วิธีเลือกซื้อ Gaming Notebook เลือกสเปคยังไงให้คุ้มกับการเล่นเกม

ในขณะที่เดสก์ท็อปยังคงเหนือกว่าในการการเล่นเกม แต่หลายครั้งเราก็ต้องการอุปกรณ์ที่มันสามารถพกพาติดตัวได้

แต่เมื่อคิดจะซื้อ Gaming Notebook เราไม่เพียงแค่ต้องดูแค่เรื่องสเปค เพราะเรากำลังดูองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ทั้งหมด รวมถึงแป้นพิมพ์และจอแสดงผลในตัว บทความนี้ผมจะอธิบายการตัดสินใจทั้งหมดที่คุณต้องทำเมื่อ Gaming Notebook เพื่อให้คุณได้รับสิ่งสิ่งที่ดีที่สุดตามงบประมาณที่ตั้งไว้

Quick Tips

  • เลือกชิปกราฟฟิคแรง ๆ ไว้ก่อน : การเล่นเกมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ GPU และเราไม่สามารถอัพเกรดได้เพิ่มได้เหมือนแรม ฉะนั้น เลือกรุ่นที่ได้ชิปกราฟฟิคใหม่ เพื่อรับประกันว่าคอมเราจะเล่นเกมแบบHigh Setting ได้อีกสองสามปี
  • เลือกที่สามารถอัพเกรดเพิ่มได้ : Notebook Gaming มีอยู่สองส่วนหลัก ๆ ที่อัพเกรดเพิ่มได้คือแรม กับ Storage ซึ่งทำให้คอมเราใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น
  • เลือกความละเอียดหน้าภาพ : ควรเลือกความละเอียด 1920 x 1080 หากอยากให้แสดงผลในระดับ 4k และเลือกค่า Refresh Rate ที่ 144 Hz ขึ้นเพื่อทำให้ภาพสมูท
  • คีย์บอร์ดที่มีความแข็งแรง : ก่อนซื้อต้องลองกดดูว่ามันแข็งแรงพอไหม ซึ่งมันต้องไม่ก๊อกแก๊กน่ะนะ  (ความรู้สึกนี้มันบอกยางจริง ๆ นะ)


เลือก GPU ยังไงให้ได้ตามต้องการ

การเล่นเกมระดับเริ่มต้น : หากเราไม่ต้องการเล่นในการตั้งค่าสูงสุดในทุกเกม เราสามารถใช้ GTX 1650 ซึ่งจะช่วยให้สามารถเล่นเกมส่วนใหญ่ได้หมด (PuBG,Counter Strike Globlal , Overwatch, )

Mainstream Gaming : หรือการเล่นเกมที่ให้ค่ากราฟฟิคสูงขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม GeForce RTX 2060 ของ Nvidia ก็เป็นการ์ดระดับกลางที่ช่วยให้สามารถปรับค่า Setting ไปถึงระดับสูงสุดได้ (บางเกม) โดยที่ค่าเฟรมเรทนั้นไม่ตกมาก

การเล่นผ่าน VR และปรับสูงสุด : RTX 2070 จะให้เราเล่นอะไรก็ได้ในการตั้งค่าสูงในขณะที่ RTX 2080 หรือ RTX 2080 Ti เป็นการ์ดซีรีส์ที่ทรงพลังที่สุด 20 ซีรี่ส์และจะทำให้ VR และเอฟเฟกต์พิเศษราบรื่นขึ้น และแน่นอนว่าราคาของมันก็ไม่ใช่น้อยเลย

รายละเอียดอื่น ๆ ที่ควรมองเพิ่ม

ในขณะที่ GPU มีความสำคัญต้น ๆ แต่เราก็จะต้องมองหา CPU ที่ดีมี RAM เพียงพอและพื้นที่เก็บข้อมูลที่พอสำหรับเก็บเกมหลาย ๆ เกม
CPU : การเลือกซื้อ CPU ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา โดย Core – i5 หรือ Core i7 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรือหากอยากให้โอเวอร์คล็อกได้ก็เลือก Intel Core i9-8950HK แต่อย่างที่บอกไว้ข้างต้น เกมส่วนใหญ่จะใช้ GPU เป็นหลัก การเลือกซื้อจึงต้องดูรูปแบบการเล่นเกม

แต่หากเล่น StarCraft II ก็ต้องมีทั้ง CPU GPU และ RAM ที่มากพอ เพราะยูนิตนั้นกิน CPU มาก แต่หากอยากเล่น PUBG ก็เน้น GPU เป็นหลัก

RAM: การเล่นเกมอาจต้องใช้ RAM มากกว่าการใช้งานทั่วไป และเราอยากแนะนำ 8 GB ขึ้นไป และหากเพิ่มไปที่ 16GB ยิ่งดีที่สุดสำหรับเล่นเกม และโดยทั่วไปแล้ว Notebook Gaming ที่มาพร้อม GTX 1050 หรือ 1050 Ti มักให้แรมมา 8GB เมื่อคุณไปถึง GTX 1060 หรือสูงกว่าบางอย่างจะมาพร้อมกับ RAM ขนาด 16GB หรือหากหาไม่ได้ ก็ให้หาเครื่องที่สามารถอัพเกรดแรมในอนาคตได้

Storage : SSD หรือ HDD ดีล่ะ? ผมอยากแนะนำให้มีทั้งสองก็ได้นะ มี SSD ไว้สำหรับบูทหรือลงโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ ส่วน HDD (เดี๊ยวนี้อย่างต่ำก็มีให้ 1TBละ) เอาไว้สำหรับลงเกม หรือ โปรแกรมที่ไม่ได้ใช่บ่อย

การเลือกดูหน้าจอ

ขนาด : ส่วนใหญ่ Notebook Gaming จะมาพร้อมกับหน้าจอ 15 นิ้วและ 17 นิ้ว ซึ่งมีน้อยมากที่จะเป็น 14 นิ้ว การเลือกก็ดูว่าเราชอบขนาดเท่าไหร่ แต่จำไว่อย่างหนึ่งว่า หน้าจอยิ่งใหญ่ เครื่องก็จะหนักขึ้น

Refresh rate : สำหรับ Notebook Gaming ส่วนใหญ่ที่ราคาไม่ไม่แรงมาก จะมีหน้า Refresh rate อยู่ที่ 60 Hz แต่หากเล่นเกมที่มีการเปลี่ยนภาพไว ๆ ภาพมักจะแตก ถ้าสามารถเลือกซื้อที่ 144 Hz ได้จะดีที่สุด
หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจแบบ Touch Screen : เนื่องจากจอแบบ Touch Screen นั้นจะเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น และอาจกินแบตมากขึ้น

การเลือกดูคีย์บอร์ด

Key board ที่ปุ่มไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป : หากจะวัดจุดนี้ได้ เราอาจจำเป็นต้องลองกดเล่นดูก่อนว่ามันถนัดมือมากแค่ไหน
ขนาดของปุ่มกด : โดยทั่วไปแล้วขนาดจะมีมาตรฐานอยู่ แต่จะมีบางรุ่นที่ออกแบบคีย์บอร์ดมาเล็กกว่ามาตรฐานให้เพื่อให้ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ในตัวเครื่องได้

มีฟังก์ชั่น Anti-Ghosting : ให้สามารถกดปุ่มต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดได้พร้อม ๆ กัน ถ้าไม่อย่างนั้น เกิดปัญหาระหว่างเล่นแน่นอน

แบ็คไลท์ : โน๊ตบุ๊คราคาประหยัดจะมีแสงเดียวคือแสงสีขาว หรือ แสงสีแดง แต่ที่ราคาแพงขึ้นมาหน่อยจะเป็น RGB ที่สามารถปรับโหมดการกดได้ แต่ฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้มีผลใด ๆ ต่อการเล่นนะ มันแค่ช่วยให้สวยงามขึ้น ซึ่งยิ่งสวย ก็ยิ่งกินเงินในประเป๋าเพิ่มด้วย

Shops
แชร์ :
Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article