เชื่อว่าบางคนอาจไม่คุ้นชื่อ Technics แต่ถ้าบอกว่า Panasonic คงร้องอ๋อแน่นอน สำหรับ Technics ก็เป็นแบรนด์เครื่องเสียงที่อยู่ในเครือของ Panasonic นี้เอง และรู้จักกันในหมู่นักเล่นเครื่องเสียงกันหลายคน ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่ออยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และตอนนี้เองทาง Technics ได้เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบ True Wireless ของตัวเองอย่าง EAH-AZ60 และ EAH-AZ40
ในที่นี้จะมารีวิวรุ่น EAH-AZ40 กัน น้องเล็กจับต้องง่าย พร้อมคอนเซ็ปต์ “Work from Anywhere” หรือใช้งานได้ทุกที่ คือใช้ทั้งฟังเพลงและพูดสายได้ดีทั้ง 2 แบบ และฟังเพลงไปด้วย แต่สามารถคุยกับคนรอบข้างได้อยู่ หรือฟังเสียงสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ขณะสวมหูฟังได้โดยไม่ต้องถอดออก มีเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวนแบบเฉพาะ เรียกได้ว่าครอบคลุมการใช้งานหลากหลาย มากกว่าฟังเพลงเพียงอย่างเดียว สำหรับตัว EAH-AZ40 จะมาพร้อมเทคโนโลยีเรื่องจากเสียงจาก Technics ขนาดไหน ลองมาดูกันครับ
รายละเอียดหูฟัง Technics EAH-AZ40
ฟีเจอร์เด่น
- การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องเสียง ฮาร์โมไนเซอร์ และไดรเวอร์ 6 มม. ของ Technics มอบเสียงที่คมชัด จนคุณรู้สึกได้ถึงทุกมิติของเสียง
- ด้วยไมโครโฟนที่มีคุณสมบัติลดเสียงรบกวนจากลม 6 ตัวและ เทคโนโลยี JustMyVoice™ ที่ช่วยแยกและขยายเสียงพูด พร้อมทั้งลดเสียงรบกวนรอบข้าง จึงทำให้ EAH-AZ40 สามารถถ่ายทอดเสียงของคุณไปยังปลายสายได้อย่างชัดเจน
- มาพร้อมดีไซน์ที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา ให้คุณสวมใส่กระชับสบายหูด้วยจุกหูฟังซิลิโคน 4 ขนาด (XS, S, M, L) เพื่อให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนให้พอดีได้ตามต้องการ
- มีสีหูฟัง และเคสชาร์จ ให้เลือกถึง 3 สี
รายละเอียดอื่น ๆ
- ชุดไดรเวอร์ไดนามิก : 6 มม. (1/4 นิ้ว)
- ไมโครโฟน : ไมโครโฟน MEMS ชนิดโมโน
- ระยะเวลาใช้งาน : ประมาณ 7.5 ชั่วโมง (ใช้ร่วมกับเคสชาร์จได้ประมาณ 25 ชั่วโมง)
- ระยะเวลาสแตนด์บาย : ประมาณ 19 ชั่วโมง
- ระบบ Bluetooth : 5.2
- รหัสเสียงที่รองรับ : A2DP, AVRCP, HSP, HFP กับ Codec เสียง SBC และ AAC
- มาตรฐานการกันน้ำ : IPX4 (เฉพาะตัวหูฟังเอียร์บัดเท่านั้น)
แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่อง : ตัวหูฟัง Technics AZ40 , สายชาร์จ USB-A to USB-C , ชุดจุกหูฟัง: XS, S, M, L (ติดขนาด M มาให้)
และสุดท้ายชุดคู่มือกับใบรับประกัน
งานออกแบบ
งานดีไซน์เรียกได้เลยว่า ‘หรู’ ดูเรียบ ๆ แต่ไม่ธรรมดา วัสดุแว่บแรกเหมือนเป็นอลูมิเนียม แต่จริง ๆ เป็นพลาสติกแข็งอย่างดี มีคุณสมบัติกันน้ำเทียบเท่า IPX4 ด้วย (ยกเว้นตัวเคสชาร์จ) ส่วนขนาดตัวจุกหูฟัง ถือว่าใหญ่ระดับหนึ่งเลย แต่สวมใส่ได้สบาย ๆ โดยตัวหูฟังก็หนักแค่ 5 กรัมเท่านั้น อีกทั้งยังออกแบบให้สวมกับหูได้กระชับ และยังมีจุกให้เลือกอีก 3 ขนาด
ขนาดไดรเวอร์ 6 มม. กับตัวหูฟัง Technics AZ40
แม้ว่าตัวหูฟังจะดูพรี่เมี่ยม ทว่ากล่องเก็บหรือเคสชาร์จไม่ได้หวือหวาเท่า ออกเรียบ ๆ ยิ่งกว่า และใช้วัสดุพลาสติกที่ไม่หนามาก แต่ก็แลกมากับน้ำหนักเบาเพียง 30 กรัม และขนาดที่เล็กพกใส่กระเป๋าได้สบาย ๆ แทน
การใช้งาน
ในส่วนการใช้งาน แน่นอนว่าตัวหูฟังเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth โดยเป็นเวอร์ชั่น 5.2 เชื่อมต่อได้ง่าย และใช้งานได้นาน โดยตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 7.5 ชั่วโมงกันเลย เมื่อใช้คู่กับเคสชาร์จก็อยู่ได้ถึง 25 ชั่วโมง สำหรับการควบคุมฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ผ่านตัวแอปฯ Technics Audio Connect
หน้าตาตัวแอปฯ ดูสะอาดตาและใช้งานได้ง่ายดีมาก
ระบบตัดเสียง
มาถึงส่วนที่เป็นจุดเด่นที่แท้จริงของตัวหูฟังแล้ว สำหรับตัว Technics AZ40 ก็มาพร้อมระบบตัดเสียงและดูดเสียงแบบพิเศษที่เรียกว่า Ambient Sound Control เป็นระบบดูดเสียงภายนอกแบบอัจฉริยะ คือเลือกได้ทั้งแบบ Natural Ambient Mode โหมดรับเสียงโดยรอบตามธรรมชาติ ที่จะตรวจจับเสียงพูดและเสียงโดยรอบอื่นๆ ครอบคลุมตั้งแต่เสียงความถี่ต่ำไปจนถึงความถี่สูง ทำให้ได้ยินเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นราวกับว่าไม่ได้สวมหูฟังอยู่ กับ Attention Mode โหมดที่ช่วยลดเสียงที่ไม่พึงประสงค์จากภายนอก เพื่อให้ได้ยินเสียงของผู้คนได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งเมื่อต้องการฟังเสียงประกาศในสนามบิน ฯลฯ ทั้ง 2 โหมดอาจเรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถสวมใส่ตัวหูฟังได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยถอดออกให้วุ่นวายนั้นเอง
หน้าเปิดปิดใช้งานโหมด Ambient Sound กับปรับใช้งานสองโหมดระหว่าง Natural Ambient Mode และ Attention Mode รวมถึงปรับระดับการตัดเสียงรบกวนภายนอก เลือกปรับได้ตามใจผู้ใช้เลย
และอีกฟีเจอร์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ JustMyVoice ระบบช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกทุกอย่าง ให้ผู้ฟังหรือคู่สายได้ยินเฉพาะเสียงเราเท่านั้นจริง ๆ เหมาะสำหรับใครที่ต้องใช้ Zoom หรือโปรดแกรมประชุมออนไลน์ต่าง ๆ ที่เราต้องมีการสนทนาตอบโต้ด้วย จุดนี้ทาง Technics ก็อัดไมค์แบบพิเศษให้ตัวหูฟัง EAH-AZ40 ด้วย โดยมีตัวช่วยลดเสียงรบกวนจากลมถึง 6 ตัว
บุคลิกเสียง
แม้ตัวหูฟังจะะเด่นเรื่องไมค์กับระบบตัด/ดูดเสียงเป็นพิเศษ แต่ด้านคุณภาพเสียงเพลงก็ยังเด่นไม่แพ้กัน โดยตัวหูฟังมาพร้อมไดรเวอร์ไดดามิกขนาด 6 มม. ช่วยให้เสียได้อย่างเบสนุ่มนวล แต่จากที่ลองใช้ฟังเพลงแล้ว ดูเหมือนตัวหูฟังจะเด่นที่เพลงแนวใช้เสียงร้องหรือ Vocal เป็นพิเศษ แต่ก็ยังฟังเพลงได้ดีทุกแนว เน้นฟังเพลงสนุก ๆ หรือฟังพอดแคสต์เพลิน ๆ