แกะกล่องรีวิว Garmin Fenix 6 นาฬิกาอัจฉริยะ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านออกกำลังแบบครบเครื่อง สำหรับสาย Sport ตัวจริงโดยเฉพาะ
แม้จะเปิดตัวมาพอควรแล้ว แต่ชื่อของ “Garmin” ก็ยังอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการ Smartwatch (นาฬิกาอัจฉริยะ) อยู่เสมอ โดยเฉพาะ Smartwatch สาย Sports ที่เด่นเป็นพิเศษ และสำหรับตัวที่นำมารีวิวครั้งนี้คือ Garmin Fenix 6 จากซีรีส์ Fenix รุ่น Top สุดในปัจจุบัน ซึ่งใน Fenix ก็จะมีรุ่น 6X กับ 6S ที่มีราคาสูงขึ้นอีก ส่วน Fenix 6 ที่รีวินี้ ถือเป็นรุ่นระดับ Top ในราคาที่พอจับต้องได้ (หน่อย) ที่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ด้านออกกำลังแบบครบเครื่อง และมีการพัฒนาต่อจากรุ่นก่อนไม่น้อย เช่นแบตฯ ที่อยู่ยาวนานขึ้น และเซ็นเซอร์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์เด่น (ดูรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่ Fenix 6 FeatureTab)
- เพิ่มประสิทธิภาพด้วยดีไซน์ที่ทนทานและหรูหรา โดดเด่นด้วยหน้าจอ 1.3 นิ้วที่สว่างตลอดเวลาและอ่านง่ายภายใต้แสงแดดจ้า พร้อมกรอบหน้าปัดสเเตนเลส ไทเทเนียม หรือแบบเคลือบคาร์บอนคล้ายเพชร (DLC)
- มาพร้อมเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นหัวใจ และ Pulse Ox ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งนาฬิกาจะวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดเพื่อรองรับการตรวจจับการนอนขั้นสูงและการปรับตัวเข้ากับความสูงเมื่ออยู่ในระดับพื้นที่สูง
- มีคุณสมบัติการฝึกขั้นสูงต่างๆรวมถึง PacePro สำหรับการแนะนำเพซที่ปรับตามเกรดตลอดการทำกิจกรรมพร้อม VO2 max ที่ปรับตามสภาพแวดล้อมและค่าคาดคะเนสถานะการฝึกต่างๆ
- การนำทางแบบกลางแจ้งด้วยแผนที่ต่างๆและแผนที่สกีจากรีสอร์ทสกีกว่า 2,000 แห่งทั่วโลกที่สามารถโหลดไว้ล่วงหน้า และรองรับระบบดาวเทียมนำทางรอบโลกหลายดวง (GPS, GLONASS และ Galileo) และเซ็นเซอร์ในตัวต่างๆสำหรับเข็มทิศสามแกน เครื่องวัดการหมุน และมาตรวัดความสูงระบบความกดอากาศ
- รองรับ Garmin Pay ซึ่งเป็นการชำระเงิน แบบ contactless payments รวมถึงหน่วยจัดเก็บเพลงพร้อมรองรับบริการสตรีมมิ่งระดับพรีเมี่ยม smart notifications และอีกมากมาย
- ระยะการใช้งานแบตเตอรี่: สูงสุด 13 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ หรือสูงสุด 11 ชั่วโมงในโหมด GPS พร้อมเล่นเพลง และสูงสุด 42 ชั่วโมงในโหมดประหยัดแบตเตอรี่ UltraTrac; โหมด power manager ที่ปรับแต่งได้จะช่วยให้คุณทราบและสามารถควบคุมการตั้งค่าและเซ็นเซอร์ต่างๆที่ส่งผลต่อระยะการใช้งานแบตเตอรี่ได้
การออกแบบ
แม้จะเป็นรุ่นล่างสุดของ Fenix Series แต่ Fenix ก็ยังเป็น Fenix โดยตัว Fenix 6 ก็ยังมาพร้อมดีไซน์หล่อเท่ตามสไตล์ซีรีส์นี้ และยังมีความทนทานสูง โดยรุ่นที่นำมารีวิวนี้ก็เป็น Fenix 6 รุ่นเลนส์ Sapphire ทำให้หน้าจอมีความทนทานต่อการขีดข่วนสูง อีกทั้งตัวเรือนยังผ่านการทดสอบมาตรฐาน 810G ของกองทัพสหรัฐฯ โดยมีความทนทานต่อความร้อน การสั่นสะเทือน และการกันน้ำ (ถ้าเป็นรุ่น Sapphire ก็จะทนต่อการขีดข่วนสูงด้วย) ส่วนสายรัดข้อมือ ตัวที่รีวิวเป็นสายรัดแบบซิลิโคนคุณภาพสูง ใส่นาน ๆ แล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย แต่แน่นอนว่าถ้าอยากได้พรีเมี่ยมกว่านี้ ก็มีสายอื่น ๆ ให้เลือกอีก อาทิ สายซิลิโคน สายหนัง สายไนลอน หรือไทเทเนียม เป็นต้น
Garmin Fenix 6 หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Garmin Fenix 6
ฟีเจอร์และการใช้งาน
ก่อนหน้านี้เคยรีวิว Garmin Venu ไป ซึ่งเป็น Smartwatch จาก Garmin ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส ใช้งานง่ายมาก ทว่ารุ่น Fenix 6 Series ไม่ใช่หน้าจอสัมผัส การควบคุมจะใช้ปุ่มทั้ง 5 ที่อยู่รอบตัวเรือนแทน ใครที่ใช้งานครั้งแรกอาจไม่สะดวกนัก แต่ก็เข้าใจได้ว่าที่ไม่ทำหน้าจอสัมผัส เพราะต้องการเพิ่มความทนทานให้กับหน้าจอนั้นเอง ให้มั่นใจว่า สามารถใส่ไปออกกำลังกายแบบ Extreme ได้เต็มที่ สามารถใส่ใช้งานได้แทบทุกสภาวะ จุดนี้คือยังไงก็ต้อง Fenix Series เท่านั้น
ส่วนเซ็นเซอร์ของ Garmin Fenix 6 ภายในประกอบไปด้วย Pulse Ox (การวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด) ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์หลัก และวัดอัตราการเต้นหัวใจที่ข้อมือด้วยเทคโนโลยี Garmin Elevate นอกนั้นก็มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ วัดความเร่ง วัดความดันอากาศ/ความสูง เข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ Gyroscope GLONASS Galileo และ GPS
อย่างที่ทราบว่า Garmin Fenix 6 ใช้ปุ่มในการควบคุม อาจดูไม่สมกับที่เป็น Smartwatch นัก แต่ฟีเจอร์ภายในเรียกคือ Smartwatch จริง ๆ ตัว Fenix 6 มีหน้าเมนูการใช้งานที่หลากหลายสุด ๆ โดยหลัก ๆ ก็มีทั้ง แอปฯ ตรวจจับกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปีนเขา ปั่นจักรยาน ฯลฯ ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายเกือบทั้งหมก ซึ่งตัว Fenix 6 ก็สามารถวัดแล้วประมวลออกมาได้ละเอียดมาก ดูผ่าน แอปฯ Garmin Connect บนสมาร์ทโฟนก็ว่าละเอียดแล้ว ดูผ่านหน้าจอของ Fenix 6 ใช่เล่นเหมือนกัน แทบไม่ต้องควักสมาร์ทโฟนมาดูบ่อย ๆ เหมือน Smartwatc หลาย ๆ รุ่น อีกทั้งตัว Fenix 6 ยังสามารถเรียกใช้แผนที่ GPS ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเพิ่งสมาร์ทโฟนก็ได้
ประสิทธิภาพ
แม้ตัว Garmin Fenix 6 จะสามารถใช้งานแบบ Stand Alone โดยแทบไม่ต้องเพิ่งสมาร์ทโฟนได้เลยก็ตาม แต่ถ้าใช้ร่วมกับแอปฯ Garmin Connect ก็ยังช่วยให้ใช้งาน Fenix 6 ได้คุ้มค่ากว่าอยู่ดี ซึ่งจุดนี้ก็จะช่วยให้เห็นประสิทธิภาพเต็ม ๆ ของ Fenix 6 ด้วย โดยตัว Fenix 6 จะบักทึกข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ใช้อย่างละเอียดมาก ทั้งการเดิน การหา่ยใจ สถิติต่าง ๆ จะถูกรวบรวมไว้ แล้วนำมาแสดงอย่างละเอียดผ่านตัวแอปฯ Garmin Connect นี้เอง จุดที่เห็นผลสุดก็คือการนับก้าว ที่ตัว Fenix 6 วัดได้ใกล้เคียงกับที่ก้าวจริง ๆ มาก จากที่ลองใช้มา
ลองทดสอบด้วยการเดินยาว 4.5 กิโลเมตร พร้อมเปิด GPS บนตัว Fenix 6 ก็พอจะเห็นความแม่นยำของ Fenix 6 บ้างแล้ว ตัว Fenix 6 สามารถจับตำแหน่งการเดินการเลี้ยวไว้ได้หมด และยังคำนวนความเร็วในการก้าวเดินได้ด้วย
ปิดท้ายด้วยประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ ตามสเปกคือ สามารถใช้งานได้สูงสุด 13 วัน และ 11 ชั่วโมงในโหมด GPS หากเปิดประหยัดแบตเตอรี่ก็อยู่ได้ 42 ชั่วโมง แน่นอนว่าถ้าใส่ไปเที่ยวหรือเดินทาง โดยไม่เปิด GPS ตัว Fenix 6 ก็อยู่ได้ยาว ๆ 10 วันสบาย ๆ หากลดแสงบนหน้าจอ ก็อยู่ได้ 13 วันตามสเปกเลย
สรุป
ในการรีวิวครั้งนี้อาจไม่ละเอียดมากนัก จริง ๆ ต้องบอกเลยว่า Garmin Fenix 6 ยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่างมากที่ยังไม่ได้ลองใช้ (หาโอกาสไปออกกำลังกายแบบ Extreme ไม่ได้จริง ๆ แต่ขออภัย) ในที่นี้เอาเฉพาะส่วนที่ Basic และเป็นจุดเด่นมาให้เห็นกันคร่าว ๆ พอ
แต่เท่านี้่ก็น่าจะเห็นถึงความ ‘พรี่เมี่ยม’ และความ ‘Hi-End’ ของตัว Garmin Fenix 6 กันบ้างแล้ว ด้านดีไซน์และวัสดุคือไร้ที่ติ แบตฯ อึด ส่วนฟีเจอร์และการใช้งานก็มีมากเกินพอ สายออกกำลังกายยังไงก็ใช้คุ้มใช้มันมือแน่นอน
สำหรับราคาของ Garmin Fenix 6 ก็เริ่มต้นที่ 22,900 บาท ส่วนรุ่น หากต้องการเน้นทนทานโดยเฉพาะ ลองดูรุ่นนี้เลยครับ
เช็คราคา โปรโมชั่น คลิก