ข้อดีของ Solid State Drive หรือ SSD คือ ‘ความเร็ว’ เร็วชนิดที่เห็นความต่างจาก HDD ได้ชัดจริง จนปัจจุบันมี SSD ติดตั้งใน PC หรือโน้ตบุ๊กสมัยใหม่แทบทุกเครื่องแล้ว กระทั่งการของมา SSD รุ่น Gen 4 ถัดจาก Gen 3 เดิม ซึ่งยกระดับความเร็วขึ้นไปอีกถึงเท่าตัว เร็วชนิดที่ต้องตั้งคำถามเลยว่า “เอาไปทำอะไรดี ?” ในบทความจะมาไขคำตอบกันครับ
เทคโนโลยี PCIe Gen 4 ดีกว่าเดิมแค่ไหน
PCI Express หรือ PCIe มาตรฐานการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูง ใครที่เคยเปลี่ยนการ์ดจอเอง ก็น่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดีในชื่อ PCIe x 16 ในที่นี้เราจะพูดถึงฝั่ง SSD เป็นหลัก ซึ่งตัว PCIe ที่มักใช้กันคือ PCIe x 4 หรือ x 8 เชื่อว่าหลายคนยังคงใช้เป็น PCIe 3.0 หรือ Gen 3 อยู่ แล้ว Gen 4 มันมีความต่างจากเดิมขนาดไหนกัน
ย้อนกลับไปตอน Western Digital หรือ WD เปิดตัว SSD รุ่นใหม่จากซีรีส์ WD_Black อย่าง SN850 เป็น SSD Gen 4 ตัวแรกของแบรนด์ โดยตอนนั้นชูความเร็ว Read (อ่านไฟล์) ในรุ่น 1TB สูงถึง 7,000 MB/s กับความเร็ว Write (เขียนไฟล์) มากถึง 5,300 MB/s
เมื่อเทียบกับรุ่น SN750 ที่เป็น SSD Gen 3 ตัวก่อนหน้า ซึ่งมีความเร็วอ่านเขียนไฟล์ที่ 3470/3000 MB/s ในรุ่นความจุ 1TB เช่นเดียวกัน จะเห็นเลยว่า PCIe Gen 4 มีสิ่งที่เหนือกว่า PCIe Gen 3 แบบชัด ๆ คือ ‘ความเร็ว’ จากเดิม 3470 MB/s เป็น 7,000 MB/s เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นับเป็นความเร็วที่ก้าวกระโดดมาก ๆ ทว่านอกจากความเร็วแล้ว ยังมีอะไรใหม่อีก
ในส่วนนี้ หากเป็นฝั่งการ์ดจอ PCIe x 16 ที่ใช้ Gen 4 จะส่งผลให้เสียบการ์ดจอบางรุ่น แบบไม่ต้องต่อไฟเพิ่มจาก PSU ได้เลย เนื่องจากสามารถจ่ายไฟเลี้ยงผ่านช่อง PCIe ได้มากขึ้น ทว่าประสิทธิภาพนั้นยังไม่ต่าง คือใช่ว่าเสียบการ์ดจอเข้ากับ PCIe Gen 4 แล้วจะแรงขึ้น แต่มันสะดวกขึ้นมากกว่านั้นเอง ในขณะที่ SSD Gen 4 เห็นผลเรื่องประสิทธิภาพชัดเจน เน้นเรื่องความเร็วล้วน ๆ
WD_Black SN850 กับความเร็ว 7,000 MB/s
สรุปแล้วเทคโนโลยี PCIe Gen 4 ในฝั่ง SSD คือความเร็วที่มากขึ้น ซึ่งก็มากขึ้นระดับ 2 เท่าจากเดิม และสำหรับตัว WD_Black SN850 ก็มาพร้อมความเร็วที่สูงถึง 7,000 MB/s ถามว่าความเร็วระดับนี้ เราสามารถใช้อะไรได้บ้าง
ส่วนนี้ตอบตามจริงเลยว่า “ปัจจุบันใช้ได้ไม่ถึง แต่อนาคตไม่แน่” เวลาเราใช้งานคอมฯ ตามปกติ ไม่ว่าจะ Copy ไฟล์ เขียนไฟล์ หรือดึงไฟล์จากตัว SSD ผ่านโปรแกรมต่าง ๆ เช่น ตัดต่อวิดีโอ แต่งภาพ หรือเล่นเกม (ช่วยโหลดเข้าหน้าเกมได้ไว ๆ) ณ ตอนนี้อาจยังสัมผัสไม่ได้ว่ามันเร็วระดับพลิกโฉม เหมือนตอนเปลี่ยนจาก HDD มาเป็น SSD ครั้งแรก อีกทั้งตัว SSD Gen 3 กับ Gen 4 ในแง่ความรู้สึกคือแทบไม่ต่างกันเลยตอนนี้
แต่อย่าลืมว่า “เทคโนโลยีมันก้าวไปข้างหน้าตลอด” อย่างตอนนี้เราดูวิดีโอความ Full HD กับ 4K เป็นปกติ แต่ในอนาคต เราอาจได้ Copy ไฟล์วิดีโอ 8K เป็นว่าเล่นก็เป็นได้ หรือเกมในยุคหลัง ๆ อาจต้องเก็บไฟล์ข้อมูลยิบย่อยมากขึ้น และกินเนื้อที่ใน SSD/HDD มากขึ้นอีก จนวันหนึ่ง HDD เอาไว้แค่เก็บข้อมูลเท่านั้นพอ เพราะอ่านไฟล์เกมได้ไม่ทันใจ (ทุกวันนี้ก็โหลดเกมแนว Open World ได้ช้าเหลือเกิน – -) ตอนนั้นเราคงได้คิดถึง SSD Gen 4 ที่มีความเร็ว 7,000 MB/s อย่างตัว WD_Black SN850 ขึ้นมาแน่ ๆ
ตัว WD_Black SN850 นอกจากความเร็ว 7,000 MB/s ก็ยังมีชิป Controller 3D NAND ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มความทนทาน ใช้เล่นเกมได้นาน ๆ กับมีความเร็ว IOPS สูงสุดถึง 1,000,000 ด้วย ถามว่าส่วนนี้ช่วยอะไรได้ คำตอบคือช่วยในการ Read/Write พวกไฟล์ข้อมูลยิบย่อยที่มีจำนวนมาก ระดับหมื่นหรือแสนไฟล์ (หรือหลักล้านเลย) ซึ่งแม้แต่ละไฟล์จะมีข้อมูลเพียงไม่กี่ MB และรวม ๆ แล้วมีทั้งหมด 20 – 30GB แต่กลับต้องใช้เวลาในการ Copy นานมาก นานกว่าการ Copy ไฟล์ขนาด 30GB เพียงตัวเดียว
จุดนี้เองถ้าเป็นคนทำโปรแกรมหรือทำเกม อาจได้ใช้ประโยชน์ความเร็วระดับนี้แน่ ๆ โดยเฉพาะในยุคหลัง ๆ ที่อาจจะมีไฟล์ยิบย่อยจำนวนมหาศาลยิ่งกว่าเดิม ซึ่งอาจต้องใช้ความเร็วจาก SSD ช่วยในการรวมไฟล์ทั้งหมดให้เป็นโปรแกรมเดียว หรือกระทั้งเล่นเกม ที่ตอนนี้คงเห็นผลไม่มากเมื่อเทียบกับ SSD Gen 3 แต่ยุคหลัง ๆ อาจมีเกม Open World ระดับรองรับ Metaverse ใส่แว่น VR เข้าไปเล่น Online แบบมุมมองเสมือนจริงได้เลย ไม่แน่ว่าตอนนั้น อาจมีการเขียนแนะนำสเปก Read/Write ของ SSD ที่จำเป็นต้องใช้เลยก็ได้
อย่างไรก็ตาม WD_Black SN850 ทาง WD ไม่ได้เหมาะกับการใช้งานในเครื่อง NAS หรือเครื่อง Server แม้จะมี IOPS สูงก็ตาม
ใส่ SSD Gen 4 กับเมนบอร์ดที่รองรับเฉพาะ PCIe 3.0 ได้หรือไม่
สุดท้ายนี้ SSD Gen 4 หรือตัว WD_Black SN850 สามารถใส่กับเมนบอร์ดที่มีเฉพาะ PCIe 3.0 ได้ไหม สืบเนื่องจากเมนบอร์ดที่รองรับ PCIe 4.0 ยังมีราคาสูงใช่เล่น จะซื้อ SSD ใหม่ แล้วต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดด้วยก็ใช่เรื่อง ส่วนนี้ก็มีรีวิวให้เห็นแล้วว่า สามารถนำตัว SSD Gen 4 ไปใส่กับ PCIe 3.0 ได้ ทว่าประสิทธิภาพ Read/Write จะวิ่งได้ราว ๆ 3,000 MB/s ไม่ถึงระดับ 7,000 MB/s ไว้หากมีงบและความพร้อมมากพอ ก็สามารถมาอัปเกรดเมนบอร์ดที่รองรับ PCIe 4.0 ภายหลังได้ครับ