Monitor ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์ Desktop หากใช้จอผิดสเปคจนเกิดภาพขาด ค้าง การ์ดจอจะแรงแค่ไหน ก็ทำให้เราเสียอารมณ์ได้เช่นกัน
ปัจจุบัน ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์สูงสุดที่ 5K และไล่ระดับลงมาไปจนถึงความละเอียดแบบ HD ธรรมดา แต่ความแตกต่างคืออะไร อัตราการรีเฟรช และเวลาตอบสนองมีความสำคัญเพียงใด? และออปชั่นเสริมอนย่าง G-Sync และ FreeSync มีความสำคัญหรือไม่? จะเลือกยังไง หากจะซื้อไปทำงานหรือเล่นเกม Commart คัดทิปการเลือกมาให้ง่าย ๆ ครับ
TIP FOR BUY MONITOR
1.จุดประสงค์การใช้งาน
เอามาเล่นเกม หรือ ทำงานโดยเฉพาะ เพราะโดยทั่วไปแล้ว หากจะซื้อมาเล่นเกม ควรให้ความสำคัญกับอัตราการ Refresh Rate ที่รวดเร็ว ซึ่งอาจจะเลือก Panel ของจอเป็น TN หรือ VA เพราะจะมีราคาที่ถูกกว่า หากเลือกขนาด Refresh Rate ที่ 144 Hz ขึ้นครับ
แต่หากจะซื้อมาทำงาน Refresh Rate จะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ควรเน้นที่ Panel ของจอเป็น IPS เพราะจะให้ความคมชัดมากกว่า รวมทั้งได้แสง ความสว่าง และความสดของสีดีกว่า แต่หากจะเลือก IPS แล้วเอาขนาด Refresh Rate ที่ 144 Hz ขึ้น ราคาก็จะค่อนข้างสูงนิดนึงครับ
2.เลือกความคมชัด
โดยทั่วไปแล้ว ปัจจุบันมอนิเตอร์ที่ขายอยู่ในตลาดจะมีความละเอียดที่ Full HD ขึ้นไป หรือก็ 1080p ( 1920 x 1080 ) ซึ่งมันก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ใครอยากเน้นใช้งานภาพที่คมชัดเพื่อรีดประสิทธิภาพของการ์ดจอรุ่นใหม่ออกมาให้สุด ก็ขอแนะนำเป็น QHD หรือ 4K ขึ้นไปครับ และแน่นอนว่า มันก็มาพร้อมราคาที่สูงมากขึ้นเช่นกัน
3.ขนาดของจอภาพ
โดยทั่วไปแล้ว หากจะซื้อเพื่อเล่นเกม หน้าจอขนาด 24 – 27 นิ้วกำลังเป็นขนาดที่เหมาะสม แต่หากใครใช้ทำงานเช่น ทำกราฟฟิกและตัดต่อวีดี หน้าจอขนาด 27 – 32 นิ้วดูเหมือนจะเหมาะสมมากกว่า
4.Response times หรือ เวลาการตอบสนอง
หากเราจะซื้อไปทำงานหรือใช้งานทั่วไป อาจข้ามข้อนี้ไปก่อนก็ได้ครับ เพราะ Response times ของจอ จะมีผลเมื่อเน้นใช้เล่นเกม มันจะบอกเราว่าจอภาพใช้เวลานานเพียงใดในการเปลี่ยนพิกเซลแต่ละพิกเซลจากสีดำเป็นสีขาวหรือเป็นสีอื่น ๆ โดย Monitor ส่วนใหญ่จะมีค่า Response times ไม่เกิน 5 ms (มิลลิวินาที) แต่หากจะเอาไปใช้เล่นเกม Response times ไม่ควรเกิน 1 ms หรือ 1 มิลลิวินาที ไม่งั้นอาจเกิดอาการภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวเมื่อเล่นเกมได้ครับ
5.เทคโนโลยีแผงควบคุม
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Panel ของจอนั่นเอง ปัจจุบันจอที่ขายอยู่บ้านเราจะมี Panel 3 อย่างหลัก ๆ คือ Panel IPS , VA และ TN โดย Panel TN เป็นจอภาพที่มีค่า Refresh Rate เร็วและราคาถูกที่สุดเนื่องจากคุณภาพของภาพที่ดรอปลง หากเรามองจากมุมด้านข้าง ส่วน IPS เป็น Panel ที่เน้นความคมชัด และความสว่าง ซึ่งหากใครอยากเอา IPS มาเล่นเกม ต้องการ 144 Hz++ และ Response times ไม่เกิน 1 ms คงต้องกระเป๋าหนักกันนิดนึงครับ ส่วน Panel VA มีจุดเด่นที่มีค่า Contrast สูงที่สุดครับ และมีราคากลาาง ๆ หากต้องการเลือก Refresh Rat ที่ 144 Hz ขึ้นครับฃ
6.Gsync และ Freesync
เทคโนโยทั้งสองอย่างนี้ จะมีในจอที่ถูกสร้างมาเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งฝั่ง G-Sync จะเป็นของ Nvidia ที่ใช้สำหรับการ์ดจอของ Nvidia เท่านั้น และ FreeSync จะเป็นของฝั่ง AMD ที่ใช้สำหรับการ์ดจอของ AMD เท่านั้น
ทั้งสองตัวเป็นเทคโนโลยีเพื่อที่ทำมาเพื่อลดภาพฉีกขาด (Tearing) และภาพซ้ำ (Stuttering) ช่วยให้ภาพของเกมสมูทมากขึ้น ไม่เกิดภาพขาดให้เสียอารมณ์
และจากที่ผมไปสำรวจมา จอที่รองรับ FreeSync จะมีราคาถูกกว่า G-Sync เป็นเพราะว่า FreeSync นั้นใช้ซอฟต์แวร์ในการควบคุม แต่ G-Sync นั้นใช้ฮาร์ดแวร์ซึ่งเป็นชิปในการควบคุม และหากจะตอบว่าอันไหนดีกว่ากัน คงตอบได้ยากครับ
ทั้งนี้ จอบางรุ่นที่ทำออกมา ก็สามารถรองรับทั้ง G-Sync และ FreeSync เป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ ไม่ต้องซื้อจอใหม่ แต่นั่นก็ทำให้จอนี้มีราคาสูงมาก ๆ ฉะนั้น จะเลือกยังไง เอาตามเงินในกระเป๋าได้เลย
อีกอย่างที่ควรรู้คือ G-Sync รองรับการใช้งานกับ Displayport เท่านั้น ส่วน FreeSync รองรับการใช้งานได้ที่ HDMI และ Display port ครับ
7.จอโค้ง หรือ จอปกติ
จอโค้งเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเลือกซื้อจอ แน่นอนว่าราคาจะแพงกว่าจอปกติในปสเปคเดียวกันอยู่แล้ว แต่เราจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยมุมมองที่กว้างมากกว่า และจากผู้ใช้หลายคนบอกแล้วว่า มันไม่ได้ทำให้ปวดตาอย่างที่คิด แต่บางมุมอาจเกิดแสงจ้าที่อาจขัดใจเราอยู่บ้าง เพราะแหล่งกำเนิดแสงมาจากหลายมุมแทนที่จะเป็นเพียงมุมเดียวครับ
สำหรับจอโค้งที่ดี จะมีความกว้างอย่างต่ำที่ 30 นิ้วและมีรัศมีความโค้งที่ 1800R แต่ยิ่งตัวเลขนี่น้อยลงเท่าไหร่ ก็จะมีความโค้งมากขึ้น (ต่ำสุดคือ 1000R)
ข้อมูลอื่น ๆ ที่อยากให้รู้ไว้
- ปัจจุบัน Monitor สำหรับคอมพิวเตอร์มีความละเอียดมากสุดที่ 5K (5120 x 2880) ซึ่งหากเราต้องการภาพที่คมชัดละเอียดมาก ๆ จำเป็นต้องซื้อจอที่ขนาดใหญ่ เพราะภาพบนแผง LCD จะประกอบด้วยจุดเล็ก ๆ หลายล้านจุด แต่ละพิกเซลประกอบด้วยพิกเซลย่อยสามพิกเซลสำหรับแต่ละสีหลัก ยิ่งมีจอที่สามารถบรรจุพิกเซลลงในจอภาพแต่ละตารางนิ้วได้มากเท่าไหร่ ภาพก็จะยิ่งสมจริงและราบรื่นมากขึ้น โดยเราจะสามารถหาภาพความละเอียดที่ Quad HD (QHD) ได้ในจอขนาด 27 นิ้วขึ้นไปเท่านั้น
- ความละเอียดภาพที่สูงขึ้นเช่น 4K การ์ดจอต้องทำงานอย่างหนัก เพราะชิปในการ์ดจอ จะต้องประมวลผลขับเคลื่อน 8.3 ล้านพิกเซลต่อเฟรมบนจอให้ได้ หากไม่ไหว อาจเกิดภาพขาด หรือหน่วงได้
- เกมบางเกมในปัจจุบัน รองรับความละเอียดภาพที่ 4K แล้ว แต่หากจะไปให้ถึงตรงนั้น นอกจากจอที่รองรับ 4K ต้องมีการ์ดจอที่ดันได้สูงด้วยเช่นกัน ซึ่ง RTX 3080 หรือ 3090 ก็สามารถทำได้ครับ
- หากต้องการซื้อจอมาเล่นเกมโดยเฉพาะ แนะนำให้เลือกเป็นพาแนล IPS หรือ VA ที่ 144 Hz ขึ้นครับ เจ็บแต่จบ แต่ใครงปน้อยจริง ๆ ก็มองที่พาแนล TN เป็นหลักเลย และค่าการตอบสนองหรือ Response times ไม่ควรเกิน 1 มิลลิวินาที แนะนำให้ดูข้อมูลจากเว็บนะครับ เพราะบางทีไปถามคนขาย เขาอาจจะไม่รู้
- ก่อนซื้อจอ จำให้ดีว่าตัวเองใช้การ์ดจออะไร Nvidia หรือ AMD เพื่อจะรู้จะใช้งาน Gsync หรือ Freesync ครับ