ปกติ Mesh Wi-Fi Router หรือชุดเราเตอร์ 2 – 3 ไปในกล่องเดียว มักมีราคา 2 – 3 พันบาทขึ้นไปเลย แต่ก็แลกกับคุณภาพสัญญาณ Wi-Fi ที่ครอบคลุมทั่วบ้านจริง และยังติดตั้งง่ายพร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะสำหรับใครที่บ้านมีเราเตอร์ตัวเดียว แต่สัญญาณกระจายไม่ทั่วถึง และมีความรู้เรื่องอุปกรณ์ไม่มาก
วันนี้เราได้ Mercusys Halo S12 มารีวิว มาพร้อมความเร็ว AC1200 รองรับ Dual Band ทั้ง 2.4GHz กับ 5GHz มีฟีเจอร์ครบครัน และมาพร้อมราคาไม่เกิน 2 พันบาทเท่านั้น
สำหรับ Mercusys ก็เป็นแบรนด์น้องเล็กจาก TP-Link ซึ่งหลัง ๆ เริ่มออกไลน์โปรดักมาเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Router , Repeater , Adapter, Switch และล่าสุดก็ Mesh Wi-Fi ที่กำลังรีวิวนี้เอง (ดูอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ http://www.mercusys.co.th/product) จุดเด่นของแบรนด์นี้คือ เน้นอุปกรณ์เน็ตเวิร์คคุณภาพ ในราคาย่อมเยาเอื้อมถึงง่าย พร้อมมีรับประกันคุณภาพ 1 ปี จากทาง TP-Link
สเปก Mercusys Halo S12 AC1200 Whole Home Mesh Wi-Fi System
- One Unified Network – With advanced Mesh Technology, Halo units work together to form a single unified whole-home network with one Wi-Fi name and password.
- Seamless Roaming – Automatically switch between Halos as you move around your home, always getting the best signal to enjoy the fastest connections for all your devices.
- Whole-Home Coverage – Blanket up to 2,800 ft² (260 m²) with high-speed Wi-Fi.
- Hi-Speed Wi-Fi – Halo S12 provides fast and stable connections with speeds of up to 1,167 Mbps and works with major internet service providers (ISP) and modems.
- Ultra-High Performance – Enjoy lag-free connection and non-stop entertainment on all your devices, at the same time.
แกะกล่อง
ตัวกล่อง Halo S12 ยังคงมาเป็นสีแดงตามสไตล์ Mercusys ส่วนภายในกล่อง (รุ่นขายจริง) ก็มี Halo S12 x 2 , สาย RJ45 Ethernet x 1 , Power Adapters x 1 และชุดคู่มือ Quick Installation Guide x 1
ดีไซน์
ดีไซน์ของ Mercusys Halo S12 ก็มาแบบเรียบ ๆ แทบไม่มีลวดลายอะไรสะดุดตา ซึ่งก็เหมาะสำหรับวางเนียนไปในจุดต่าง ๆ ชนิดที่ดูไกล ๆ คือไม่รู้ว่าเป็นเราเตอร์ แต่เหมือนของตกแต่งบางอย่าง
ด้านหลังมีพอร์ต WAN/LAN แบบ auto-sensing ให้ 2 ช่อง รองรับความเร็ว 10/100 Mbps พร้อมปุ่ม Pair เดี่ยว ๆ ที่หน้าเครื่อง
วัสดุภายนอกเป็นพลาสติกล้วน น้ำหนักเบามาก (ถึงขั้นคิดว่าข้างในว่างเปล่า) แต่ภายในมีเสาสัญญาณแบบ Dual Band รองรับทั้ง 2.4GHz และ 5GHz ความเร็ว AC1200 แบ่งเป็น 300 Mbps สำหรับ 2.4 GHz และ 867 Mbps สำหรับ 5 GHz กระจายสัญญาณได้ไกลถึง 2,800 ตารางฟุต (260 ตารางเมตร) มาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ อย่าง
Smart Connect หนึ่ง Wi-Fi เชื่อมต่อชื่อเดียว ไม่ต้องสลับเอง, MU-MIMO รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันหลายอุปกรณ์ จากที่เคยอยู่ในเราเตอร์ราคาระดับหมื่นบาท เดี๋ยวนี้ไม่เกิน 2 พันก็มีได้ และสุดท้าย Beamforming ยิงสัญญาณ Wi-Fi มาที่อุปกรณ์รับโดยตรง เพิ่มความเสถียร ดีกว่าสัญญาณ Wi-Fi แบบกระจายในเราเตอร์สมัยก่อน
การใช้งาน
จุดเด่นสำคัญของ Mesh Wi-Fi คือต้อง ‘ติดตั้งง่าย’ และ ‘ใช้งานได้ทันที’ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมาย สำหรับตัว Mercusys Halo S12 นั้น ทันทีที่เสียบปลั๊กกับต่่อสาย LAN เข้ากับ Modem ก็พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องตั้งรหัส Wi-Fi ก็เชื่อมต่อใช้งานได้เลย แต่แน่นอนว่าควรตั้งรหัสให้เรียบร้อยจะดีกว่า จะได้ไม่โดนคนมาแอบเนียบใช้ Wi-Fi ของเรา
การตั้งค่าตัว Mercusys Halo S12 นั้น จำเป็นต้องทำผ่านเว็บ ซึ่งทำได้โดยการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ Halo S12 จากนั้นก็พิมพ์ 192.168.0.1 หรือ 192.168.1.1 ค้นหาตัวเครื่อง จุดนี้มันจะให้ตั้งค่ารหัส Admin ก่อน จากนั้นมันก็ให้เราทำการ Pair หรือเชื่อมต่อ Halo S12 อีกตัว ที่เรานำไปวางในจุดที่คิดว่าอับสัญญาณ (แต่ต้องอยู่ไม่ห่างจากเครื่องหลักมากนัก) การ Pair นั้น ทำได้โดยการกดไปที่ปุ่ม Pair หน้าเครื่อง รอจนกว่าจะติดไฟสีเขียวทั้ง 2 ตัว เป็นอันเสร็จ
หลัง Pair เรียบร้อย ต่อไปก็เข้าสู่หน้าตั้งค่าหรือหน้า Config ของตัว Halo S12 ในหน้าแรก Status จะสถานะการใช้งาน Halo S12 ว่ามีใครเข้ามาเชื่อมต่อแล้วบ้าง หรือตั้งค่าชื่อตัวเครื่องตามห้อง เพื่อให้ง่ายต่อการตั้งค่าแยก
หากเข้ามาที่หน้า Device Management ก็จะพบชื่ออุปกรณ์ที่กำลังเชื่อมต่อกับ Halo S12 แบบ Realtime ตรงนี้ใครที่เป็น Admin ก็สามารถทำการ Block ผู้เชื่อมต่อ ไม่ให้ใช้งานชั่วคราวได้ หรือใครที่อยากตั่งค่า Halo S12 แบบเฉพาะทาง ก็ลองดูที่เมนูหลักตรงซ้ายมือได้เลย โดยพอมีเครื่องมือให้พร้อมพอควร และมีฟีเจอร์ที่คุ้น ๆ หน้ากัน
หน้าตั้งค่า Wi-Fi แบบ Advance
ประสิทธิภาพ
การทดสอบครั้งนี้ จะเน้นที่ประสิทธิภาพด้าน Mesh Wi-Fi แบบเน้น ๆ โดยชูปัญหาอับสัญญาณ และดูว่าตัว Mercusys Halo S12 สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้จริงและดีแค่ไหน ตำแหน่งการวาง Halo S12 ก็มีความห่างกันตามภาพ
เทสประสิทธิภาพการกระจายสัญญาณขณะอยู่ใกล้กับตัว Halo S12 + Modem ก่อน ต้องบอกก่อนว่าตัว Halo S12 สามารถปล่อยคลื่น 2.4 GHz กับ 5 GHz ได้ และมีสองเครื่อง ทำให้มีชื่อ Wi-Fi (เฉพาะในแอปฯ Wi-Fi Analyzer) ของ Halo S12 ถึง 4 ชื่อด้วยกัน ลองเทียบคุณภาพการกระจายสัญญาณกับ Modem เราเตอร์ประจำบ้าน (true_home2G_sBG) ตัว Halo S12 ดูมีประสิทธิภาพกว่าระดับหนึ่ง
จับทดสอบความเร็ว ก็ได้ไป 93 Mbps ทั้งโหลดและอัพโหลด ตามความเร็ว 100/100 ที่สมัครใช้บริการ
ย้ายตำแหน่งยืนใหม่
คราวนี้มายืนฝั่งที่อยู่ห่างจาก Halo S12 + Modem พอควร ลองวัดคุณภาพสัญญาณจะเห็นเลยว่า สัญญาณ Wi-Fi จาก Modem ตกลงไปมาก แต่ตัว Halo S12 ที่วางอยู่อีกฝั่ง กลับชัดเจนในระดับ – 26 dBm (คลื่น 2.4 GHz ได้ – 26 dBm คลื่น 5 GHz ได้ – 33 dBm) ถือว่าสอบผ่านในฐานะ Mesh Wi-Fi
จุดนี้ก็ขอโชว์ปัญหาให้เห็นก่อน โดยต่อสัญญาณ Wi-Fi กับ Modem เราเตอร์ประจำบ้านจากระยะไกล และค่อนข้างอับสัญญาณ ผลที่ได้ก็ตามภาพเลย จากความเร็วที่ควรได้ 100/100 Mbps ก็เหลือแค่ 30/37 Mbps เท่านั้น
แต่หากต่อกับ Mercusys Halo S12 ในระยะเดียวกัน ก็ได้ความเร็วเกือบเต็ม 100/100 Mbps ที่ 93/93 Mbps และมีความเสถียรเหมือนตอนอยู่ใกล้กับ Modem เห็นผลเลยว่าหากมีเราเตอร์ Mesh Wi-Fi แล้วมันดียังไง
สุดท้ายลองวัดประสิทธิภาพการกระจายสัญญาณจากระยะไกล ของตัว Mercusys Halo S12 วัดแบบเดียวกับ Modem ในระยะพอกัน เพื่อดูให้ชัดไปเลยว่าตัว Halo S12 จะดีหรือด้วยกว่า Modem เราเตอร์ประจำบ้าน ผลคือได้ 38/38 Mbps เทียบกับ Modem ที่ได้ไป 30/37 Mbps ดีกว่ากันเล็กน้อย
สรุป
สำหรับใครที่อยากได้ Mesh Wi-Fi มาช่วยแก้ปัญหา Wi-Fi อับสัญญาณ โดยขอมีคุณภาพและราคาจับต้องได้ ตัว Mercusys Halo S12 ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว จากคุณภาพของความเป็น Mesh Wi-Fi ก็ทำออกมาได้ดีเลย ติดตั้งง่าย ช่วยแก้ปัญหาได้จริง และได้ความเร็วตามที่ควรได้ แม้อยู่ในจุดที่อับสัญญาณก็ตาม แต่ก็มีข้อสังเกตนิด ๆ ที่พอร์ต WAN/LAN เป็น 10/100 Mbps
ท้ายนี้ Mercusys Halo S12 ก็เปิดราคาที่ 1,790 บาท เท่านั้น มาพร้อมประกัน 1 ปี มั่นใจคุณภาพได้โดย TP-Link ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mercusys.co.th/product/details/halo-s12(2-pack) หาซื้อได้ที่ออนไลน์ หรือร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป
