จากเดิม Wi-Fi 6 มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi ใหม่ ที่สามารถในการรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น มีช่องสัญญาณที่กว้างขึ้น ทว่ามีเฉพาะในเราเตอร์ Wi-Fi รุ่น Top หรือตัวแพงไปเลยเท่านั้น แต่ ณ ตอนนี้ งบไม่เกิน 2 พันบาทก็มีแล้ว
รีวิวนี้พบกับ TP-Link Archer AX23 เราเตอร์ Wi-Fi 6 พร้อมความเร็ว AX1800 แบบ Dual-Band ในราคาจับต้องได้ ติดตั้งใช้งานง่ายผ่านแอปฯ เหมาะสำหรับใครที่อยากลองสัมผัสเทคโนโลยี Wi-Fi 6 ในงบย่อมเยา ซึ่งแม้จะมีราคาไม่มาก แต่ประสิทธิภาพก็ไม่น้อยตามราคาเลย ซึ่งจะใช้งานได้ดีขนาดไหน ลองมาดูกันเลย
ฟีเจอร์เด่น TP-Link Archer AX23
- Super-Fast 8 Gbps Wi-Fi – มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ Wi-Fi 6 เพื่อความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เร็วกว่า เสถียรมากขึ้น ความเร็ว wireless รวมสูงสุดกว่า 1.8 Gbps.
- Connect More Devices – ด้วยเทคโนโลยี OFDMA ทำให้สามารถใช้ได้หลายอุปกรณ์พร้อมกันโดยที่ไม่สะดุด
- Broader Coverage – ด้วยเทคโนโลยี beamforming และเสาสัญญาณ 4 เสาสัญญาณ ที่จะมอบสัญญาณให้ไกลมากยิ่งขึ้น
- Next-Gen Platform – ชิปเซ็ต Qualcomm ประสิทธิภาพสูง ที่มอบความเร็วและอินเทอร์เน็ตที่เสถียรในขณะที่ยังช่วยประหยัดพลังงาน
- Parental Controls – เพลิดเพลินกับคุณสมบัติควบคุมมากมายหลากหลาย เช่นการควบคุมโดยผู้ปกครองรวมถึงการบล็อค URL ที่ไม่เหมาะสม จัดการหน้าโปรไฟล์ผู้ใช้งาน การปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตหรืออื่นๆอีกมากมาย
- Works with Most ISPs – สามารถใช้งานร่วมกับเราเตอร์จากผู้ให้บริการ (ISPs) พร้อมการรองรับ L2TP/PPTP อีกทั้งยังรองรับ IPTV สำหรับการทำงานร่วมกับทีวีบนอินเทอร์เน็ต
งานออกแบบ
หน้าตาของตัว TP-Link Archer AX23 เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก Archer AX10 มาเลย ทรงเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่ถ้าใครยังไม่เห็นตัว AX10 ก็อาจนึกว่าเป็นเราเตอร์ Wi-Fi มีราคารุ่นหนึ่งเลย ดีไซน์ถือว่าสวย แต่แอบติดตรงแถบพลาสติกเงา ที่เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ๆ
ตัวเราเตอร์มาพร้อม 4 เสาสัญญาณ กระจายสัญญาณแบบ Dual Band โดยแบ่งเป็นคลื่น 5 GHz รองรับความเร็วสูงสุด 1201 Mbps และคลื่น 2.4 GHz รองรับความเร็วสูงสุด 574 Mbps มีฟีเจอร์ Beamforming ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณ Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์ไร้สายให้เสถียรขึ้นด้วย
พอร์ตเชื่อมต่อก็มี WAN Port x 1 กับ LAN Ports x 4 เป็นพอร์ต Gigabit ทั้งหมด ซึ่งน่าจะเป็นมาตรฐานของเราเตอร์สมัยใหม่แล้วว่าต้องเป็น Gigabit ซึ่งในตัว TP-Link Archer AX23 ที่ราคาไม่เกินสองพัน ก็มีพอร์ต Gigabit ทั้งหมดแล้ว
การติดตั้งและใช้งาน
จากที่เคยรีวิวเราเตอร์ TP-Link มาหลายรุ่น สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยคือ ตั้งค่าและใช้งานง่ายมาก แทบทุกอย่าง สามารถจบได้ในแอปฯ เดียวเลย และคราวนี้ก็เช่นเคย TP-Link Archer AX23 สามารถตั้งค่าและกำหนดได้ผ่านแอปฯ TP-Link Tether ตามนี้
ติดตั้งแอปฯ TP-Link Tether แล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi กับตัว Archer AX23 ซึ่งส่วนนี้ เราสามารถใช้งานรหัสที่แปะอยู่ใต้ตัวเราเตอร์เลยก็ได้ แต่เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์และปลอดภัย ก็ควรมาตั้งค่าใช้งานก่อนดีกว่า ส่วนขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก เพียงตั้งชื่อรหัสเข้าตั้งค่า กับรหัสใช้งาน Wi-Fi ทั้ง 2.4 GHz กับ 5 Ghz ก็เป็นอันเสร็จ
หน้าตาของตัวแอปฯ TP-Link Tether
สำหรับตัว TP-Link Archer AX23 ก็ยังรองรับการตั้งค่า OneMesh ได้เหมือนตัวรุ่นพี่อย่าง Archer AX73 หรือจะเปิดใช้งาน Smart Connect เพื่อใช้งาน Wi-Fi ชื่อเดียว (2.4 GHz + 5 GHz รวมกัน) ก็ได้
ส่วน Parental Control ก็มีในตัว TP-Link Archer AX23 เหมือนกัน หากแต่การใช้งานต้องยอมรับเลยว่า แตกต่างจากตัว Archer AX73 พอควร เนื่องจากไม่มีฟีเจอร์ Homeshield นั้นเอง ทำให้ตั้งค่าได้ไม่ละเอียดเท่า ทว่าหากใครไม่ได้ซีรีส์กับฟีเจอร์ Parental Control หรือใช้แบบพอประมาณ เอาแค่ควบคุมเวลาใช้งานกับบล็อกเว็บได้ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
หน้าตั้งค่า Parental Control กับ Firewall ในฝั่งการตั้งค่าขั้นสูงผ่านเบราเซอร์
แปลงตัวเองเป็น Access Point ได้
ประสิทธิภาพ
การเทสประสิทธิภาพครั้งนี้ ก็ขอเน้นที่การวัดความเร็ว Wi-Fi 6 โดยใช้อุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6 เช่นกัน ลองมาดูกันเลยว่า TP-Link Archer AX23 จะสามารถขับความเร็วได้ถึง 1000 Mbps (1000/300) ไปเลยไหม สำหรับคลื่น 5 GHz
ประเดิมการเชื่อมต่อในระยะใกล้กับตัวเราเตอร์ผ่านคลื่น 5 GHz ผลคือได้ความเร็วโหลด 779 Mbps กับความเร็วอัปโหลด 346 Mbps
สุดท้ายลองกับคลื่น 2.4 GHz ผลคือได้ความเร็ว 149 Mbps กับความเร็วอัปโหลด 184 Mbps
สรุป
