ถัดจาก Alpha โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Pure AMD จาก MSI ที่ประเดิมด้วย Radeon RX 5500M รวมกับซีพียู Ryzen 7 3750H พร้อมราคาประมาณ 3 หมื่นบาทเท่านั้น ตลาดแตกกันไป รอบนี้มาใหม่ในชื่อ MSI Bravo 15  พร้อมอัพเกรดซีพียูเป็น Ryzen 7 Mobile 4800H แรงเทริ์นโปร

รีวิวนี้บอกเลยว่า “ร้อนมือมาก” ทั้งตัวเครื่องที่กำลังมาแรงสุด ๆ และมีเวลาจับเทสไม่นานจริง ๆ แต่ก็จะดันออกมาเป็นรีวิวได้ชมกันครับ นับตั้งแต่ที่ AMD ลุยศึกโน้ตบุ๊กเกมมิ่งอย่างเต็มตัว ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในรุ่นที่ราคาประมาณ 3 หมื่น จากปกติจะเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับเริ่มต้น เล่นเกมได้พอประมาณ แต่ตอนนี้กลับ ‘เทิร์นโปร’ แรงทะลุราคาไปเรียบร้อย

รีวิวนี้พบกับ MSI Bravo 15 จัดเต็มสเปก Pure AMD ที่มาพร้อมทั้ง Ryzen 7 Mobile 4800H + Radeon RX5500M ในร่างเดียว และจัดเต็มฟีเจอร์เกมมิ่ง อาทิ จอ 120 Hz ระบบระบายความร้อน Cooler boost 5 รองรับ Wi-Fi 6 AX กับ Bluetooth 5.1 ครบเครื่องทีเดียว ส่วนจะเป็นยังไงบ้างมาชมกันเลย

สเปก MSI Bravo 15 A4DDR

Display : 15.6 นิ้ว 120Hz  ความละเอียด Full HD (1920 x 1080)
CPU : AMD Ryzen 7 Mobile 4800H
VGA : AMD Radeon RX 5500M 4GB GDDR6
RAM : 16 GB DDR4-2666MHz
SSD : 512 GB
Port : USB Type-C USB 3.2 Gen1 x 2 , USB Type-A USB 3.2 Gen1 x 2 , LAN RJ45 x 1 , HDMI (4K @ 30Hz) x 1 และ Combo Jack (Mic-in/Headphone-out) x 1
Wireless : 802.11 ax (Wi-Fi 6) + Bluetooth v5.1
Camera : HD type (30fps@720p)
Dimension : 359 x 254 x 21.7 มิลลิเมตร
Weight : 1.96 กิโลกรัม
Color : Black
OS : Windows 10 Home

แกะกล่อง

กล่องมาพร้อมตัวอักษร MSI สีเขียว และโลโก้ฟีนิกซ์ ที่อาจดูแปลกตานิด ๆ (เฉพาะรุ่น Alpha/Bravo) จากปกติจะเป็นสีแดงลายมังกร

ข้างกล่องมี (แอบขิง…) เขียนคำว่า 7 นาโนเมตร โชว์ขนาดของซีพียู AMD Ryzen 4800H ให้โลกรู้กันไปเลย

ส่วนอุปกรณ์ในกล่อง หลัก ๆ ก็มีตัวเครื่อง MSI Bravo 15 กับชุดชาร์จไฟ และชุดคู่มือ

ขนาดชุดชาร์จไฟ 180W  ของตัวเครื่อง

วัสดุและดีไซน์

ดีไซน์ตัว MSI Bravo 15 เทียบกับตัว Alpha รุ่นก่อนหน้าแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าตัว Bravo มีความบางเบาขึ้น โดยรุ่นนี้มีความบางเพียง 21.7 มิลลิเมตร และหนักแค่ 1.96 กิโลกรัม (รุ่น Alpha หน้า 27.43 มม. หนัก 2.3 กก.) ตัวฝาพับเรียบเนียน ไม่มีเส้นลวดลายอะไรอีกต่อไป โดยรวมถือได้ว่าตัวเครื่องมีความหรูหราขึ้นมาก พอเทียบกับรุ่น Stealth Thin ที่เป็นบางเบาเกมมิ่งรุ่น Top ของ MSI ได้เลยทีเดียว

ตราโลโก้ฟีนิกซ์เปลี่ยนใหม่เป็นโลหะสีทอง ดูดีกว่าโลโก้เดิมในรุ่น Alpha ขึ้นมาก ๆ

พอร์ตก็ครับครันตามสไตล์เกมมิ่ง โดยตัว MSI Bravo 15 ก็มาพร้อม USB Type-C USB 3.2 Gen1 x 2 , USB Type-A USB 3.2 Gen1 x 2 , LAN RJ45 x 1 , HDMI (4K @ 30Hz) x 1 และ Combo Jack (Mic-in/Headphone-out) x 1 ซึ่งจุดนี้แอบแปลกใจที่ MSI ไม่ได้แยกช่องไมค์กับช่องหูฟังเหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่เอามารวมกันเลย

บางเบาเกมมิ่งในราคาเอื้อมถึงง่าย !!

ตัวแป้นพิมพ์ไม่มีปุ่ม Nubpad แต่แลกกับความกะทัดรัดเข้ามาแทน โดยตัวเครื่องมีขนาดจอ 15.6 นิ้ว ทว่าเทียบขนาดกับรุ่นที่มีจอ 14 นิ้วได้เลย

เกมมิ่งฟีเจอร์ 

ประเดิมด้วย MSI Dragon Center โปรแกรมควบคุมฟีเจอร์ต่าง ๆ ของตัวเครื่อง โดยในรุ่น Bravo 15 ก็มีปรับได้ทั้งโหมด Gaming และโหมด Craetor ซึ่งจะปรับการทำงานของตัวเครื่อง เช่น รอบพัดลม ปุ่มลัด และอื่น ๆ ให้เข้ากับการใช้งานของเรา ถือว่าใช้งานง่าย ปรับได้ทันใจดี

ตัวคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีแดงสีเดียว แต่ก็แดงสว่างได้ใจพอควร ซึ่งตอนยังไม่เปิดใช้งานก็มีขอบเป็นสีแดงอยู่แล้ว เรียกได้ว่าต่อให้ไม่เปิดเครื่อง ก็ยังดูดุดัน

หน้าจอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD ตัว MSI Bravo 15 ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ขอบจอบาง และมาพร้อม 120Hz  เพื่อความลื่นไหล จุดที่ต้องขอชมเลยคือ จอมีความสวยงามคมชัดมาก สว่างกำลังดี ใช้ทำงานตัดต่อแต่งภาพได้เลย และแน่นอนว่าเล่นเกม Fin

ระบบระบายความร้อนยังเป็น Cooler boost 5 เช่นเคย แต่ในรุ่น MSI Bravo 15 มีจำนวนท่อ Heat Pipe ทั้งหมด 6 เส้น และปรับการวางท่อ Heat Pipe ใหม่ให้ดูรกน้อยลง โดยจะมีประสิทธิภาพการระบายความร้อนขนาดไหน ลองดูได้ในหัวข้อถัดไปเลยครับ

ประสิทธิภาพ

อนึ่งต้องบอกก่อนว่า ตัว MSI Bravo 15 ที่รีวิวนี้มาพร้อมแรมขนาด 16GB จากปกติ 8GB ฉะนั้นผลการเทสอาจมีแตกต่างจากรุ่นที่ใช้แรม 8GB ไปบ้างนะครับ (หรือซื้อแล้วอัพเกรดเป็น 16GB ไปเลยยยย)

รายละเอียดสเปก AMD Ryzen 7 Mobile 4800H กับ AMD Radeon RX 5500M 4GB GDDR6 และแรมขนาด 16GB

ความแรงของ AMD Ryzen 7 Mobile 4800H จากตัว MSI Bravo 15 ลองวัดด้วย CPU-Z จะเห็นเลยว่า คะแนน Single Thread แทบจะหายใจรดต้นคอ Core i7-8700K แล้ว เทียบกับ Core i7-10700 (คาดเป็นรุ่น H) ก็ยังห่างกันไม่มาก ส่วน Multi Thread ฝั่ง Intel ยังทำได้ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องอย่าลืมนี้ ซีพียู Ryzen 7 Mobile 4800H มีอยู่ในโน้ตบุ๊กราคาเริ่มต้นไปเกิน 2 หมื่นบาทเท่านั้น

เทส Cinebench R15 ก็ได้คะแนนไป 1531 cb ส่วนการ์ดจอได้ 114.01 fps โอ้วว

ส่วน Cinebench Release 20 ตัวซีพียู AMD Ryzen 7 Mobile 4800H ได้ทะลุไป 3513 คะแนน !!

สำหรับคะแนนใน 3D Mark ตัว Time Spy ได้ไป 4641 คะแนน Fire Strike ได้ 11276 คะแนน และ Fire Strike Extreme ได้ 5932 คะแนน  หากมีเวลาก็อยากลองเทสตัว Ultra ด้วย แต่ดูจากคะแนนทั้งหมดนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าตัวการ์ดจอ Radeon RX 5500M มีประสิทธิภาพที่มองข้ามไม่ได้เหมือนกัน

PC Mark10 ได้ 5,673 คะแนน ใช้ทำงานทั่ว ๆ ไปได้สบาย

ความเร็วอ่านเขียน SSD ขนาด 512GB ของ Bravo 15 ถือว่ากลาง ๆ ไม่เร็วไม่ช้า โดย Read ได้ไป 1627 MB/s ส่วน Write ได้ไป 1173 MB/s

ในส่วนการระบายความร้อน จุดนี้มีบัคเล็กน้อย แรกใช้ตัว HWMonitor วัด แต่โปรแกรมกลับไม่แสดงส่วนอุณหภูมิของซีพียูกับการ์ดจอซะงั้น เลยใช้ MSI Dragon Center ช่วยดูแทน ขณะเล่นเกมก็พบอุณหภูมิอยู่ที่ราว ๆ 89 – 91 องศา ถือว่าระบายความร้อนได้กำลังดีครับ

Gaming Test

ในส่วนเกมเทส รอบนี้ใช้ 3 เกม อาทิ Call of Duty: Modern Warfare (ภาคล่าสุด) กับ Nier: Automata (มีประเด็น) และ The Witcher 3: Wild Hunt

เกม Call of Duty: Modern Warfare ปรับกราฟฟิกกลาง ๆ เล่นได้ลื่น ๆ ที่ 125 fps กันเลย แต่ภาพที่แสดงผลกลับมีบัค มีจุดผิดปกติ (ปรับสุดก็ยังมี) คาดเป็นปัญหาที่ตัว Driver การ์ดจอ RX 5500M ที่คงต้องรออัพเกรดกันต่อไป

Nier: Automata ก็บัคอีกเช่นกัน ตัวเกมกระตุกมาก น่าจะมีปัญหาที่ตัว Driver การ์ดจอ RX 5500M เหมือนกัน

ส่วน The Witcher 3: Wild Hunt ไม่มีปัญหาอะไร ปรับสุดก็ยังเล่นได้ลื่น ๆ ที่ 50 – 60 fps ภาพออกมาสวย

สรุป

สำหรับใครที่อยากได้โน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาไม่แรงมาก แต่ขอประสิทธิภาพ น่าจะเป็นโจทย์ในใจหลาย ๆ คน ตัว MSI Bravo 15 คือคำตอบเลยครับ ตัวเครื่องมีความเป็น Hi-End เกินราคา ด้านการออกแบบที่พัฒนาจากรุ่น Alpha อย่างเห็นได้ชัด มีความบางเบาขึ้นเยอะ และก็บางเบาจริง ๆ แอบเสียดายที่ไฟ LED คียบอร์ดมีสีแดงสีเดียว

ด้านประสิทธิภาพ Ryzen 7 4800H + Radeon RX5500M แรงกว่าที่คิด !! ยกระดับจาก Ryzen 7 3750H ไปพอควร ส่วนการ์ดจอ Radeon RX5500M แม้จะเป็นรุ่นเดิม แต่ก็ได้อานิสงส์จากซีพียูไปเต็ม ๆ ทำให้ทำงานได้ดีกว่าเดิม

ท้ายนี้ราคาของ MSI Bravo 15 ก็อยู่ที่ 32,990 บาท โดยเป็นรุ่น Ryzen 7 4800H + Radeon RX5500M แรม 8GB หากเป็นตัว Ryzen 5 4600H ก็อยู่ที่ 29,990 บาท ครับ