หากพูดถึง Latitude เมื่อไหร่ คงไม่ใช่ Notebook ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเกรด Commercial หรือที่ใช้งานภายในองค์กร มีจุดเด่นที่วัสดุพรีเมี่ยม ทนทาน หน้าจอคมชัด แบตอึดมาก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า Notebook ทั่ว ๆ ไป แต่อาจมีราคาที่สูงกว่า หากเทียบสเปคเดียวกัน โดยมีราคาที่ 77,990 บาท
Dell Latitude ที่ผมนำมารีวิววันนี้ เป็นรุ่น 9510 และเป็นท็อปสุดของในรุ่น Latitude ที่ราคาสูงอยู่พอสมควร แต่ก็ให้สิ่งต่าง ๆ มาสมกับราคา ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปลองดูกันครับ โดยเริ่มกันที่สเปคก่อนเลย
—————————————
สเปคเครื่องของ Dell Latitude 9510
—————————————
วัสดุและการออกแบบ
Dell Latitude 9510 เป็น Notebook ขนาด 15 นิ้ว สำหรับธุรกิจ ใช้กับการทำงานสมัยใหม่ โดยเป็นแบบ 2 in 1 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ตั้งเป็นแบบ Notebook แบบปกติ แบบกระโจมสำหรับใช้พรีเซ้นต์หรือใช้ดูหนัง และแบบ Tablet (หรือหากใครมีวิธีใช้แบบอื่นมากกว่า มาเหลาให้ฟังที )
ตัวเครื่องเป็นสีเทา ไม่เลอะง่าย แทบไม่ไม่เห็นคราบเงาของนิ้วเวลาไปสัมผัสตัวเครื่อง
ในเรื่องของวัสดุ สร้างจากวัสดุเกรดพรีเมียมอย่างอลูมิเนียมอัลลอยด์ มีความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา และระบายความร้อนได้ดี โดยเดลล์เคลมว่า รุ่นนี้เป็น Notebook ธุรกิจที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก โดยหนักเพียง 1.5 กิโลกกรัม ครับ ส่วนตัวคิดว่าก็เบาอยู่นะ หากเทียบกับตัว Thinkpad ที่ใช้อยู่ที่ออฟฟิส
ส่วนตัวล็อคที่ยึดระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่อง มีความแข็งแรงทนทานดีครับ ลองพับปิด – เปิดแบบ 360 หลาย ๆ รอบก็ไม่มีเสียงเอี๊ยดอะไร นับว่าออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว
—————————————
ฟีเจอร์และการใช้งาน
การใช้งานหลัก ๆ คงหนีไม่พ้น การใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ของ 2 in 1 เช่น การใช้งานแบบกระโจมที่ผมลองแล้วรู้สึกชอบ มันดูว้าวและดูพรีเมี่ยมนะ เวลาเอาไปพรีเซ้นต์งานลูกค้าหรือพรีเซ้นงานให้นายฟัง ซึ่งจะนับว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมบุคคลิกภาพในตัวเองได้ก็ไม่แปลก
และด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เราสามารถพกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้ รวม ๆ กับ Adaptor แล้วก็ไม่ถึงสองกิโลกรัม
ส่วนฟีเจอร์เด่นที่มีมาให้ คือ Dell optomizer และไมค์โครโฟน 4 ตัวบนขอบจอ เพื่อให้เวลาประชุมนั้นเสียงจะไม่ขาด
Dell Optimizer ในภาพด้านล่าง เป็นการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานต่าง ๆ โดยใช้ซอฟต์แวร์เป็นตัวช่วย ผมลองใช้งานในส่วนของ Audio พบว่า เอออ!!! เสียงมันดีขึ้น ๆ จริง ๆ นะ (ไม่ได้เข้าข้าง Dell นะ) ทั้งเสียง Base และเสียงของเครื่องดนตรีอื่น ๆ ครบถ้วน เพราะเคยรีวิว Notebook ราคาแพงบางตัว ทั้งเกมมิ่งและทำงาน เสียงลำโพง รับไม่ด้ายยย จริง ๆ (เรื่องนี้ขอชม)
บนขอบจอ มีรูไมค์ทั้งหมด 4 ตัว ลองทำวีดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้วเสียงชัดมาก (ชัดสุดคือโหมด Tablet ส่วนหากเป็นโหมดอื่น ๆ อาจต้องใช้ในห้องที่เสียงรบกวนน้อยหน่อยครับ )
—————————————
คีย์บอร์ดและทัชแพช
ใน Dell Latitude 9510 ตัวคีย์บอร์ดเป็น single backlit แสงสีขาว ปรับความสว่างได้ 3 ระดับ (ปิด แสงปานกลาง และสว่างสุด) ตัวปุ่มให้สัมผัสนุ่ม กดง่าย ไม่ต้องใช้แรงกดเยอะ ระยะห่างของปุ่มทิ้งให้พอดีกับแต่ละนิ้ว ช่วยเพิ่มความสะดวกในการพิมพ์มากขึ้น
ตัวทัชแพชให้มาขนาดพอดีกับ Notebook ทั่วไป กดง่ายเช่นกัน การดีไซร์ดูแข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง ให้สัมนุ่มลื่นเวลาใช้งาน
—————————————
หน้าจอ
หน้าจอทัชสกรีน ขนาด 15 นิ้ว ใหญ่จุใจ มีการเคลือบฟิล์มกันแสงสะท้อนมาในระดับหนึ่ง เป็น Full HD 1920 x 1080 ขนาด 16 : 9 (เสียดาย น่าจะได้สัก 4K ) ด้วยราคาในระดับนี้ และตัวนี้ไม่มีปากกามาให้ในกล่องนะ ต้องซื้อแยกหากต้องการจะใช้
—————————————
พอร์ตเชื่อมต่อ
ด้านซ้ายมีพอร์ต HDMI มีพอร์ต USB – C สามารถเสียบชาร์จไฟได้ทั้งสองพอร์ต และพอร์ตสำหรับ MicroSD Card
ด้านขวา เป็น USB 3.1 1 พอร์ต แจ๊คหูฟัง 3.5 nm และพอร์ตสำหรับ Lock เครื่อง
จะเห็นว่า พอร์ตที่ใช้โอนถ่ายข้อมูลมีแค่พอร์ต USB-C และ USB 3.1 เท่านั้น ซึ่งหากเราต้องการจะต่อเมาส์ ต่อคีย์บอร์ดเพิ่ม หรือใช้หากต้องการจะใช้ USB ในด้านต่าง ๆ เราอาจต้องซื้อ USB Hub เพิ่ม (ไม่รู้ว่าเดลล์มีมาให้ไหมนะ แต่ในกล่องไม่มี เลยสันนิฐานว่าไม่ได้แถมมาให้ครับ)
—————————————
ลำโพง
ลำโพงของเจ้า Dell Latitude 9510 ถือว่าเป็นลำโพงที่เสียงดีมากที่สุด เอาจริง ๆ ไม่ได้จะอวยนะ แต่เสียงที่ออกมานั้นดีกว่ากว่า Notebook ทุกรุ่นที่เคยได้รีวิว ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะรูปแบบของลำโพงคู่ที่ดีไซร์ให้อยู่ด้านบน บวกกับซอฟต์แวร์ Dell Optimizer ที่ช่วยขับเสียงมีให้มีมิติมากขึ้น
และเราได้มีการให้ผู้ทดสอบอื่น ๆ เข้ามาฟัง พูดซะดูสวยหรู จริง ๆ ผมใช้คนในออฟฟิสเนี่ยแหละ ให้ลองฟัง โดย 6 ใน 8 คนบอกชอบมาก เสียงดีกว่า Notebook ที่ใช้งานอยู่มาก แม้จะเป็นเครื่องแบบ Commercial เหมือนกัน
—————————————
แบตเตอรี่ในการใช้งานจริง
เมื่อแกะฝาหลังออกมา เราจะพบกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยเดลล์เคลมว่าสามารถใช้งานได้สองวันโดยไม่ต้องใด ๆ ซึ่ง ถือเป็น Notebook ที่แบตอึดมากรุ่นหนึ่ง
จากการทดสอบโดยโปรแกรม BatteryMon สามารถใช้งานได้มากถึง 23 ชั่วโมงกว่า (Notebook ทำงานทั่วไปได้แค่ 8 – 9 ชั่วโมงเท่านั้น) แต่ผมก็ยังไม่เชื่อนะ เลยลองทดสอบการใช้งานเอง โดยชาร์จแบตเต็ม และเปิดใช้งานตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 17.30 น. รวมเวลาแล้วประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที การใช้งานคือ เข้าเว็บไซต์ เปิดยูทูป เปิด Word นั่งพิมพ์งาน พบว่า แบตลดไปประมาณ 45 เปอร์เซ็น พอมาคำนวนเวลาแล้ว ก็ใกล้เคียงกับที่ BatteryMon บอกมาครับ ยอมรับเลย เครื่องนี้แบตอึดมาก
—————————————
Adaptor
ตัว Adaptor ที่ให้มา มีกำลังไฟ 90 W เป็นแบบ Fast Charge สามารถชาร์จได้เร็ว ตั้งแต่ 0 – 100% ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษครับ
ส่วนหนึ่งที่ใช้เวลานานมากขึ้น เพราะแบตเตอรี่ของ Notebook ตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่ผมไม่มีข้อมูลเรื่องความจุของแบตนะครับ หาจากเว็บต่างประเทศก็ไม่มี
แต่โดยสรุปแล้ว Adaptor ที่ให้มา ก็สัมพันธ์กับตัวความจุของแบต เพราะหากให้ Adaptor ที่มีกำลังไฟแบบปกติมา คงใช้เวลาชาร์จนานมากแน่ ๆ
—————————————
การทดสอบประสิทธิภาพ
CINEBENCH R20
การทดสอบด้วยโปรแกรม CINEBECH R20 ได้คะแนนที่ 1555 pts ซึ่งถือว่าเป็นปกติใน CPU รุ่นที่เป็นตัว U (สำหรับใช้งาน Notebook บางเบา ประหยัดไฟ ความร้อนน้อย ใช้ทำงานทั่ว ๆ ไป)
ทดสอบความเร็ว Storage ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark
Stroage ที่อยู่ในเครื่องเป็น SSD NVMe M.2 ของ Toshiba ส่วนเป้นรุ่นใดนั้น ไม่มีข้อมูลครับ มีความเร็วในการอ่านเฉลี่ยที่ 1749.33 MB/s หรือประมาณ 1.7 GB ต่อวินาที ส่วนความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 1460 MB/s หรือประมาณ 1.4 GB ต่อวินาที ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก สมแล้วกับที่เป็น Latitude 9510
การทดสอบส่งไฟล์ผ่าน Port MicroSD Card
ทดสอบส่งไฟล์ขนาด 7 GB กว่า ๆ ใช้เวลาเพียง 1 นาทีครึ่ง อันตราการส่งไฟล์ที่ 80 – 90 MB/s เรื่องนี้ต้องชมเดลล์ว่า ตัวพอร์ตที่ให้มานั้นมีคุณภาพสูงมาก เพราะ Notebook รุ่นทีมีพอร์ต MicroSD Card น้อยรุ่นที่จะมีพอร์ตที่อ่านได้เร็วขนาดนี้
ปล. ตัวเม็มที่ใช้ในการทดสอบคือ Sandisk Extream Pro ขนาด 64 GB
ทดสอบการเปิด Browser
ด้วยแรมที่มีมาให้ถึง 16GB สำหรับสายทำงานที่ต้องเปิดเว็บหาข้อมูลจำนวนมาก หากกลัวว่า เปิดเยอะ ๆ แล้วเครื่องจะหน่วง ก็หมดกังวัลได้เลย ผมทดสอบโดยนั่งเปิดแล้วนั่งนับไปเรื่อย ที่ประมาณ 65-70 หน้าได้ กินแรมไปประมาณ 57 เปอร์เซ็น และคิดว่าไม่น่ามีใครเปิดเท่ากับผมแล้ว
ทดสอบมาตรฐาน Wifi 6
การทดสอบกับเน็ตที่บ้าน (500/300 mbps) พบว่า ทำประสิทธิภาพได้เกินมาก และคิดว่า ถ้าเน็ตผมแรงกว่านี้ ก็น่าจะวิ่งได้เร็วกว่านี้ (แอบขอโทษที่ไม่ได้แคปตอน Upload ด้วยครับ รู้สึกตื้นเต้นจนลืม)
—————————————
สรุป Dell Latitude 9510
ราคา 77,900
ข้อดี
- เป็น Notebook สำหรับทำงานโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่ต้องการความบางเบาและสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ (Computer , Tablet )
- แบตอึด สามารถใช้งานได้ 23 ชั่วโมง โดยไม่ต้องชาร์จ และสามารถชาร์จเร็วเพียง 2 ชั่วโมงเศษ
- น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม
- ลำโพงเสียงดีมากเว่อร์ ด้วยฮาร์ดแวร์และ Dell Optimizer
- ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงพัดลมรบกวน
- รองรับการใช้งานปากกา
- มีมารตฐาน Wifi 6 รองรับการเชื่อมต่อที่ต้องการความรวดเร็ว
ข้อสังเกต
- ไม่มีปากกาแถมให้ ต้องซื้อแยก
- ช่อง USB มีน้อย อาจต้องซื้อ HUB เพิ่มครับ
- ไม่มีช่องเสียบ LAN หากใครต้องการใช้ ต้องหาซื้อตัวแปลงเป็น USB ครับ (อันนี้เหมือนกับทั่ว ๆ ไปนะ ที่เครื่อง Commercial หรือ 2 in 1 ส่วนใหญ่ มักไม่มีช่อง LAN เป็นปกติ)
- ตัวการ์ดจอ เป็น Intel UHD Graphic เป็นตัวออนบอร์ด สามารถทำงานต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นพวก Photoshop illustrator หรือโปรแกรมที่ต้องใช้การประมวลของภาพมาก ๆ ไม่แนะนำครับ