ก่อนหน้านี้เคยรีวิวตัว MR70X รุ่นก่อนที่มีหน้าตาเหมือนกันราวกับแฝด หากแต่ตอนนั้นเป็นเราเตอร์ wi-Fi 6 ที่มีความเร็ว AX1800 หรือ 1.8 Gbps รอบนี้มาเป็น MERCUSYS MR80X เราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่มาพร้อมความเร็วระดับ AX3000 หรือ 3 Gbps กันเลย ช่วยให้รองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับ 1000 Mbps ได้ดีขึ้น และรองรับการใช้งานได้หลายอุปกรณ์ โดยมีทั้ง OFDMA และ MU-MIMO1 เป็นตัวช่วย ส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลขึ้น และยังมีแบนด์วิดธ์สำหรับคลื่น 5GHz มากถึง 160 MHz ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ “เข้าถึงง่าย” เหมือนเคย ซึ่งจะใช้งานได้คุ้มค่ากับงบไม่เกิน 2 พันบาทขนาไหน ลองมาดูกันครับ
ฟีเจอร์เด่น MERCUSYS MR80X
- WIFI ที่เหมาะสมที่สุด 6 สปีด – ความเร็ว WiFi 6 ที่เหมาะสมที่สุดถึง 3 Gbps เพื่อการท่องเว็บ สตรีมมิ่ง และดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ในเวลาเดียวกัน
- อุปกรณ์มากขึ้น สนุกมากขึ้น – รองรับ MU-MIMO และ OFDMA เพื่อลดความแออัดและเพิ่มปริมาณงานเฉลี่ยสูงขึ้นสี่เท่า
- WiFi ที่ไปได้ไกลกว่า – เสาอากาศกำลังสูงแบบหลายทิศทาง 4x พร้อม Beamforming เพิ่มการเชื่อมต่อที่เสถียรทั่วทั้งบ้านของคุณเพื่อสัญญาณ WiFi ที่แรงในทุกมุม
- การป้องกันความปลอดภัยโดยรวม –เทคโนโลยี WPA3 ล่าสุดให้การรักษาความปลอดภัย WiFi ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ล่าสุด
- การเชื่อมต่อแบบมีสาย GIGABIT – ใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคุณอย่างเต็มที่และถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- ประหยัดพลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – Target Wake Time (TWT) ช่วยลดการใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์ IoT ของคุณในระหว่างการส่งข้อมูล
- สัญญาณรบกวน WiFi น้อย– ลดสัญญาณรบกวนจากสัญญาณข้างเคียงให้น้อยที่สุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการส่งสัญญาณด้วย BSS Coloring
- SMART CONNECT – เลือกแบนด์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละอุปกรณ์อย่างชาญฉลาด
แกะกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วยตัว MERCUSYS MR80X กับสาย LAN x 1 ชุดไฟเลี้ยง และชุดคู่มือกับใบรับประกัน
ดีไซน์
หากใครไม่เคยเห็นรุ่นก่อนหน้าอย่าง MR70X มาก่อน ก็ต้องยอมรับว่าตัว MERCUSYS MR80X มีดีไซน์ที่แอบดุดันคล้ายกับเราเตอร์เกมมิ่งอยู่นิด ๆ เหมือนกัน มีการเล่นลวดลายด้านบน เพื่อให้ไม่ดูโล้นจนเกินไป แต่มีส่วนที่เป็นพลาสติกผิวเงา ที่ช่วยให้ตัวเราเตอร์ดูสวยงามขึ้น แต่ก็แอบเป็นรอยง่ายด้วยเหมือนกัน
MERCUSYS MR80X มาพร้อมเสาสัญญาณ 4 เสา 4 × 5 dBi Fixed Omni-Directional Antennas รองรับการปล่อย 802.11ax หรือ Wi-Fi 6 แบบ Dual Band แบ่งเป็นคลื่น 2.4 GHz ที่ความเร็วสูงสุด 574 Mbps กับคลื่น 5 GHz ที่ความเร็วสูงสุด 2402 Mbps
พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังเป็น Gigabit ทั้งหมด โดยมี Gigabit WAN Port x 1 และ Gigabit LAN Ports x 3
ติดตั้งและใช้งาน
การติดตั้งและใช้งานตัว MERCUSYS MR80X ก็ยังทำได้ง่าย ๆ เพียบแค่เสียบปลั๊กกับสาย LAN ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้รหัส Wi-Fi จากใต้มาใช้งานได้เลย แต่ก็เหมือนทุก ๆ รีวิว ผมยังคงแนะนำให้ตั้งค่ารหัส Wi-Fi ใหม่ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้สามารถตั้งค่าตัวเราเตอร์ได้ภายหลัง
MERCUSYS MR80X ยังคงต้องตั้งค่าผ่านเว็บเบราเซอร์เหมือนเคย แต่ยังดีที่หน้าตั้งค่าออกแบบตัว UI ได้สบายตา และเข้าใจง่าย แรกเริ่มก็ตั้งเวลา Time Zone ตัวเราเตอร์ จากนั้นก็ตั้งค่าชื่อและรหัส Wi-Fi ให้เรียบร้อย ในส่วนตั้งรหัส Wi-Fi ตรงนี้จะมีตัวเลือกให้เปิดใช้งาน Smart Connect ด้วย คือหากใครไม่อยากมาสลับคลื่น 2.4 GHz กับ 5 GHz ไปมาเอง ก็ปล่อยให้ตัวเราเตอร์ใช้ AI ตัดสินใจตามความเหมาะสมแทนได้
หน้าแรกหรือ Home Screen แสดงสถานะโดยรวมของตัวเราเตอร์
หน้าตั้งค่า Wi-Fi ส่วนนี้จะเห็นตัวเลือก OFDMA , TWT ให้เปิดใช้งานได้เลย โดยตัว OFDMA ก็จะช่วยให้เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกันได้ดีขึ้น ส่วน TWT หรือ Target Wake Time ตัวลดการใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์พกพาเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ ก็สามารถเลือกเปิดปิดการใช้งานจากตรงนี้ได้เลย
ส่วนการตั้งค่าอื่น ๆ ก็มีมาให้ครบครัน อาทิ Parental Controls , QoS , Firewall , IPv6 และอีกมากมาย
ประสิทธิภาพ
ในส่วนทดสอบประสิทธิภาพ รอบนี้ก็เทสด้วยเน็ต 1000/300 Mbps จากผู้ให้บริการ (IPS) แน่นอนว่าเรามีเราเตอร์ระดับ 3 Gbps ก็ย่อมคาดหวังว่ามันสามารถขับความเร็วได้ใกล้เคียง 1000 Mbps ให้ได้มากที่สุด ลองมาดูเลยว่าตัว MERCUSYS MR80X สามารถทำได้ขนาดไหน
สักนิดก่อนเทส ต้องขอโชว์ปัญหาที่ผู้รีวิวเจอบ่อย ๆ เลยคือ สัญญาณ Wi-Fi จากสารพัดเพื่อนบ้าน เนื่องด้วยเป็นบ้านทาวน์โฮม ทำให้ต้องเจอสัญญาณ Wi-Fi ตีกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ สำหรับตัว MERCUSYS MR80X ที่มีกรชูว่าสามารถลดสัยญาณรบกวนจากเครือข่ายไร้สายในบริเวณใกล้เคียงได้ เดี๋ยวลองมาดูกันว่า นอกจากความเร็วแล้ว ความเสถียรโอเคด้วยไหม
ประเดิมด้วยการทดสอบระยะใกล้ก่อน กับคลื่น 5 GHz ผลคือได้ความเร็ว 825/343 Mbps นับว่าใกล้เคียงกับเน็ต 1000/300 Mbps มาก ๆ และจุดสังเกตอีกอย่างเลยคือ ค่า Ping กับค่า Jitter น้อยมากก บ่งบอกเลยว่าสัญญาณมีความเสถียร
ต่อไปลองคลื่น 2.4 GHz ดูบ้าง ส่วนนี้ก็ตามสภาพ เพราะเป็นคลื่น Wi-Fi ที่เน้นการใช้งานทั่วไป และมีจุดเด่นด้านสัญญาณที่ส่งได้ไกลกว่าคลื่น 5 GHz ส่วนนี้ก็จะเห็นอีกว่า ค่า Ping น้อยลงไปอีก
ต่อไปลองออกห่างมาประมาณ 1 หนึ่ง ดูว่าตัวเราเตอร์จะยังเร็วและเสถียรอยู่ไหม เทสกับคลื่น 5 Ghz ผลคือยังความเร็วที่ 405 Mbps นับว่ายังใช้งานได้ดีอยู่ ส่วนค่าความเสถียรก็มีค่า Ping ก็ยังคงเดิม สรุปแม้จะอยู่ไกล ความเร็วไม่แปลก แต่ความเสถียรไม่ตกเลย คือสุดยอดครับ
สรุป
รุ่นก่อนว่า The Best แล้ว รุ่นนี้คือ Next Level ไปเลย โดยรวมก็ถือเป็นเราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่มีประสิทธิภาพสูงตามสเปก ทำหน้าที่ได้ดีทั้งคลื่น 5 GHz และ 2.4 GHz ที่สามารถใช้งานได้เสถียรทั้งคู่ โดยเฉพาะคลื่น 5 GHz ที่รอบนี้มีแบนด์วิดธ์ให้มากถึง 160 MHz ยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ตัวเราเตอร์ก็ยังติดในเรื่องการ Confic หรือตั้งค่า ซึ่งต้องตั้งค่าผ่านเว็บเบราเซอร์เหมือนเคย หากตั้งค่าผ่านแอปฯ ได้ จะสะดวกกว่านี้แน่นอน แต่นับว่ายังดีที่ตัวเราเตอร์ติดตั้งง่าย ระดับที่เสียบปลั๊กก็ใช้งานได้แล้ว แต่ให้ดีก็ควรตั้งค่ารหัส Wi-Fi ใหม่จะดีกว่า
ด้านฟีเจอร์ BSS Coloring ช่วยลดการรบกวนสัญญาณจากเพื่อนบ้าน ส่วนนี้ก็จะเห็นในหน้าชื่อ Wi-Fi แล้ว จะเห็นเลยว่าบ้านของผู้รีวิว มีคลื่น Wi-Fi จากเพื่อนบ้านตีกันพอควร (บ้านทาวน์โฮม) แต่ตัวเราเตอร์ก็ยังคงให้สัญญาณ Wi-Fi ได้แรงเสถียรอยู่ดี ดูได้จากค่า Ping ที่ขึ้นน้อยมาก
สุดท้ายนี้ตัว MERCUSYS MR80X ก็สนนราคาอยู่ที่เพียง 1,990 บาทเท่านั้น ถือว่าถูกมาก ๆ หากเทียบกับเราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่มีความเร็วระดับ 3 Gbps ซึ่งปกติจะมีราคาเกือบ ๆ สามพันบาทไปเลย ใครอยากได้เราเตอร์ Wi-Fi 6 แบบเน้นใช้งานจริง ๆ และคุ้มค่า ลองดูตัว MR80X จากแบรนด์ MERCUSYS นี้ได้เลยครับ
ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mercusys.co.th/product/details/mr80x
- Website : https://www.mercusys.co.th/product/details/mr80x
- Shopee : https://bit.ly/3wdhazo
- Lazada : https://bit.ly/3weHHw7