ปกติเวลาเราใช้งานโน้ตบุ๊ก หลัก ๆ คงไม่พ้นการนั่งพิมพ์หรือต่อเมาส์เพื่อความสะดวก แต่หลังมีโน้ตบุ๊ก 2-in-1 เข้ามา จากเอานิ้วพิมพ์บนแป้นอย่างเดียว ก็มีจิ้มหน้าจอหรือไม่ก็เอาปากกา Stylus ขีดเขียนเพิ่มเติม ใช้งานได้หลากหลายขึ้น

ครั้งนี้เราอยู่กับเจ้า ASUS ZenBook Flip 14 UX463F เป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 รุ่นใหม่ ที่สามารถพับจอกลับหลังแบบ 360 องศาได้ และใช้สเปก Intel Gen 10th + NVIDIA GeForce MX250 (แบบเดียวกับ ASUS ZenBook 14 UX434 เป๊ะ ๆ) แต่ครั้งนี้มันมาพร้อม ScreenPad 2.0 หน้าจอสัมผัสตัวที่สอง ที่จะมาช่วยเพิ่มบทบาทการใช้งานโน้ตบุ๊ก 2-in-1 ให้สะดวกและสนุกยิ่งขึ้น

สเปก ASUS ZenBook Flip 14 UX463F

Display : จอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว 60Hz Glare ความละเอียด 1920 x 1080 มาพร้อม 72% NTSC
ScreenPad 2.0  : จอสัมผัสขนาด 5.65 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1080 บริเวณ Touchpad
CPU : Intel Core i7 10510U
VGA : NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 VRAM
RAM : 8GB LPDDR3 2133MHz
SSD :512GB PCIe Gen3 x2 SSD M.2
Wireless : Wi-Fi 6
Bluetooth : 5.0
Port : USB 3.1 Type-C (Gen 2) x 1 , USB 3.1 Type A (Gen 2) x 1 , USB 2.0 Type A x 1 , HDMI x 1, Combo audio jack x 1 และ micro SD card
Battery : 3 -Cell 50 Wh lithium-polymer
Weight : 1.3 kg (รวมที่ชาร์จเป็น 1.4 kg)
Dimension : 320 x 206 x 17.9 mm
Color : Black
OS : Windows 10 Home

วัสดุและดีไซน์

หากเทียบกับโน้ตบุ๊ก 2-in-1 จากตระกูล ZenBook ที่ผ่าน ๆ มา ตัว Flip 14 UX463F รุ่นนี้ ถือว่าออกแบบได้หรูหราสุด สวยขึ้น และดูต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด (จากเดิมที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กัน) ตัวเครื่องเป็นสีดำ แต่บางครั้งก็ดูเป็นสี Gunmetal ได้เหมือนกัน

โดยเฉพาะด้านนอกที่ไม่ดำสนิทซะทีเดียว ออกเทา ๆ เวลามีแสงไฟกระทบ ตัวเครื่องใช้อลูมิเนียมเป็นโครง บางส่วนเหมือนเป็นพลาสติกหุ้มภายนอกอีกที แต่ยังแข็งแรงทนทาน งานประกอบแน่นหนาดี และมีน้ำหนักค่อนข้างเบา

โดยน้ำหนักอยู่ที่ 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางตัวเครื่องก็อยู่ที่  320 x 206 x 17.9 มิลลิเมตร ขนาดเล็กกำลังดี สามารถพกพาได้สบาย ๆ 

บานพับ ErgoLift ก็ยังมาในร่าง 360 องศานี้ด้วย โดยหากกางจอเกิน 135 องศา ตัว ErgoLift ก็จะช่วยยกตัวแป้นพิมพ์ให้ขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง ช่วยให้กดแป้นพิมพ์ได้สะดวกขึ้น ส่วนช่องระบายความร้อน ตัวเครื่องจะมีรูตะแกรง 2 ฝั่ง แต่มีช่องระบายลมร้อนฝั่งเดียวเท่านั้น เท่ากับมีพัดลมระบายความร้อนตัวเดียว

พอร์ตเชื่อมต่อก็มี USB 3.1 Type-C (Gen 2) x 1 , USB 3.1 Type A (Gen 2) x 1 , USB 2.0 Type A x 1 , HDMI x 1, Combo audio jack x 1 และ micro SD card

ใต้เครื่องมีช่องดูดลมเข้าตามสไตล์ ZenBook (ที่มาพร้อม ErgoLift) และลำโพงสเตอริโอ ASUS SonicMaster Premium คู่ ที่ทาง Asus ร่วมพัฒนากับ Harman Kardon เจ้าเก่า  

การใช้งาน

ASUS ZenBook Flip 14 UX463F เป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 แบบ 360 องศา หรือคือโน้ตบุ๊กที่สามารถพับจอกลับหลังได้นั้นเอง ทำให้มีร่างใช้งานถึง 4 แบบ อาทิ Laptop Mode โหมดใช้งานปกติ, Stand Mode โหลดตั้งดูหนังหรือชมคลิป, Tent Mode เน้นพรีเซนต์งานหรือเล่นเกม และสุดท้าย Tablet Mode ถือใช้งานแบบแท็บเล็ตนั้นเอง

จอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว กับความละเอียด 1920 x 1080 แบบ 60Hz Glare มาพร้อม 72% NTSC ให้สีสันของภาพได้ค่อนข้างดี เกือบเทียบกับ Ultrabook รุ่นแพง ๆ ได้เลย

ในกล่องก็แถมตัว Asus Pen SA200H หรือปากกา Stylus รุ่นที่ 2 ให้ด้วย ตามสเปกคือ รองรับแรงกดที่ 1,024 ระดับ (เท่ารุ่นก่อนหน้า) ใช้งานได้ต่อเนื่อง 2 ชม. 

แม้จะมีแรงกดเพียง 1,024 ระดับ แต่ตัวเครื่องก็สามารถใช้ปากกาขีดเขียนได้ลื่นไหลอยู่นะ

พอใช้งานได้ครับ

อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยอย่าง ScreenPad 2.0 จอสัมผัสขนาด 5.65 นิ้วตรง Touchpad ที่มาพพร้อมความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล เรียกได้ว่าเป็นจอสัมผัสตัวที่สองของ ZenBook Flip 14 UX463F รุ่นนี้เลย คือตัวมันเองก็มีจอสัมผัสขนาด 14 นิ้วเป็นจอหลักอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็มีจอสัมผัสขนาดย่อมอีกตัวด้วยเช่นกัน

การใช้งานก็เหมือนกับเรามีจอ Monitor อีกตัวมาต่อเลย เราสามารถเอานิ้วลากโปรแกรมหรือเว็บเบราเซอร์จากหน้าจอหลัก มาแสดงผลใน ScreenPad 2.0 ได้ทันที ทั้งนี้ตัวจอ ScreenPad 2.0 เองก็มีฟีเจอร์เฉพาะตัวด้วยเหมือนกันอย่าง ASUS Utilities อาทิ Quick Key ปุ่มลัด, Handwriting การเขียนด้วยลายมือแล้วแปลงเป็นตัวอักษร และ Number Key หรือ Numpad เป้นต้น

คียบอร์ดมีไฟ LED Backlit สีขาว ทำให้ใช้งานตอนกลางคืนได้สะดวก 

ASUS ZenBook Flip 14 UX463F กับ ScreenPad 2.0

ประสิทธิภาพ

สเปกหลัก ๆ ของ ASUS ZenBook Flip 14 UX463F ก็มีซีพียู Intel Core i7-10510U (หรือ Core i5) กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 2GB และแรม 8GB LPDDR3 2133MHz + SSD ขนาด 512GB เหมือนรุ่น ZenBook 14 UX434 ที่เคยรีวิวไปทุกประการเลย ถึงอย่างนั้นเราก็จะจับมาทดสอบอยู่ดี ซึ่งก็ได้ผลตามนี้

รายละเอียดซีพียู Intel Core i7-10510U กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX250 2GB

ความเร็วอ่านเขียน SSD ขนาด 512GB PCIe ก็อยู่ที่ 1521 MB/s สำหรับ Read และ 1014 MB/s สำหรับ Write วัดจากโปรแกรม Crystal Disk Mark เร็วแรงใช้ได้

Cinebench R15 ได้คะแนนไป 764 cb ส่วนการ์ดจอได้ 89.18 fps

PC Mark 10 ก็เก็บคะแนนไป 3,934 เช่นเคย (รุ่น ZenBook 14 UX434 ได้ 3,947)

ส่วนการเล่นเกม ลองวัดด้วย 3D Mark โดยประเดิมด้วย Time Spy ก่อน ก็ได้คะแนนไป 457 ส่วน Fire Strike ได้ 1,167 ปิดท้ายด้วย Resident Evil 6 ได้เกรด C  (ในรุ่น ZenBook 14 UX434 เล่น Overwatch แบบปรับกราฟฟิก Medium ได้ FPS ระดับ 85 – 95) ถือว่าพอควรได้ แต่ไม่ควรเล่นเกมที่กินสเปกหนัก ๆ หรือปรับภาพสุด

เนื่องจากความร้อนตัวเครื่อง ที่หากใช้งานหนัก ๆ หรือเล่นเกม ก็มีอุณภูมิสูงสุดที่ 98 องศา กับอุณภูมิโดยเฉลี่ยที่ 77 องศากันเลย แต่หากใช้ดูหนัง ท่องเว็บ พิมพ์งาน หรือใช้งานทั่วไป ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถใช้งานได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องกลัวร้อน

สรุป

ตัว ASUS ZenBook Flip 14 UX463F เรียกได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 แบบ 360 องศาชั้นดีตัวหนึ่งเลย ด้วยวัสดุและดีไซน์ที่มีความหรูหราพอควร งานประกอบแน่นหนา ส่วนการใช้งานร่วมกับจอ ScreenPad 2.0 ด้วยความที่ตัวเครื่องมีจอสัมผัส 2 ตัวในร่างเดียว ทำให้ใช้งานระหว่างกันแบบไม่ต้องมีเมาส์ก็ได้  

ด้านสเปกก็เป็นไปตาม Ultrabook คือไม่ได้แรงแบบ Gaming หรือ Work Station แต่ด้วยตัวเครื่องยังมีการ์ดจอ MX250 ทำให้พอเล่นเกมได้ระดับหนึ่ง ส่วนการใช้งานทั่วไปคือสบาย ๆ เลย

สุดท้าย ASUS ZenBook Flip 14 UX463F เปิดราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาท (Core i5) กับ 35,990 บาท (Core i7) หรือรุ่นที่รีวิวนี้เองครับ