จุดแข็งอย่างหนึ่งของ ‘คอมฯ ประกอบ’ คือ กำหนดสเปกได้คุ้มกับงบที่มี และสามารถเลือกชิ้นส่วนที่ชอบแล้วนำมาประกอบด้วยตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชี่ยวชาญเรื่องนี้ หรือบางคนอยากได้แบบครั้งเดียวจบไปเลย และนั้นเองจึงเป็นที่มาของ ‘คอมฯ ประกอบแบบสำเร็จรูป’ อีกทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้คอมฯ ตั้งโต๊ะ (Desktop PC) แต่ขอแบบเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานได้ทันที และมีประกันที่ครอบคลุมทั้งชุด ไม่ต้องถอดทีล่ะส่วนไปเคลม
รีวิวนี้พบกับ MSI MAG Infinite S3 เครื่อง Gaming Desktop สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน กับสเปกซีพียู Intel Core i5-11400F + การ์ดจอ GTX1650 SUPER พร้อมแรม 16GB กับ SSD ขนาด 512GB ในราคาเพียง 3 หมื่นบาทกลาง ๆ มาพร้อมเคสดีไซน์เฉพาะตัว และไฟ RGB ที่แต่งมาให้เลย จะใช้งานได้ขนาดไหน งานประกอบดีไหม และระบายความร้อนโอเคไหม ลองมาดูกันครับ
รายละเอียดสเปก MSI MAG Infinite S3
CPU : Intel Core i5-11400F
VGA :NVIDIA GeForce GTX 1660 Super Ventus XS OC
Chipset : Intel H510
RAM : 16GB DDR4 3200MHz (มี 2 ช่อง ใส่ได้สูงสุด 32GB)
SSD : 512GB NVMe SSD
PSU : 500W 80 Plus Bronze certified (ATX)
Wireless : Wi-Fi 6E AX210 และ Bluetooth 5.2
Port : ด้านหน้า Headphones x 1 , Microphone x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type C x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type A x 1 ด้านหลัง HDMI x 1 , VGA (D
-sub) x 1 , Display Port x 1 , USB 2.0 Type A x 2 , PS/2 Combo port x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type A x 2 , RJ45 (1G LAN) x 1 และ Audio jacks x 3
OS : Windows 11 Home
แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องก็ประกอบไปด้วยตัวเครื่อง MSI MAG Infinite S3 พร้อมกับฝาปิดเคสแบบทึบและชุดคู่มือกับใบรับประกัน นอกนั้นก็มีชุดคียบอร์ดกับเมาส์เกมมิ่งที่มาพร้อมไฟ RGB ทั้งคู่
หน้าตาชุดคียบอร์ดกับเมาส์เกมมิ่งจากตัว MSI MAG Infinite S3
งานออกแบบ
ลองมาดูหน้าตาหล่อ ๆ ของตัว MSI MAG Infinite S3 ก่อนเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีความต่างจากคอมฯ ประกอบแบบสำเร็จรูปทั่วไปจริง ๆ ตัวเคสออกแบบมาให้รู้เลยว่า นี่คือเครื่องเกมมิ่ง สวยมาก และหล่อมากเช่นกัน อีกทั้งมีขนาดไม่ใหญ่มากด้วย
มีไฟ RGB อยู่ด้วยกัน 2 จุด ตรงด้านหน้าเคส และส่วนพัดลมซีพียู ที่เห็นผ่านเคสกระจกจากด้านนอกได้เลย
ไฟ RGB สวย ๆ จากพัดลมระบายความร้อนซีพียู
การใช้งาน/อัปเกรด
ส่วนสำคัญของคอมฯ ประกอบแบบสำเร็จรูป โดยเฉพาะของเครื่องเกมมิ่ง นั้นคือการอัปเกรด สำหรับตัว MSI MAG Infinite S3 จะเห็นเลยว่าภายในมีส่วนอัปเกรดได้ตั้งแต่แรมที่เหลือว่างอีกหนึ่งแถว กับช่อง SATA ให้ใส่ HDD หรือ SSD แบบ SATA ได้อีกอย่างล่ะ 2 ตัว หรือจะเปลี่ยน SSD เดิมที่เป็นของ WD ในช่อง M.2 ก็ได้ (แต่ต้องลง Windows ใหม่นะเออ) ส่วนซีพียูกับการ์ดจอก็เป็น Intel Core i5-11400F + การ์ดจอ GTX1650 SUPER จะเปลี่ยนก็ได้เช่นกัน
โดยทาง MSI ก็เปิดโอกาสให้อัปเกรดได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องประกันหลุด ขอแค่ไม่ทำให้ชิ้นส่วนเดิมเกิดความเสียหาย เช่น ไฟไหม้ หรือ ชิ้นส่วนหัก ก็เป็นพอแล้ว ส่วนเรื่องประกัน ตัวเครื่องมาพร้อมประกัน Pick Up & Return on Site
ปกติหากเราซื้อคอมประกอบที่ทางร้านจัดสเปคจากหลาย ๆ แบรนด์มาให้ หากเกิดปัญหาเราอาจจะต้องเช็คด้วยตัวเองหรือยกเครื่องไปให้ที่ร้านที่ซื้อมาช่วยเช็คว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากชิ้นส่วนใดที่มีปัญหา และเราอาจจะต้องดำเนินการติดต่อเพื่อเคลมสินค้ากับแบรนด์นั้น ๆ เองโดยตรง นอกจากนี้เราอาจจะต้องคอยนั่งจำว่าสินค้าแต่ละชิ้นในคอมประกอบที่เราซื้อมามีระยะเวลาการรับประกันกี่ปีซึ่งจะแตกต่างกันตามแต่ละแบรนด์กำหนด
แต่หากเราซื้อคอมประกอบที่ทางร้านจัดสเปคจากหลายๆแบรนด์มาให้ หากเกิดปัญหาเราอาจจะต้องเช็คด้วยตัวเองหรือยกเครื่องไปให้ที่ร้านที่ซื้อมา ช่วยเช็คว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากชิ้นส่วนใดที่มีปัญหา และเราอาจจะต้องดำเนินการติดต่อเพื่อเคลมสินค้ากับแบรนด์นั้นๆเองโดยตรง นอกจากนี้เราอาจจะต้องคอยนั่งจำว่าสินค้าแต่ละชิ้นในคอมประกอบที่เราซื้อมามีระยะเวลาการรับประกันกี่ปีซึ่งจะแตกต่างกันตามแต่ละแบรนด์กำหนด
ซึ่งนับเป็นจุดเด่นที่สำคัญของคอมสำเร็จรูปเกมมิ่งของ MSI คือ การรับประกัน 3 ปีทุกชิ้นส่วน ถ้าหากคอมพิวเตอร์มีปัญหาสามารถติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญของ MSI เพื่อเช็คปัญหาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เลย ซึ่งถือว่าเป็นเหมือน one stop service ที่เราไม่ต้องวิ่งเคลมสินค้าแต่ละชิ้นเองหรือต้องมาคอยนั่งจำว่าสินค้าชิ้นใดประกันกี่ปี
จุดสังเกตอีกหนึ่งอย่างคือ ตัวเครื่องมาพร้อมตัวรับ Wi-Fi 6E ให้เลย โดยมีเสาสัญญาณให้ 2 เส้น ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็มีตามนี้ HDMI x 1 , VGA x 1 , Display Port x 1 , USB 2.0 Type A x 2 , PS/2 Combo port x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type A x 2 , RJ45 (1G LAN) x 1 และ Audio jacks x 3 ส่วนด้านหน้าก็ Headphones x 1 , Microphone x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type C x 1 , USB 3.2 Gen 1 Type A x 1 ด้านหลัง
ไฟ RGB ตัวเครื่องสามารถปรับเอฟเฟคได้ผ่าน MSI Mystic Light ตามนี้เลย
MSI MAG Infinite S3 แบบพร้อมใช้งานก็จะประมาณนี้
ประสิทธิภาพ
สเปกหลัก ๆ ของตัวเครื่องคือมีซีพียู Intel Core i5-11400F พร้อมชิปเซ็ตหรือ M/B แบบ Intel H510 กับการ์ดจอ GTX 1660 Super Ventus XS OC แรม 16GB DDR4 3200MHz (Single Channel) และ SSD ขนาด 512GB แบบ NVMe ลองมาดูกันว่าสเปกที่เป็นตัวระดับเริ่มต้นนี้ จะให้ประสิทธิภาพได้ขนาดไหน
รายละเอียดสเปก Intel Core i5-11400F + GTX1650 SUPER
ประเดิมด้วย Cinebench R23 ก็ได้คะแนนไปที่ 6699 pts สำหรับ Mutli Core และ 1247 pts สำหรับ Intel Core i5-11400F
ส่วน Cinebench R15 ได้ Open GL ไป 152.20 fps ตัว CPU ได้ 1278 cb
ด้าน PC Mark 10 ก็ได้ไป 5817 คะแนน ถือว่าสูงนะ ใช้งานได้ดีทั้งกราฟฟิก งานทั่ว ๆ ไป ส่วนเล่นเกมก็
ดูได้จากผลเทส 3D Mark ตัวเครื่องหรือการ์ดจอ GTX 1650 ก็ดัน Fire Strike ได้ไป 8064 คะแนน ส่วนสูงขี้นมาหน่อยอย่าง Fire Strike Extreme ก็ได้ 3909 คะแนน ส่วน Fire Strike Ultra ได้ 1906 คะแนน นับว่าเป็นคะแนนสมฐานะตัวการ์ดจอ
เทสความเร็วอ่านเขียนของ SSD ขนาด 512GB ก็ได้ความเร็ว 2481 MB/s สำหรับอ่าน และเขียนที่ 1787 MB/s ตามสเปก SSD ที่มาจาก WD Blue
และส่วนสำคัญอย่างระบบระบายความร้อน ลองเทสผ่าน FurMark โปรแกรมทรมาณเครื่องเจ้าเก่า ผลคือมีความร้อนเฉลี่ยที่ประมาณ 60 องศาเท่านั้น ถือว่าระบายความร้อนได้ดีมาก ๆ แต่ส่วนนี้ต้องบอกก่อนว่า เทสในห้องแอร์ของห้องสตู ถ้าเป็นพื้นที่ไม่มีแอร์ ก็อาจอยู่ราว ๆ 60 – 70 องศา
และสำหรับการเล่นเกม ในที่นี้ก็ได้ลองเทสเกมดังอย่าง Elden Ring ที่แม้ตัวเกมจะมี fps ตันที่ 60fps เท่านั้น แต่สำหรับสเปกเริ่มต้นนี้ ลองมาดูว่าสามารถดันได้ใกล้กับ 60fps แค่ไหนกัน
ปรับสุดหมด ก็สามารถดันได้ราว ๆ 48 – 54 fps กันเลย ถือว่าโอเคเลยนะ
แถมท้ายด้วยเกม FFXV ปรับ High ก็ได้ 3458 คะแนน ยังเล่นได้ลื่น ๆ อยู่ กระตุกเล็กน้อย