หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับใครที่ทำงานด้าน Creator ไม่ว่าจะเป็น ตัดต่อ แต่งภาพ กราฟฟิก และอื่น ๆ ทั้งหมดย่อมต้องมีจอ Monitor ที่คู่ควร ซึ่งต้องไม่ใช่จอเกมมิ่ง หรือจอทั่ว ๆ ไป แต่เป็นจอที่มีการแสดงผลสีที่เที่ยงตรง  แน่นอนว่ายิ่งสเปคสูงมากเท่าไร ราคาก็ยิ่งแพงเช่นกัน ทว่าไม่ใช่กับจอที่จะมารีวิวในครั้งนี้ 

พบกับ ASUS ProArt Display PA247CV จอสำหรับทำงานด้านสี จุดเด่นอยู่ที่การแสดงผลของสี ทั้ง sRGB / 100% , Rec. 709 100%  ผ่านการทำคาลิเบรท มาจากโรงงานด้วยมาตรฐาน Delta E < 2 โดยได้รับการรับรองจาก Calman เรียกได้ว่าเป็นจอที่ให้สีตรงมาก ๆ รุ่นหนึ่ง อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อสาย USB-C to USB-C กับโน๊ตบุ๊คได้ในเส้นเดียว โดยไม่ใช้สายไฟเลี้ยงกับโน๊ตบุ๊คเลยด้วย ทั้งหมดนี้เปิดราคาเพียงหมื่นต้น ๆ เท่านั้น ฉะนั้นรีวิวนี้ลองมาดูกันว่า จอสำหรับทำงานด้านสีตัวนี้ จะใช้งานได้ดีจนสวนทางกับราคาที่ไม่โปรหรือไม่กันครับ

ASUS ProArt Display PA247CV Specification

• Panel Size (inch) : 23.8
• Pixels Per Inch (PPI) : 93
• Aspect Ratio : 16:9
• Display Viewing Area (H x V) : 527.04 x 296.46 mm
• Display Surface : Non-Glare
• Backlight Type : LED
• Panel Type : IPS
• Viewing Angle (CR≧10, H/V) : 178°/ 178°
• Pixel Pitch : 0.2745mm
• Resolution : 1920×1080
• Color Space (sRGB) : 100%
• Brightness (Typ.) : 300cd/㎡
• Contrast Ratio (Typ.) : 1000:1
• ASUS Smart Contrast Ratio (ASCR) : 100000000:1
• Display Colors : 16.7M
• Response Time : 5ms(GTG)
• Refresh Rate (Max) : 75Hz
• Touch : ไม่มี
• Protection Glass : ไม่
• Flicker-free : มี

แกะกล่อง

ตัวกล่องของ ProArt Display PA247CV มีการแปะชื่อพร้อมรูปร่างของตัวจอไว้ชัดเจน จุดน่าสนใจคือมีคำว่า ‘Calman Verified’ ซึ่งเป็นตรายืนยันว่าตัวจอ ได้รับการตรวจสอบแล้วว่า “มีความแม่นยำของสีที่ไร้ที่ติ” โชว์ให้เห็นตั้งแต่หน้ากล่องไปเลยว่า ของจริง !!

ส่วนอุปกรณ์ในกล่อง นอกจากตัวจอแล้ว ก็มีสาย USB-C to USB-C (Gen 1) มาให้ เอาไว้สำหรับต่อรับสัญญาณภาพจากเครื่อง Desktop PC (ที่มีช่อง USB-C) หรือโน๊ตบุ๊คซึ่งหากต่อกับโน๊ตบุ๊คแล้ว ตัวสายจะส่งไฟเลี้ยงให้ด้วย ซึ่งจะใช้งานยังไงนั้นเดี๋ยวรอดูได้ ถัดจากสาย USB-C ก็มีสาย DisplayPort มาให้อีกเส้น

งานออกแบบ

หน้าตาของ ASUS ProArt Display PA247CV ว่ากันตามตรงเลย Creator ถูกใจแน่ ๆ คือหน้าตาหรือดีไซน์ตัวจอ ให้อารมณ์เลยว่าเป็นจอสำหรับงานออกแบบโดยแท้ ส่วนวัสดุและงานประกอบก็ดูดีทีเดียว เห็นครั้งแรก รู้เลยว่าเกินหมื่นแน่ ๆ …ซึ่งก็เกินจริง ๆ ด้วย

บริเวณปุ่มกด มีการเล่นลายเป็นขีด ๆ เหมือนไม้บรรทัด เผื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ในงานออกแบบบางชิ้นหรือบางชนิดได้เลย

โดยด้านหลังจะมาพร้อมช่องสำหรับจัดเก็บสาย

แบบนี้

ตัวจอนั้น Ergonomic Stand Design หรือออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ สามารถปรับ สามารถปรับขึ้น-ลงได้ตั้งแต่ 0 – 130 mm , เอียด หรือ หมุน ได้ตั้งแต่ +90 – 90 องศา รวมไปถึงปรับก้ม-เงยได้ตั้งแต่ +35 – 5 องศา

ในส่วนขาตั้งนั้นเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักตัวจอ และเพิ่มความมั่นคงในการใช้งาน 

การใช้งาน

ตามสเปกเลยคือ ASUS ProArt Display PA247CV เป็นจอ Monitor แบบ IPS ขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) มาพร้อมทั้ง sRGB / 100% กับ Rec. 709 100% มาตรฐาน Delta E < 2 และรองรับ Refresh Rate 75Hz ถ้าตามหน้ากล่องด้วย ก็มีใบรองรับความแม่นยำของสีจากทาง Calman Verified ให้อีกด้วย โปรไฟล์โดยรวมบอกเลยว่าหรูมาก เป็นจอที่เกิดมาเพื่องาน Creator ตั้งแต่รูปลักษณ์ไปยันสเปกและฟีเจอร์กันเลย

เริ่มจากเมนูควบคุมหน้าจอ ก็มีตัวเลือกของโหมดการแสดงผลเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานหลายๆรูปแบบ 

โดยยังมาพร้อมเทคโนโลยี Eye Care สามารถปรับระดับแสงฟ้าได้ถึง 4 ระดับ 

และไฮไลท์เด็ดของจอตัวนี้เลยคือ “The USB-C That Does It All” สาย USB-C เส้นเดียวก็พอแล้ว ซึ่งจุดนี้ได้อานิสงส์จากพอร์ต USB-C ของตัวจอที่รองรับ Power Delivery หรือต่อไฟเลี้ยงได้ 65W ทำให้สามารถต่อสาย USB-C ตัวโน้ตบุ๊คได้ในเส้นเดียวเลย ไม่ต้องต่อสายไฟเลี้ยงกับโน้ตบุ๊คเพิ่มเติมอีก

ยืนยันว่ามีไฟเลี้ยงจากตัวจอ Monitor เข้ามาในโน้ตบุ๊คผ่านสาย USB-C ได้จริง

ถามว่าต่อสาย USB-C เส้นเดียวแบบนี้ได้มันดียังไง ก็สมมุติว่าเราต้องการนำโน้ตบุ๊คไปใช้งานข้างนอก ก็สามารถถอดสาย USB-C เส้นเดียวได้เลย จากนั้นกลับมาก็นำโน้ตบุ๊คไปต่อกับสาย USB-C เส้นเดียวอีกเช่นเดียวกัน สะดวกสุด ๆ ไม่ต้องมาคอยต่อสายนู้นนี้นั้นอะไรให้วุ่นวาย

ทั้งนี้ตัวจอก็ยังเป็น Hub USB ในตัวด้วย และให้มาค่อนข้างครบเลยทีเดียวอาทิ USB-C x 2 , USB 3.2 Gen 1 Type-A x 4 และช่องเสียงหูฟัง 3.5 มม ซึ่งช่วยให้ลดภาระของพอร์ต USB ที่อาจมีน้อยนิดในตัวโน้ตบุ๊กบางรุ่นได้นั้นเอง ในส่วนนี้ก็สังเกตได้อีกว่า ตัวจอมีพอร์ตรับสัญญาณภาพนอกจาก USB-C (PD 65W) แล้ว ก็มีทั้ง DisplayPort 1.2 x 2 กับ HDMI(v1.4) x 1 ให้ด้วย 

ประสิทธิภาพการแสดงผล

ในส่วนของการแสดงผลนี้ จากที่ใช้งานก็ต้องยอมรับจากใจเลยว่า ให้สีสันได้คมและตรงสุด ๆ นับว่าเป็นจอ Monitor ที่ออกแบบมาสำหรับงานด้านนี้โดยแท้ 

ในส่วนนี้เดี๋ยวจะให้ดูการแสดงผ่านคลิป พร้อมกับทดสอบเสียงลำโพงจากตัวจอไปด้วยเลย ลองดูได้ตามนี้

สรุป