รีวิว : ASUS Vivobook S14 Flip OLED โน้ตบุ๊ก 2-in-1 ที่ควรจะเป็น

ยอมรับเลยว่า โน้ตบุ๊ก 2-in-1 สมัยนี้ ‘ทรงพลังขึ้นมาก’ ถึงขนาดนำซีพียูระดับที่ใช้ในเครื่องเกมมิ่งมาได้ และยังอัดสเปกกับฟีเจอร์ชนิดไม่เกรงใจราคาอีกต่อไป รีวิวนี้พบกับ ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) โน้ตบุ๊ก 2-in-1 อย่างที่ควรจะเป็น มาพร้อมทั้งดีไซน์ หน้าจอ สเปก และราคา ที่งบประมาณ 3 หมื่นบาทก็ซื้อได้แล้ว ทำไมถึงบอกว่าควรจะเป็น และคุ้มงบ 30K แค่ไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ

รายละเอียดสเปก ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) 

Processor : Intel® Core™ i5-12500H 2.5 GHz (18M Cache, up to 4.5 GHz, 4P+8E cores)
GPU : Intel® UHD Graphics
Memory : 8GB DDR4 (ออนบอร์ด)
Display : 14″ 2.8K (2880 x 1800) 16:10, OLED
Storage : 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
Wi-Fi : Wi-Fi 6 (802.11ax)
Bluetooth : 5.0
Battery : 70Wh, 3-cell
Webcam : 720p HD
Security : FingerPrint
Port : USB 2.0 Type-A x 1 , USB 3.2 Gen 2 Type-A x 1 , Thunderbolt™ 4 x 1 , HDMI 2.0a x 1 , DC-in x 1
Dimension : 31.32 x 22.76 x 1.89 มม. (หนัก 1.5 กก.)
OS : Windows 11 Home
Color : Quiet Blue

แกะกล่อง

งานออกแบบ

หน้าตาของ ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ให้ว่าตามตรง ตัวเครื่องดูดีได้เพราะหน้าจอ OLED เลย คือจอมันคมสะดุดตามาก ๆ จนเผลอมองก่อนดูหน้าตาตัวเครื่อง ก็ว่าไปครับ Vivobook รุ่น 2022 รอบนี้เหมือนทาง ASUS ตั้งใจออกแบบในธีม Creator โดยเฉพาะ ดูได้จากตัวเครื่อง ที่มีทั้งลวดลายไม้บรรทัด ลาย Construction และดีไซน์โดยรวมที่เน้นเรียบ ๆ ไม่หวือหวา ยิ่งให้อารมณ์เหมือนเป็นอุปกรณ์สำหรับสายออกแบบยังไงยังงั้น

และแม้จะเป็น Vivobook ซีรีส์โน้ตบุ๊กระดับ Mid-Range แต่ก็ใช้วัสดุซึ่งเป็นอลูมีเนียมทั้งตัว และงานประกอบแน่นหนา จนเกือบเทียบได้กับตัว Top ของ ASUS อย่าง ZenBook ซีรีส์ได้แล้ว แต่เรื่องความบางเบายังคงตามหลัง โดยตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 31.32 x 22.76 x 1.89 มม. และน้ำหนัก 1.5 กก. ถือว่าไม่หนามาก แต่ก็ไม่บางกับเบามากเช่นกัน

2-in-1 อย่างที่ควรจะเป็น

เป็นหัวข้อที่ขอเพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษเลย ทำไมถึงบอกว่า ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) เป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 อย่างที่ควรจะเป็น เดี๋ยวลองมาไล่ดูกันทีละส่วนตามนี้เลย

หน้าจอคุณภาพ

 

ขึ้นชื่อว่าโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ก็ต้องมาพร้อมจอสัมผัส และต้องเป็นจอสัมผัสที่คุณภาพสูงด้วย เพราะเป็นส่วนที่จะได้ใช้งานเป็นหลักนั้นเอง และสำหรับ ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ก็มาพร้อมหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ซึ่งนับเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับพกพา และยังเป็นจอ OLED ที่มีความคมชัดมากเป็นพิเศษ ทั้งยังมีความละเอียดมากถึง 2.8K (2880 x 1800) กับมีสัดส่วน 16:10 ซึ่งมีความกว้างกว่าจอทั่ว ๆ ไปที่ใช้สัดส่วน 16:9 นอกจากความคมชัดและขนาดพอเหมาะแล้ว ตัวจอยังมีขอบเขตสี DCI-P3 ถึง 100% ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจอระดับนี้ จะมาอยู่ในโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ราคาเพียง 3 หมื่นบาทต้น ๆ เกินคุ้มสุด ๆ

ปากกา 4096 ระดับ 

 

บอกเลยว่าหากตัวเครื่องไม่แถมปากกาในกล่อง จะอดได้ชื่อ ‘โน้ตบุ๊ก 2-in-1 อย่างที่ควรจะเป็น’ แน่นอน ถัดจากหน้าจอที่คุณภาพสุด ๆ แล้ว ก็มีตัวปากกา ASUS Pen 2.0 ที่แถมให้ในกล่อง และยังรองรับแรงกดได้มากถึง 4096 ระดับ ซึ่งเป็นแรงกดที่มากพอให้ใช้งานได้เหมือนกับปากกาจริง ๆ นั้นเอง หรือเอาไปวาดรูปก็ยังได้ นอกจากจะรองรับแรงกดได้มากแล้ว ตัวปากกาสามารถชาร์จไฟผ่าน USB-C ได้ด้วย ไม่ต้องหาถ่านมาใส่เหมือนปากกา Stylus ในโน้ตบุ๊ก 2-in-1 หลาย ๆ รุ่น

พูดถึงตัวปากกาแล้ว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ยังมีของที่ควรหามาใช้งานร่วมกันอีกอย่างคือ ASUS MD100 เป็นเมาส์ไร้สายร่างบาง ที่สามารถถอดเปลี่ยนฝาหลังได้ กับมีสายคล้องเก๋ ๆ ติดมาให้ด้วย เอาไว้ใช้คู่กันเพื่อความสวยงาม แต่ไม่แถมนะเออ : b

บานพับทนทาน

ส่วนสำคัญของโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ประเภทจอพับ 360 องศาเลยคือ บานพับต้องทนทาน ในส่วนนี้ทาง ASUS เคลมเลยว่า ผ่านการทดสอบเปิดและปิด 20,000 รอบ มาแล้ว การันตีความทนทานได้เลย ซึ่งเอาจากที่ลองพับด้วยตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าทนจริง

มีพอร์ต Thunderbolt 

ตัวเครื่องมาพร้อม Thunderbolt™ 4 ซึ่งนับเป็นพอร์ตที่ใช้งานได้ครอบจักรวาลมาก ๆ ทั้งใช้ต่อจอ ต่อ eGPU และรองรับการส่งข้อมูลความเร็วสูงถึง 40Gbps โดยปกติพอร์ตเชื่อมต่อนี้ มักจะอยู่ในโน้ตบุ๊กที่มีราคาสูง แต่ตัว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 3 หมื่นนั้น กลับมีพอร์ตนี้ด้วย ซึ่งช่วยให้การใช้งานในฐานะโน้ตบุ๊ก 2-in-1 สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก เช่น เอาไว้ต่อ Hub USB ขยายช่องเชื่อมต่อได้ในสาย USB-C เพียงเส้นเดียว เวลาออกไปข้างนอก ก็ดึงสายออกครั้งเดียว แล้วเดินหิ้วตัวเครื่องไปได้เลย ไม่ต้องมาค่อยถอดสายเชื่อมต่อทีละสายเหมือนก่อนแล้ว

ในฐานะโน้ตบุ๊ก 2-in-1

สำหรับข้อดีจะขอสรุปภาพรวมทั้งหมดของตัว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ว่าใช้งานในฐานะโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ได้ดีจริงไหม อย่างแรกเราคงได้เห็นทั้งตัว หน้าจอ ปากกา บานพับ และ Thunderbolt™ 4  มาแล้ว ซึ่งตัวเครื่องมีครบทุกอย่าง และสุดจัดทั้งหมดด้วย ก็เรียกได้เต็มปากแล้วว่าเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1  อย่างที่ควรจะเป็น แต่ยังมีอีกสิ่งที่จะทำให้ตัวเครื่องเรียกแบบนี้ได้จริง ๆ และสมกับเป็น ‘โน้ตบุ๊ก PC’ จริง ๆ ด้วย นั้นคือ ‘ประสิทธิภาพ’ ซึ่งจะอยู่ในหัวข้อถัดไปนี้เลย

ประสิทธิภาพ

ขุมพลังหลัก ๆ ตัวเครื่องคือ Intel® Core™ i5-12500H เป็นซีพียูระดับ H-Series (High performance graphics) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าซีพียูในโน้ตบุ๊กหลาย ๆ รุ่น ที่มักใช้เป็น U-Series หรือ P-Series ที่ลดประสิทธิภาพไปบางส่วน เพื่อให้ใช้งานแบตฯ ได้นานขึ้น และมีความร้อนน้อยลงนั้นเอง คำถามคือ ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ที่ใช้ซีพียูระดับ i5-12500H นี้ จะใช้งานแบตฯ ได้นานแค่ไหน ร้อนไหม และมีประสิทธิภาพจริงไหม เดี๋ยวมาลองพิสูจน์ให้เห็นกันครับ

รายละเอียดตัวซีพียู Intel® Core™ i5-12500H และคะแนนความแรงทั้ง Single Core กับ Muti Core

รายละเอียดแรมขนาด 8GB DDR4 ที่มาพร้อมความเร็วบัส 3200 MHz

สำหรับซีพียู Intel® Core™ i5-12500H ที่ใช้ใน ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) นั้น ตัวเครื่องจะมีเลือกระหว่าง Intel® UHD Graphics กับ Intel® Iris Xe Graphics ที่แรงขึ้นมาหน่อย แต่สำหรับตัวเครื่องที่รีวิวนี้คือ Intel® UHD Graphics เดี๋ยวลองมาดูความแรงกัน

ลองเทส Cinebench R15 ได้ Open GL ไป 72.15 fps ด้าน CPU ได้ 2085 cb ส่วน Cinebench R20 ได้ 4712 pts และสุดท้าย Cinebench R23 ก็ได้คะแนนไปอีกที่ 12387 pts สำหรับ Mutli Core และ 1737 pts สำหรับ Single Core แรงสมฐานะ Intel Core i5 ระดับ H-Series ที่พอเอาไปตัดต่อวิดีโอหรืองานกราฟฟิกได้อยู่

ส่วนตัดต่อวิดีโอหรืองานกราฟฟิกได้ขนาดไหนนั้น ลองดูผ่านการเทส PC Mark 10 ที่จะวัดความแรงหรือประสิทธิภาพทั้งหมดของตัว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) ผลคือได้คะแนนไป 5506 ถือเป็นคะแนนที่กำลังดีเลย เอาไปใช้งานได้หลากหลาย

ความเร็วอ่านเขียน SSD ขนาด 512GB ที่ตัวเครื่องใช้ ก็มีความเร็วอ่านที่ 3695 MB/s ส่วนความเร็วเขียนได้ 3355 MB/s ความเร็วถือว่าไม่มากไม่น้อย แต่ยังดีที่ตัวเครื่องรองรับ SSD แบบ PCIe® 4.0 ก็สามารถหา SSD Gen 4 ที่มีความเร็วสูงกว่านี้มาใส่เพื่ออัปเกรดได้

มาถึงส่วนทดสอบประสิทธิภาพแบตฯ แล้ว สำหรับตัวเครื่องก็สามารถใช้งานได้นานถึง 14 ชั่วโมง !! ถือว่าใช้ได้นานเกินคาดมาก ๆ กับตัวเครื่องที่ใช้ซีพียูระดับ H-Seires นี้

สุดท้ายลองทดสอบการระบายความร้อย ส่วนนี้ก็พบเลยว่า ‘ร้อน’ อุณหภูมิตอนใช้งานแบบเต็มที่ ก็เฉลี่ยอยู่ประมาณ 89 องศา และสูงสุด 96 องศา

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    (4.5)
  • สเปค / ฟีเจอร์
    (4)
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    (5)
4.5

Summary

ข้อดีของโน้ตบุ๊ก 2-in-1 คือ การใช้งานที่หลากหลาย สามารถใช้งานได้มากกว่าโน้ตบุ๊กทั่ว ๆ ไป แต่จะใช้ได้ดีขนาดนั้น ก็เป็นโจทย์ที่ผู้ผลิตต้องเก็บไปคิดกัน แล้ว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) โอเคไหม คำตอบคือ โอเคมาก ๆ ในงบ 3 หมื่นบาทนี้ คือตัวเครื่องยังไม่ถือว่าเป็นสุดยอดโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ซะทีเดียว

แต่ในงบนี้ เรากลับได้ฟีเจอร์แบบที่เมื่อก่อนไม่มีแน่ ๆ อย่าง พอร์ต Thunderbolt™ 4 ที่ปกติจะมีเฉพาะในโน้ตบุ๊กราคาสูงเท่านั้น หน้าจอ 2.8K ที่ปกติจะได้แค่ Full HD อีกทั้งยังได้ปากกาที่รองรับแรงกด 4096 ระดับ แถมให้ในกล่องเลยด้วย และสุดท้ายซีพียูระดับ Intel® Core™ i5-12500H ที่เมื่อก่อนคงเป็น U-Series รุ่นประหยัดพลังงาน ทำให้ใช้งานอะไรไม่ได้มาก

นอกจากนี้ตัวเครื่อง ยังมาพร้อมวัสดุและงานประกอบที่ดูดีเกินคาด แม้จะไม่สุดเหมือนโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ระดับสูง แต่เท่านั้นก็นำไปใช้โชว์นอกสถานที่ได้ดีแล้ว ด้านขนาดก็มีความบางอยู่ที่ 1.89 ซม. กับน้ำหนัก 1.5 กก. ถือว่าบางเบาพอควรแล้ว

สุดท้ายนี้ตัว ASUS Vivobook S14 Flip OLED (TP3402ZA) เปิดราคาเริ่มต้นที่เพียง 31,990 บาท เท่านั้น ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้จากตัวเครื่องอยู่ไม่น้อยเลยครับ

Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article