมกันภายในบ้าน
สำหรับสเปกของตัว Linksys Atlas 6 หลัก ๆ ก็มีความเร็ว AX3000 หรือรองรับเน็ต Wi-Fi 6 ได้สูงสุด 3 Gbps เป็น Dual-Band กับมีช่องสัญญาณระดับ 160 MHz ในย่าน 5 GHz เอาไว้สำหรับดูหนังดูสตรีมหรือเล่นเกมโดยเฉพาะ แน่นอนว่าแค่สเปกก็เขียนได้ แต่ประสิทธิภาพจะเป็นตามนี้จริงไหม ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ
รายละเอียดสเปก Linksys Atlas 6
- เร็วยิ่งขึ้นด้วย WiFi6 ตอบโจทย์กับทุกกิจกรรมที่ต้องการอินเทอร์เน็ตเร็วแรง
- ครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วย Intelligent Mesh ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน ก็สามารถเพิ่มโหนดเพื่อให้สัญญาณครอบคลุม ไร้จุดอับสัญญาณ
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย สามารถใช้งานพร้อมกันได้อย่างไม่มีสะดุด
- มีความปลอดภัยสูง มีการอัปเดต Software โดยอัตโนมัติเพื่อปกป้องเครือข่ายของคุณ
- สามารถใช้งานร่วมกับ Linksys intelligent Mesh ได้ทุกรุ่น โดยที่ไม่ต้องทิ้งตัวเก่า
- ควบคุมง่าย ผ่าน Linksys App
- สินค้าทุกรุ่นรับประกันถึง 3 ปีเต็ม
- เจ้าแรกและเจ้าเดียว ที่บริการติดตั้งให้ฟรีให้ถึงบ้าน เมื่อซื้อสินค้าในกลุ่ม Intelligent Mesh
แกะกล่อง
ให้นึกไว้เลยว่า “เราซื้อเราเตอร์ WiFi สามตัว” หากกใครกำลังซื้อตัว Linksys Atlas 6 แพ็ค 3 ซึ่งจะมาพร้อม Linksys Atlas 6 ให้กล่องให้ 3 ตัว พร้อมชุดต่อไฟเลี้ยง ที่แต่ละชุดก็มีหัวเสียบถึง 4 แบบ แถมมาให้ด้วย นอกนั้นก็มีสาย LAN ให้หนึ่งเส้น และชุดคู่มือกับใบรับประกัน
งานออกแบบ
หากใครเห็นเคยตัว Linksys Atlas 6 Pro มาแล้ว ก็คงคิดเหมือนกันว่า “ฝาแฝดชัด ๆ” คือหน้าตาแทบไม่ต่างกันเลย ยังมาในสไตล์เรียบ ๆ ไม่ได้สะดุดตา คือเหมือนทาง Linksys พยามออกแบบให้ตัวเราเตอร์ดูกลืนไปกับเครื่องใช้หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านนั้นเอง
ถ้าถามว่าส่วนเสาสัญญาณอยู่ไหน คำตอบคืออยู่ในตัวเราเตอร์เลยนั้นเอง โดยภายในตัว Linksys Atlas 6 ที่ลักษณะเป็นทรงกระบอกนี้ ข้างในมีเสาสัญญาณให้ 3 ต้น สามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ได้ทั้ง Wi-Fi 6 (802.11ax) , Wi-Fi 5 (802.11ac) , Wi-Fi 4 (802.11n) และ 802.11g กับ 802.11a รองรับ Dual-Band โดยมีคลื่น 5 GHz ที่ความเร็ว 2,402 Mbps และ 2.4 GHz ที่ความเร็ว 574 Mbps รวมกับ AX3000
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีพอร์ต Gigabit LAN ให้ 3 พอร์ต กับ Gigabit WAN 1 พอร์ต
ใต้ตัวเครื่องก็มี ‘ปุ่มเปิดปิด’ กับ ‘Reset’ และ ‘WPS’ แบบเดียวกับรุ่น Pro เลย
เทียบขนาดตัวเครื่องกับสมาร์ทโฟน เห็นได้ชัดว่าตัว Linksys Atlas 6 มีขนาดเล็กลง
การใช้งาน
“นานแต่ชัวร์” ในตอนตั้งค่าตัว Linksys Atlas 6 ด้วยความที่เป็น Mesh Wi-Fi และรีวิวนี้มีตัวเราเตอร์ Atlas 6 ให้ 3 ตัว ก็เท่ากับต้องตั้งค่าทั้ง 3 ตัวเช่นกัน แม้ขั้นตอนจะไม่ได้ยุ่งยากอะไร ซึ่งสมกับเป็น Mesh Wi-Fi โดยตัว Atlas 6 มี Step มีแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ เป็นภาษาไทยให้พร้อม แต่ยังต้องใช้ ‘เวลา’ ในการตั้งค่าแต่ละตัวอยู่ระดับหนึ่งเลย ทว่าชัวร์แน่นอน ชัวร์ยังไง และขั้นตอนการตั้งค่ากับใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันเลย
Step By Step ข้อดีอย่างหนึ่งของเราเตอร์จาก Linksys เลยคือ ติดตั้งง่าย แม้จะใช้เวลาไปบ้าง แต่ขั้นตอนแต่ละอย่างนั้น มีการอธิบายชัดเจน ทำให้ไม่สับสน และหากตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็ใช้งานได้ยาว ๆ เสถียรไปอีกนาน ทั้งหมดสามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ Linksys
ส่วนที่ใช้เวลาคืออะไร คือตอนรอให้ตัวเราเตอร์ทำการ Mesh หรือเชื่อมต่อกันเป็น Mesh Wi-Fi นั้นเอง
หน้า Home หรือ Dashboard ของตัว Linksys Atlas 6
ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ที่มีในรุ่น Pro ก็มีในตัว Linksys Atlas 6 อย่างตัว ‘ปรับแต่งภูมิภาค’ เพื่อช่วยให้วางตัว Linksys Atlas 6 ในแต่ละเครื่องหรือ ‘โหนด’ ได้ห่างกันมากขึ้น ถัดมาก็มี ‘ตัวหาช่องสัญญาณ’ ฟีเจอร์แรกช่วยให้สแกนหาช่อง Wi-Fi ที่ดีที่สุด ช้วยให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสามารถใช้งาน Wi-Fi ที่มีความเสถียรมากขึ้น และสุดท้าย ‘QoS’ หรือจัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์ หากตั้งการให้อุปกรณ์ตัวไหนเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ดีเป็นพิเศษ ก็สามารถกำหนดค่าได้ง่าย ๆ
ประสิทธิภาพ
มาถึงส่วนสำคัญของรีวิวแล้ว ‘ทดสอบประสิทธิภาพ’ ถ้าถามว่าทำไมเราถึงต้องใช้ Mesh WiFi โดยเฉพาะ Mesh WiFi ที่มีถึง 3 ตัวอย่างในรีวิว ก็ลองดูง่าย ๆ เลยว่าที่บ้านเรานั้น มีสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมทั่วถึงหรือไม่ และสามารถใช้งานเน็ตไร้สายความเร็วสูงได้ทุกที่ไหม สำหรับใครที่บ้านหรือห้องคอนโดมีขนาดกว้างหรือมากกว่า 1 ชั้น Mesh WiFi จำเป็นแน่นอน
อย่างตัวผู้เขียนรีวิวเองก็มีบ้านขนาดพื้นที่ตามนี้เลย ปกติตรงห้องนอกหลัก มักเป็นพื้นที่อับสัญญาณ โดยตัวเราเตอร์ Wi-Fi เจ้าประจำ จะตั้งอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งอยู่มุมขวาสุดตามภาพ จึงเป็นเหตุให้เน็ต Wi-Fi ในห้องรับแขกมีความเร็วลดลงไป ส่วนห้องนอนหลักแทบใช้งานไม่ได้… ฉะนั้นจึงได้ลองนำตัว Linksys Atlas 6 ทั้ง 3 ตัว มาวางกระจายโหนดตามห้องต่าง ๆ เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายไร้สายที่ครอบคลุมทั่วบ้าน
ในแอปฯ Linksys เอง ก็สามารถบอกไดเลยว่า คุณภาพสัญญาณคอนนี้ของโหนดแต่ละตัวเป็นอย่างไรบ้าง คุณภาพโอเคไหม
ประเดิมความเร็ว Wi-Fi ที่ตัวโหนดหลักในห้องทำงานก่อนเลย ผลเทสก็ได้ความเร็วระดับ 800/300 Mbps ใกล้เคียงกับเน็ต 1000/300 Mbps ที่ใช้บริการอยู่ แน่นอนว่าการที่ตัวโหนดหลักได้ความเร็วแบบนี้ นับเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากนี้ในสองห้องที่เหลือ จะได้ความเร็วปกติตามนี้เหมือนกันหรือไม่
ถัดมาในห้องรับแขก ที่ปกติความเร็วเน็ตจะถูกลดลงไปพอควร แต่หลังนำตัว Linksys Atlas 6 มาวาง ผลคือได้ความเร็ว 800/300 Mbps เท่ากับตัวโหนดหลัก ที่ตั้งอยู่ในห้องทำงานเหมือนกันด้วย
ต่อไปลองไปที่ห้องนอนหลัก ที่ซึ่งปกติสัญญาณ Wi-Fi แทบไม่เคยมาถึง แต่คราวนี้มีเน็ตความเร็วสูงระดับ 800/300 Mbps มาให้ใช้งานแล้ว
ใช้งานดีจริงไหม ลองเปิดคลิประดับ 4K ใน Youtube ดูเลยว่า สามารถชมได้ลื่นไหลแค่ไหน พิสูจน์กันแบบบ้าน ๆ ตามนี้
ลองกรอเนื้อหาคลิปไปมา ซึ่งปกติแค่ความละเอียด Full HD ก็มีหมุนให้เห็นแล้ว ทว่าตอนนี้ความละเอียด 4K กรอคลิปไปมา ก็ไม่มีอาการหมุนโหลดคลิปให้เห็นอีก (น้ำตาจะไหล)